ดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ดื่มอย่างไรจึงจะเพียงพอต่อร่างกายต้องการ

เรียนรู้วิธีดื่มน้ำอย่างเหมาะสม ดื่มอย่างไร ปริมาณเท่าไร เวลาไหนไม่ควรดื่ม
เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
ดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ดื่มอย่างไรจึงจะเพียงพอต่อร่างกายต้องการ

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • น้ำ เป็นส่วนประกอบสำคัญถึง 2 ใน 3 ขอร่างกายที่ขาดไม่ได้ หากขาดน้ำ เซลล์ในร่างกายจะเริ่มแห้ง ซึ่งสังเกตได้จากผิวหนังที่จะเริ่มขาดความชุ่มชื้น และเริ่มแห้งกรัง ตกเป็นสะเก็ด
  • วิธีคำนวณว่า คุณควรดื่มน้ำเท่าไร ให้นำเลข 33 คูณกับเลขน้ำหนักของคุณ และใช้หน่วยเป็น CC เช่น หากน้ำหนัก 65 กิโลกรัม ก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 33x65 = 2,145 CC
  • อุณหภูมิน้ำดื่มที่ดีที่สุด คือ น้ำในอุณหภูมิห้อง เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่ต้องปรับสมดุลด้านอุณหภูมิ และคุณไม่ควรดื่มน้ำก่อนกินอาหาร 15 นาที และหลังกินอาหาร 45 นาที เพื่อจะได้ไม่ไปรบกวนระบบย่อยอาหาร
  • หากดื่มน้ำมากเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โดยเรียกอาการนี้ได้ว่า “อาการน้ำเป็นพิษ” ซึ่งจะทำให้เลือดในร่างกายจางลง และทำให้สมดุลร่างกายผิดปกติ
  • การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นวิธีเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แต่นอกเหนือจากนั้น คุณยังควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหมั่นไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ (ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพทั้งผู้หญิง และผู้ชายทุกวัยได้ที่นี่)

จริงอยู่ว่า การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบห้าหมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ "น้ำ" ก็เป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ 

ความสำคัญของน้ำ

น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรับสมดุลของร่างกาย โดยน้ำมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของร่างกายมนุษย์  ดังนั้นหากเราได้รับน้ำในปริมาณที่น้อยเกินไป เซลล์ร่างกายก็จะแห้ง ซึ่งสังเกตได้จากผิวหนังที่เริ่มแห้ง หรือตกสะเก็ด 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

นอกจากนี้ น้ำยังมีส่วนช่วยในการลำเลียงสารไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ หรือปัสสาวะ อีกทั้งยังช่วยให้อุจาระไม่แข็งจนเกินไป 

ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน

สำหรับคนทั่วไปให้คำนวณง่าย คือ นำน้ำหนักตัวคูณด้วย 33 โดยหน่วยเป็น CC 

ตัวอย่าง เช่น มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม คุณก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 33 x 70 = 2,310 CC คือ 2 ลิตรกว่าๆ หรือประมาณง่าย คือ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว 

หากต้องออกกำลังกาย หรือทำงานหนัก คุณอาจต้องเพิ่มปริมาณน้ำที่ต้องดื่มในแต่ละวัน หรือหากต้องทำงานในสภาวะที่ต้องเสียเหงื่อเยอะ เช่น ทำงานกลางแสงแดด หรืออากาศร้อน 

หรือหากร่างกายไม่ปกติ เช่น ได้รับสารเคมี ก็ควรดื่มน้ำในปริมาณมากๆ เพื่อช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังทำให้ผิวของเราสุขภาพดีอีกด้วย

การดื่มที่น้ำที่ถูกวิธี

การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ทั่วไป แต่ก็ยังมีข้อควรระวังบางอย่างที่คุณควรรู้ไว้บ้าง เช่น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำดื่มที่สะอาด ข้อนี้สำคัญมาก น้ำที่คุณดื่มควรเป็นน้ำที่สะอาด เพราะการดื่มน้ำที่ไม่สะอาด อาจเป็นพาหะนำเชื้อโรค หรือสารพิษเข้าสู่ร่างกายแทนที่จะเป็นข้อดี และอาจกลายเป็นอาการป่วยแทน 
  • ควรดื่มน้ำเปล่า ไม่ใช่น้ำหวาน คุณสามารถเติมส่วนผสมอื่นๆ ลงไปในน้ำได้ คุณอาจบีบมะนาวลงเล็กน้อย หรือส่วนผสมอื่น แต่ควรยังคงรูปน้ำที่ดื่มให้เป็นน้ำเปล่าเอาไว้ ไม่ใช่ผสมน้ำตาล หรือผงเครื่องดื่มจนกลายเป็นน้ำหวานไปเลย 

    คุณสามารถดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้ระหว่างวันได้ แต่ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และต้องดื่มน้ำเปล่าธรรมดาควบคู่ไปด้วย
  • อย่าดื่มน้ำเร็วเกินไป หรือมากเกินไป เมื่อกระหายน้ำ เรามักจะยกน้ำดื่มทีเดียวในปริมาณมากๆ ซึ่งนั่นเป็นการดื่มที่ผิดวิธี เพราะอาจทำให้เกิดอาการจุกได้

    และที่สำคัญ การเดิมน้ำในปริมาณมากเกินไปจะทำให้อวัยวะภายบางส่วนทำงานหนัก เช่น กระเพาะปัสสาวะ การดื่มน้ำในปริมาณมากมีได้ 2 กรณีคือ ดื่มตอนตื่นนอนในตอนเช้า หรือดื่มเพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วย
  • อุณหภูมิของน้ำก็มีผล โดยทั่วไปเรามักนิยมดื่มน้ำเย็นเพื่อให้ความสดชื่น แต่น้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเรามากที่สุด คือ น้ำในอุณหภูมิห้อง เพราะร่างกายเราจะได้ไม่ต้องไปปรับสมดุลในด้านอุณหภูมิ
  • เวลาที่ควร และไม่ควรดื่มน้ำ เมื่อตื่นนอน คุณควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 1 แก้ว และก่อนนอนไม่ควรดื่มน้ำ เพราะอาจต้องตื่นมาขับถ่ายกลางดึก 

    นอกจากนี้ คุณไม่ควรดื่มน้ำมากก่อนรับประทานอาหาร 15 นาที และหลังรับประทาน 45 นาที แต่ควรดื่มหลังจากรับประทานไปแล้ว 1 ชั่วโมง เพราะ การดื่มน้ำหลังจากเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จ จะไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหารได้

ผู้ที่เล่นกีฬาควรดื่มน้ำทุกๆ 15 นาที เพื่อป้องกันสภาวะขาดน้ำของร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และควรใช้วิธีจิบน้ำแทนการดื่ม เพื่อป้องกันอาการจุก 

ข้อแนะนำเกี่ยวกับการดื่มน้ำ

ดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารสัก 15 นาทีจะช่วยลดปริมาณอาหารที่จะรับประทานลงได้ และควรมีน้ำติดตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อให้สะดวกเวลาที่กระหาย การดื่มน้ำที่ดี ควรดื่มครั้งละน้อยๆ แต่ให้ดื่มบ่อยๆ ด้วยการจิบแทน 

การดื่มน้ำแม้จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่การดื่มน้ำครั้งละมากๆ หรือดื่มมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ เรียกว่า "อาการน้ำเป็นพิษ" ซึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะไม่สมดุล เลือดเจือจาง อีกทั้งระดับเกลือโซเดียมในร่างกายยังลดต่ำเกินไปด้วย

คงไม่มีใครคาดคิดว่า เรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น การดื่มน้ำจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเราได้อย่างมากมาย เราจึงควรสร้างนิสัยการดื่มน้ำที่ถูกต้องให้กับตัวเราเอง

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพทั้งผู้หญิง และผู้ชายได้ที่นี่ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป