จริงอยู่ว่า การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบห้าหมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ "น้ำ" ก็เป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้
ความสำคัญของน้ำ
น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรับสมดุลของร่างกาย โดยน้ำมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นหากเราได้รับน้ำในปริมาณที่น้อยเกินไป เซลล์ร่างกายก็จะแห้ง ซึ่งสังเกตได้จากผิวหนังที่เริ่มแห้ง หรือตกสะเก็ด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากนี้ น้ำยังมีส่วนช่วยในการลำเลียงสารไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ หรือปัสสาวะ อีกทั้งยังช่วยให้อุจาระไม่แข็งจนเกินไป
ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน
สำหรับคนทั่วไปให้คำนวณง่าย คือ นำน้ำหนักตัวคูณด้วย 33 โดยหน่วยเป็น CC
ตัวอย่าง เช่น มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม คุณก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 33 x 70 = 2,310 CC คือ 2 ลิตรกว่าๆ หรือประมาณง่าย คือ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
หากต้องออกกำลังกาย หรือทำงานหนัก คุณอาจต้องเพิ่มปริมาณน้ำที่ต้องดื่มในแต่ละวัน หรือหากต้องทำงานในสภาวะที่ต้องเสียเหงื่อเยอะ เช่น ทำงานกลางแสงแดด หรืออากาศร้อน
หรือหากร่างกายไม่ปกติ เช่น ได้รับสารเคมี ก็ควรดื่มน้ำในปริมาณมากๆ เพื่อช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังทำให้ผิวของเราสุขภาพดีอีกด้วย
การดื่มที่น้ำที่ถูกวิธี
การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ทั่วไป แต่ก็ยังมีข้อควรระวังบางอย่างที่คุณควรรู้ไว้บ้าง เช่น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำดื่มที่สะอาด ข้อนี้สำคัญมาก น้ำที่คุณดื่มควรเป็นน้ำที่สะอาด เพราะการดื่มน้ำที่ไม่สะอาด อาจเป็นพาหะนำเชื้อโรค หรือสารพิษเข้าสู่ร่างกายแทนที่จะเป็นข้อดี และอาจกลายเป็นอาการป่วยแทน
- ควรดื่มน้ำเปล่า ไม่ใช่น้ำหวาน คุณสามารถเติมส่วนผสมอื่นๆ ลงไปในน้ำได้ คุณอาจบีบมะนาวลงเล็กน้อย หรือส่วนผสมอื่น แต่ควรยังคงรูปน้ำที่ดื่มให้เป็นน้ำเปล่าเอาไว้ ไม่ใช่ผสมน้ำตาล หรือผงเครื่องดื่มจนกลายเป็นน้ำหวานไปเลย
คุณสามารถดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้ระหว่างวันได้ แต่ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และต้องดื่มน้ำเปล่าธรรมดาควบคู่ไปด้วย - อย่าดื่มน้ำเร็วเกินไป หรือมากเกินไป เมื่อกระหายน้ำ เรามักจะยกน้ำดื่มทีเดียวในปริมาณมากๆ ซึ่งนั่นเป็นการดื่มที่ผิดวิธี เพราะอาจทำให้เกิดอาการจุกได้
และที่สำคัญ การเดิมน้ำในปริมาณมากเกินไปจะทำให้อวัยวะภายบางส่วนทำงานหนัก เช่น กระเพาะปัสสาวะ การดื่มน้ำในปริมาณมากมีได้ 2 กรณีคือ ดื่มตอนตื่นนอนในตอนเช้า หรือดื่มเพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วย - อุณหภูมิของน้ำก็มีผล โดยทั่วไปเรามักนิยมดื่มน้ำเย็นเพื่อให้ความสดชื่น แต่น้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเรามากที่สุด คือ น้ำในอุณหภูมิห้อง เพราะร่างกายเราจะได้ไม่ต้องไปปรับสมดุลในด้านอุณหภูมิ
- เวลาที่ควร และไม่ควรดื่มน้ำ เมื่อตื่นนอน คุณควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 1 แก้ว และก่อนนอนไม่ควรดื่มน้ำ เพราะอาจต้องตื่นมาขับถ่ายกลางดึก
นอกจากนี้ คุณไม่ควรดื่มน้ำมากก่อนรับประทานอาหาร 15 นาที และหลังรับประทาน 45 นาที แต่ควรดื่มหลังจากรับประทานไปแล้ว 1 ชั่วโมง เพราะ การดื่มน้ำหลังจากเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จ จะไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหารได้
ผู้ที่เล่นกีฬาควรดื่มน้ำทุกๆ 15 นาที เพื่อป้องกันสภาวะขาดน้ำของร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และควรใช้วิธีจิบน้ำแทนการดื่ม เพื่อป้องกันอาการจุก
ข้อแนะนำเกี่ยวกับการดื่มน้ำ
ดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารสัก 15 นาทีจะช่วยลดปริมาณอาหารที่จะรับประทานลงได้ และควรมีน้ำติดตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อให้สะดวกเวลาที่กระหาย การดื่มน้ำที่ดี ควรดื่มครั้งละน้อยๆ แต่ให้ดื่มบ่อยๆ ด้วยการจิบแทน
การดื่มน้ำแม้จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่การดื่มน้ำครั้งละมากๆ หรือดื่มมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ เรียกว่า "อาการน้ำเป็นพิษ" ซึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะไม่สมดุล เลือดเจือจาง อีกทั้งระดับเกลือโซเดียมในร่างกายยังลดต่ำเกินไปด้วย
คงไม่มีใครคาดคิดว่า เรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น การดื่มน้ำจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเราได้อย่างมากมาย เราจึงควรสร้างนิสัยการดื่มน้ำที่ถูกต้องให้กับตัวเราเอง
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพทั้งผู้หญิง และผู้ชายได้ที่นี่ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android