หนึ่งในภาวะอันตรายซึ่งน่ากังวลใจสำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกคน ถึงแม้ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด และไม่มีการรักษาใดที่ดีไปกว่าการคลอดลูกน้อยออกมา แต่คุณก็สามารถประเมินความเสี่ยง และเรียนรู้วิธีสังเกตอาการได้ด้วยตนเอง
ภาวะครรภ์เป็นพิษคืออะไร?
ภาวะนี้อาจถูกเรียกว่า อาการพิษแห่งครรภ์ (toxemia, preeclampsia) ภาวะครรภ์เป็นพิษเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ โดยจะมีลักษณะเฉพาะคือเกิดความดันโลหิตสูงในหญิงที่ไม่เคยเป็นความดันโลหิตสูงมาก่อน นอกจากนี้ ผู้หญิงที่เป็นภาวะครรภ์เป็นพิษนี้จะพบโปรตีนสูงในปัสสาวะ และมักมีอาการบวมตามเท้า, ขา และมือ โดยอาการนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในช่วงปลายๆ ของการตั้งครรภ์ แม้ว่าอาจจะมีโอกาสในบางรายที่เกิดขึ้นได้ก่อนหน้านั้นก็ตาม
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หากไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม ภาวะครรภ์เป็นพิษอาจนำไปสู่การชักร่วมกับครรภ์เป็นพิษ (eclampsia) ซึ่งเป็นภาวะอันตรายรุนแรงที่อาจทำให้คุณและลูกน้อยของคุณได้รับความเสี่ยงมากขึ้น และในบางกรณี อาจถึงแก่ชีวิตได้ ผู้หญิงที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษแล้วมีอาการชักร่วมด้วย จะมีเรียกว่าเกิดภาวะ eclampsia แล้ว
ไม่มีทางที่จะรักษาภาวะครรภ์เป็นพิษได้หายขาด ยกเว้นการคลอดบุตรเท่านั้น และนั่นอาจเป็นมุมมองที่น่ากลัวสำหรับคุณแม่ทุกคน แต่คุณสามารถช่วยป้องกันตัวเองได้ โดยการเรียนรู้ถึงอาการของภาวะครรภ์เป็นพิษ และ พบแพทย์เพื่อการดูแลก่อนคลอดตามนัดเป็นประจำ การทราบและวินิจฉัยภาวะนี้ได้ไวและทันท่วงที จะช่วยลดผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นทั้งแม่และลูกน้อยได้
สาเหตุครรภ์เป็นพิษคืออะไร?
สาเหตุที่แน่ชัดของภาวะครรภ์เป็นพิษและ การชักร่วมกับครรภ์เป็นพิษซึ่งเป็นผลมาจากรกที่ไม่ทำงานอย่างเหมาะสมนั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์แน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด แม้ว่านักวิจัยบางรายอาจสงสัยว่าสาเหตุอาจมากจากโภชนาการที่ไม่ดี หรือมีไขมันในร่างกายสูงอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วม การไหลเวียนของเลือดไม่เพียงพอไปยังมดลูกอาจเกี่ยวข้อง และพันธุกรรมนั้นก็มีบทบาทเช่นกัน
ใครเสี่ยงในการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษบ้าง
ภาวะนี้มักเกิดขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ครั้งแรกในแม่วัยรุ่น และในผู้หญิงอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป แม้ว่าภาวะนี้มักจะเจาะจงว่าเกิดขึ้นในสตรีที่ไม่เคยมีโรคความดันโลหิตสูงมาก่อน แต่ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ร่วมด้วยมีมากมาย ได้แก่ :
- ประวัติความดันโลหิตสูงก่อนตั้งครรภ์
- เคยมีประวัติภาวะครรภ์เป็นพิษก่อนหน้านี้
- มีมารดาหรือน้องสาวที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ
- ประวัติโรคอ้วน
- อุ้มท้องเด็กมากกว่าหนึ่งคน
- ประวัติโรคเบาหวาน โรคไต โรคลูปัส หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
อาการและอาการแสดงของภาวะครรภ์เป็นพิษคืออะไร?
นอกจากอาการบวม การพบโปรตีนในปัสสาวะ และความดันโลหิตสูงแล้วนั้น อาการครรภ์เป็นพิษจะมีลักษณะเพิ่มเติมดังต่อไปนี้:
- การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของของเหลวในร่างกายเป็นจำนวนมาก
- อาการปวดท้อง
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- การตอบสนองฉับพลันต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป
- ปัสสาวะน้อยลง หรือปัสสาวะไม่ได้เลย
- เวียนหัว
- อาเจียนและคลื่นไส้อย่างมาก
- กระทบต่อการมองเห็น
- เกิดอาการบวมขึ้นทันที ตามบริเวณใบหน้า มือ และดวงตา (อาการบวมตามเท้า และข้อเท้านั้นถือเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์)
- ความดันโลหิตสูงกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท
- การเพิ่มน้ำหนักอย่างฉับพลันใน 1 หรือ 2 วัน
- ปวดท้อง โดยเฉพาะในด้านขวาบน
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- ปัสสาวะได้น้อยลงมาก
- มองภาพเบลอ เหมือนมีไฟกระพริบ หรือเห็นภาพซ้อน
คุณควรขอความช่วยเหลือ หรือเข้าพบแพทย์ฉุกเฉินทันที หากคุณพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้:
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณยังสามารถมีภาวะครรภ์เป็นพิษได้แม้ไม่มีอาการใด ๆ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องไปพบแพทยเพื่อตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะเป็นประจำ สม่ำเสมอ
ภาวะครรภ์เป็นพิษจะมีผลต่อทารกและตัวคุณได้อย่างไร?
ภาวะครรภ์เป็นพิษ สามารถขัดขวางไม่ให้รกรับเลือดได้อย่างเพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ทารกเกิดออกมามีขนาดตัวที่เล็กมาก นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการคลอดก่อนกำหนด และภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่เป็นไปได้ ได้แก่ ความบกพร่องในการเรียนรู้ โรคลมชัก อัมพาตสมอง ปัญหาการได้ยิน และการมองเห็น เป็นต้น
ในสตรีที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ จะโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่หายากแต่ร้ายแรง ได้แก่:
- โรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
- โรคชัก (seizure)
- น้ำขังในปอด
- โรคหัวใจล้มเหลว
- ภาวะตาบอด แบบผันกลับได้
- ภาวะเลือดออกจากตับ
- ภาวะเลือดออกหลังคลอด
ภาวะครรภ์เป็นพิษอาจทำให้เกิดรกแยกออกจากมดลูกโดยฉับพลัน ซึ่งเรียกว่า ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Abruptio placentae) และภาวะนี้สามารถทำให้เกิดการตายคลอด (stillbirth) ของทารกได้
การรักษาภาวะครรภ์เป็นพิษและ การชักร่วมกับครรภ์เป็นพิษ
การรักษาเพียงอย่างเดียวสำหรับภาวะครรภ์เป็นพิษ และ การชักร่วมกับครรภ์เป็นพิษ คือ การคลอดบุตรของคุณ แพทย์ประจำตัวของคุณจะพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับเวลาที่จะให้กำเนิดลูกน้อยนี้ ขึ้นอยู่กับทารกของคุณเติบโตเพียงใด สุขภาพครรภ์ของคุณแข็งแรงแค่ไหน และความรุนแรงของภาวะครรภ์เป็นพิษของคุณ
- หากลูกของคุณมีพัฒนาการเพียงพอ -โดยปกติแล้วสามารถจะทำการคลอดเมื่ออายุครรภ์เป็นเวลา 37 สัปดาห์ หรือหลังจากนั้น แพทย์ของคุณอาจต้องทำการกระตุ้นคลอดร่วมกับการคลอดทางช่องคลอดแบบปกติ หรือทำการผ่าตัดคลอดซึ่งจะป้องกันไม่ให้ครรภ์เป็นพิษเลวร้ายลง
- หากลูกน้อยของคุณยังเติบโตไม่เพียงพอ - ช่วงเวลานี้ คุณและแพทย์ของคุณอาจสามารถรักษาภาวะครรภ์เป็นพิษด้วยวิธีอื่นได้ จนกว่าทารกจะมีพัฒนาการเพียงพอที่จะได้รับการคลอดอย่างปลอดภัย ยิ่งทำการคลอดใกล้ วันที่ครบกำหนดของคุณเท่าไร ก็จะยิ่งดีกว่าสำหรับลูกน้อยของคุณเท่านั้น
หากคุณมีภาวะครรภ์เป็นพิษอ่อนๆ เท่านั้น - แพทย์ของคุณอาจสั่งให้คุณ:
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- นอนพัก ทั้งที่บ้านหรือที่โรงพยาบาล คุณจะถูกขอให้พักผ่อนโดยวางตัวลงบนด้านซ้ายของคุณเป็นส่วนใหญ่
- สังเกตด้วยตัวเองอย่างรอบคอบ ถึง อัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ และทำการอัลตราซาวด์บ่อยๆ
- สั่งยาเพื่อลดความดันโลหิตของคุณ
- สั่งตรวจเลือดและปัสสาวะ
แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้คุณเข้านอนในโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบภาวะดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ในโรงพยาบาลคุณอาจได้รับ:
- ยาเพื่อช่วยป้องกันอาการชัก, ลดความดันโลหิต และป้องกันปัญหาอื่น ๆ
- ยาสเตียรอยด์ชนิดฉีด เพื่อช่วยให้ปอดของทารกน้อยพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
การรักษาอื่น ๆ ได้แก่ :
- ธาตุแมกนีเซียม ซึ่งสามารถฉีดเข้าไปในหลอดเลือดดำเพื่อป้องกันอาการชักที่เกี่ยวข้องกับภาวะครรภ์เป็นพิษ
- ยากลุ่ม Hydralazine หรือยาลดความดันเลือดอื่นๆ เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตที่รุนแรง
- ทำการตรวจสอบปริมาณของเหลวที่ได้รับ และปริมาณปัสสาวะที่ออกมา
ในกรณีที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง แพทย์ของคุณอาจต้องทำการคลอดลูกขอบคุณทันที แม้ว่าคุณจะไม่ใกล้เคียงกับวันกำหนดคลอดก็ตาม โดยอาการและอาการแสดงของภาวะครรภ์เป็นพิษควรจะหายไปภายใน 1-6 สัปดาห์หลังคลอด