เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าสู่ร่างกายแล้ว อาหารก็จะเริ่มถูกย่อย และร่างกายก็จะเริ่มดูดซึมสารอาหาร เพื่อนำไปเลี้ยงร่างกาย ส่วนกากอาหารที่เหลือจากกระบวนการดังกล่าว จะถูกขับออกมาเป็นอุจจาระ ดังนั้น หากสังเกตให้ดีก็จะพบว่า สีของอุจจาระนั้นมีหลายสี โดยสีที่เป็นปกติ คือสีเหลือง หรือสีน้ำตาล แต่ถ้าอุจจาระมีสีเขียวนั่นอาจหมายถึงการบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างได้
อุจจาระสีเขียวเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
สีของอุจจาระนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะ หรือประเภทของอาหารที่รับประทานเข้าไป โดยอุจจาระสีเขียวเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ท้องเสีย เกิดจากอาหารนั้นไหลผ่านช่วงลำไส้รวดเร็วจนร่างกายผลิตน้ำดีไม่ทัน ไหลเร็วเกินกว่าน้ำดี โดยเฉพาะอาหารที่เป็นพวกกากใยไม่ผ่านการย่อยจากน้ำดี ส่งผลให้การย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ อุจจาระจึงเป็นสีเขียว ซึ่งก็คือสีของน้ำดีนั่นเอง ทั้งนี้ อาการท้องเสียร่วมกับอุจจาระสีเขียวจะมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำ หรือถ้าเป็นรุนแรงก็จะกลายเป็นสีขาวขุ่นหรือสีน้ำซาวข้าวได้
- ยาบางชนิด เช่น ยาที่เป็นธาตุเหล็ก
- อาหารประเภทผักใบเขียว เมื่อรับประทานในปริมาณมาก สีของคลอโรฟิลล์ในผักก็สามารถทำให้อุจจาระมีสีเขียวได้นั่นเอง
- อาหารและเครื่องดื่มที่ผสมสีเขียว อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของสีผสมอาหารสีเขียว หรือแม้แต่ชาเขียว ชะเอมเทศ ก็สามารถเป็นสาเหตุที่ทำให้อุจจาระมีสีเขียวได้
- น้ำนมที่ใช้เลี้ยงทารก ทารกที่กินน้ำนมส่วนหน้า (Foremilk) ปริมาณมากเกินไป มักเกิดจากคุณแม่ให้นมในแต่ละข้างไม่นานพอ ทำให้สีอุจจาระสีเขียวและเป็นฟองร่วมด้วย หรือทารกบางรายที่ได้รับนมผสมที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กมาก ก็ทำให้อุจจาระมีสีเขียวได้
การรักษาอุจจาระสีเขียว
หากอุจจาระสีเขียวเกิดจากสาเหตุที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายก็ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากเกิดจากโรค เช่น ท้องเสีย จะต้องรักษาด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- หากถ่ายเหลวเป็นสีเขียว เพราะท้องเสีย แต่ไม่มีอาการขาดน้ำ ได้แก่ รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง กระหายน้ำ ปากและคอแห้ง หรือหน้ามืด ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ เพราะสามารถหายได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์
ควรดื่มสารละลายเกลือแร่ ORS (Oral rehydration salt) เพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป และควรดื่มในปริมาณน้อยๆ แต่จิบบ่อยๆ หากดื่มไม่หมดภายใน 24 ชั่วโมง ให้ชงใหม่เท่านั้น
หรือทำได้เองด้วยการต้มน้ำให้เดือดและทิ้งไว้ให้เย็น ใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือแกงครึ่งช้อนชาละลายในน้ำต้มสุก ก็สามารถทดแทนได้เช่นกัน - ถ้าท้องเสียแล้วมีอาการขาดน้ำ ต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อจึงจะหายได้ เพราะอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไปด้วย
- ขณะที่มีอาการท้องเสีย ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย รสชาติไม่จัด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำผัก หรือน้ำผลไม้คั้นสด และห้ามกินชาหรือกาแฟ
- หากรักษาด้วยวิธีเบื้องต้นแล้วยังไม่หายขาด มีอาการอื่นร่วมด้วย หรือท้องเสียอย่างเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
การป้องกันและดูแลตัวเองไม่ให้เกิดอุจจาระสีเขียว
- เลือกรับประทานอาหารที่สด สะอาด และปรุงสุกใหม่ๆ
- ไม่ควรหายาสมุนไพรมารับประทานเอง และหากมีอาการท้องเสียอันเนื่องมาจากการรับประทานยาสมุนไพรระบายท้อง ให้ลดปริมาณการรับประทานลง
- สำหรับคุณแม่ที่ต้องให้นมทารก ควรให้นมในแต่ละข้างแก่ทารก ในระยะเวลาที่นานพอสมควร เพื่อป้องกันการกินนมส่วนหน้ามากเกินไป เพราะนมส่วนหน้ามีไขมันต่ำ แต่น้ำเยอะ ซึ่งจะกระตุ้นการขับถ่ายของทารก
เนื่องจากอุจจาระสีเขียวส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุที่ไม่เป็นอันตราย จึงไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป เพราะมักเกิดจากการรับประทานอาหารเข้าไปเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้ามีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวต่อเนื่องหลายครั้ง หรือมีไข้ร่วมด้วย อาการเหล่านี้ย่อมผิดปกติอย่างแน่นอน ดังนั้นจะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาสาเหตุและรักษาต่อไป
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพทั้งผู้หญิง และผู้ชายทุกวัย เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android