เราควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้วจริงหรือ?

ใครที่กำลังควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักอยู่ คงคุ้นกับคำกล่าวที่ว่า “ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8 แก้ว”
เผยแพร่ครั้งแรก 2 ก.ย. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
เราควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้วจริงหรือ?

ใครที่กำลังควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักอยู่ คงคุ้นกับคำกล่าวที่ว่า “ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8 แก้ว” อ้างอิงทฤษฎีที่สนับสนุนให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ ไว้ จะช่วยไม่ให้กินอาหารมากเกินไป คุณรู้ได้เลยว่าคนไหนกำลังทำตามคำแนะนำ เพราะพวกเขาจะต้องวนเวียนเข้าห้องน้ำอยู่บ่อย ๆ ครับ เจ้าทฤษฎี 8x8 นี้ (มาจาก 8 แก้ว แก้วละ 8 ออนซ์) ถูกนำมาใช้เป็นแนวทางสำหรับเรื่องต่าง ๆ อีกมาก นอกเหนือจากการลดน้ำหนักเป็นต้นว่า ทำให้ผิวเปล่งประกายราวกับผิวยอดนางแบบ ไปจนถึงการช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ถือเป็นการ “ขจัดพิษ”

ก่อนที่เราจะลงลึกไปกว่านี้ ผมอยากบอกว่าผมชอบน้ำเปล่าครับ การดื่มน้ำเปล่าเป็นสิ่งวิเศษสุด ผมถึงกับหวังด้วยซ้ำว่า ผู้ปกครองทั้งหลายจะเลือกน้ำเปล่า (แทนที่จะเป็นน้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มเกลือแร่) ให้เป็นเครื่องดื่มที่พวกโปรดปรานที่สุด แต่ถึงผมจะสนับสนุนน้ำขนาดนี้ ผมก็คิดว่าทางที่ดีที่สุดคือ ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าน้ำมีบทบาทสำคัญที่ทำให้กลไกของร่างกายทำงานได้อย่างราบรื่นเป็นปกติ คนที่ขาดอาหารยังมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าขาดน้ำ แต่ในภาวะปกติ ข้อเท็จจริงก็คือ ร่างกายมีกลไกที่ดูแลควบคุมปริมาณน้ำได้อย่างดีอยู่แล้ว นั่นคือเมื่อใดที่ร่างกายต้องการน้ำ คุณก็จะรู้สึกกระหาย

คำอธิบายดังนี้ครับ หน้าที่หลักของไต คือการรักษาน้ำและรักษาสมดุลเกลือในร่างกาย โดยสมดุลเกลือจะมีค่าอยู่ในช่วงแคบ ๆ การดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ เท่ากับทำให้ความเข้มข้นเกลือเจือจาง ไตจะขับน้ำเพิ่มขึ้น ปัสสาวะจึงเป็นสีจาง แต่เมื่อไหร่ที่คุณดื่มน้ำน้อย ไตจะพยายามเก็บน้ำไว้ ทำให้ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มขึ้น (และกลิ่นแรงขึ้นด้วย) และไม่ว่าคุณจะดื่มน้ำวันละ 8 แก้วหรือ 20 แก้ว ไตก็จะทำหน้าที่ของมันให้ดีที่สุด

ความขลังของเลข 8 นี้อาจย้อนรอยกลับไปในปีพ.ศ. 2488 เมื่อคณะกรรมการอาหารและสารอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา (the U.S. food and Nutrition Board) ซึ่งเป็นองค์กรสังกัดสถาบันการแพทย์ ได้เผยแพร่แนวทางการปฏิบัติเรื่องอาหารที่ดี และแนะนำให้ดื่มน้ำเท่ากับที่คำนวณว่าร่างกายใช้ในการสลายอาหารให้เป็นโมเลกุลเล็กลง ครั้นถึงปี 2549 แนวทางปฏิบัติที่แนะนำโดนสภาวิจัยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาได้ขยับตัวเลขขึ้นไปอีก เป็น 2.7 ลิตรต่อวัน สำหรับผู้หญิง และ 3.7 ลิตรต่อวัน สำหรับผู้ชาย หรือแปลงเป็นขนาดแก้วน้ำจุ 8 ออนซ์ (240 ซีซี) ได้เท่ากับ 11 แก้วสำหรับผู้หญิง และ 15 แก้วสำหรับผู้ชาย (ผู้ชายเราต้องดื่มน้ำวันละเกือบแกลลอนเชียวหรือนี่!) เป็นไปได้อย่างไร ยังดีที่ในคำแนะนำมีหมายเหตุรายละเอียดสำคัญบางประการไว้ด้วย นั่นคือ สำหรับผู้มีสุขภาพแข็งแรงจะไม่มีปัญหาขาดน้ำ หากดื่มน้ำเสมอเมื่อรู้สึกกระหาย หมายความว่ากลไกประเมินความเพยงพอของน้ำในร่างกาย จะแสดงให้คุณรู้เองว่า เมื่อไรสมควรดื่มน้ำและไม่ต้องกังวลว่า คุณจะต้องดื่มมากแค่ไหน ร่างกายของคุณจะได้รับน้ำเพียงพอเสมอ อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ อาหารทั่ว ๆ ไปมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำอยู่ 20% ของน้ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันได้มาจากอาหาร ยิ่งถ้าเป็นคนกินผักผลไม้เก่ง ยิ่งได้รับน้ำจากอาหารเพิ่มขึ้น เพราะผักผลไม้ส่วนใหญ่มีองค์ประกอบไม่ต่ำกว่า 80% เป็นน้ำ เนื้อสัตว์ก็มีน้ำ เช่น เนื้อไก่สุกมีน้ำอยู่ 60%

คนเราควรจะดื่มน้ำมากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ อุณหภูมิและความชื้นของอากาศรอบตัว ตลอดจนอาหารที่กินในวันนั้น ถ้าเป็นกิจกรรมหนัก คุณก็จะสูญเสียน้ำไปกับเหงื่อและการระเหย คุณจะรู้สึกหิวน้ำซึ่งเป็นวิธีที่ร่างกายเรียกร้องให้คุณดื่มน้ำชดเชย คนส่วนใหญ่ก็จะดื่มน้ำเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว ถ้ารู้ตัวว่าร่างกายเสียน้ำมาก

ในฐานะหมอ มีหลายครั้งที่ผมแนะนำให้คนไข้ดื่มน้ำมากขึ้น คนไข้ที่เป็นหวัดถ้ามีไข้ต่ำ ๆ และหายใจเร็วขึ้นร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ผมต้องบอกให้คุณทราบว่า ไม่มีผลการศึกษาชิ้นไหนเลยที่สนับสนุนว่าการดื่มน้ำมากขึ้น จะช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น คำแนะนำนี้มาจากประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยและอิงหลักวิทยาศาสตร์มากกว่าจะเป็นผลการศึกษาวิจัย


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
How much water should you drink?. Harvard Health. (https://www.health.harvard.edu/staying-healthy/how-much-water-should-you-drink)
Six to eight glasses of water ‘still best’. NHS (National Health Service). (https://www.nhs.uk/news/food-and-diet/six-to-eight-glasses-of-water-still-best/)
How Much Water Do You Need? Can You Drink Too Much?. WebMD. (https://www.webmd.com/diet/features/water-for-weight-loss-diet#1)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป