ต้นยางนา เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ กระจายอยู่ทั่วแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นต้นไม้ที่ให้มูลค่ามาก
ชาวบ้านนิยมปลูกยางนาบริเวณคันนา เพราะมีคุณสมบัติในการยึดหน้าดิน เหมาะสำหรับปลูกพื้นที่ลาดชัน ภูเขา หรือพื้นที่การเกษตร ป้องกันดินถล่มได้เป็นอย่างดี
เนื้อไม้ของยางนานำมาเป็นวัสดุก่อสร้างได้ นอกจากนี้ ยางนา ยังเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยา ใช้รักษาโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
สรรพคุณทางยาต้นยางนา คืออะไร?
ภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้านในประเทศไทย ใช้ส่วนต่างๆ ของต้นยางนา ดังนี้
- เปลือกต้น รสฝาดขม นำมาต้มเดือด ดื่มแก้ตับอักเสบ บำรุงร่างกาย ฟอกโลหิต หรือต้มเคี่ยวใช้เป็นน้ำมันนวด ทาภายนอก แก้อาการปวดข้อต่างๆ
- เมล็ดและใบ รสฝาดร้อน นำมาต้มน้ำผสมเกลือเล็กน้อย อมหลังแปรงฟันเช้า-เย็น ครั้งละประมาณ 10-20 วินาที แก้อาการปวดฟัน
- น้ำมันยางนา รสร้อน ใช้ทาแก้แผลเน่าเปื่อยหรือแผลมีหนอง แก้โรคเรื้อน นำแอลกอฮอล์กับน้ำยางอัตราส่วน 2:1 มาต้มดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ รักษาแผลในระบบทางเดินปัสสาวะ แก้ระดูขาวผิดปกติ หรือใช้ผสมกับเมล็ดกุยช่ายคั่วให้เกรียม บดเป็นผง อุดแก้ฟันผุ
ส่วนตำราการแพทย์อายุรเวทอินเดีย ได้ใช้สรรพคุณจากน้ำมันหอมยางนา (Gurjan oil) เช่น
- รักษาโรคในระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ โดยในบันทึกเภสัชตำรับของอินเดียกล่าวว่า น้ำยางมีคุณสมบัติในการกระตุ้นสร้างเยื่อเมือก และมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ นอกจากนี้ยังรักษาอาการะดูขาวหรือตกขาวได้
- รักษาโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคเรื้อน แผลเน่า แผลเปื่อย ประสิทธิผลจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้คู่กับขี้ผึ้ง
- ใช้เป็นสุคนธบำบัดหรือการบำบัดด้วยกลิ่นสมุนไพร รักษาภาวะอารมณ์แปรปรวน และช่วยหลั่งสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และยับยั้งอาการปวด
นอกจากใช้น้ำมันยางนาแล้ว ตามตำรายาอายุรเวทอินเดียยังใช้เปลือกต้นต้มเป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยฟอกลือดและแก้ตับอักเสบ
ยิ่งไปกว่านั้น จากการวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพของต้นยางนาในห้องปฏิบัติการ พบว่า
- ยางนามีฤทธิ์ต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย เชื้อ HIV และต้านการอักเสบ โดยพบสารเรสเวอราทรอลอลิโกเมอร์ (Resveratrol oligomers) ปริมาณมาก ซึ่งเป็นสารที่พืชสร้างขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง มีคุณสมบัติในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระมีประสิทธิภาพสูง และยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ควบคุมระดับไขมันในเส้นเลือดให้อยู่ในสภาวะปกติ
- มีฤทธิ์ในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง เนื่องจากมีอนุพันธ์กลุ่มไตรเตอร์พีนอยด์ (Triterpenoid) สามารถต้านมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่เกิดในสุนัข และเซลล์มะเร็งที่เกิดในคน เช่น มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด
- สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้ต้านเชื้อไวรัสได้
- ใบยางนามีสรรพคุณในการป้องกันโรคฝันผุ เนื่องจากมีฤทธิ์ในการต้าน ยับยั้งการเจริญเติบโต และทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ S. Mutan
- ป้องกันโรค เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จากการทดลองโดยการต้มน้ำ ส่วนดอก ใบ เปลือก เนื้อไม้และรากยางนา พบปริมาณสารประกอบฟีนอล (Phenol) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) มีคุณสมบัติในการป้องกันโรคต่างๆ ได้
เวชสำอางจากยางนา
จากการศึกษาคุณสมบัติของยางนาที่เป็นประโยชน์ทางเวชสำอางของมหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่า สารสกัดจากใบ ดอก และน้ำมันยางนา (Gurjun oil) มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว
สามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง จึงช่วยในการลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
สารสกัดจากเปลือกต้นยางนาเมื่อสกัดออกมาแล้วจะมีสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งมักใช้เป็นสารในการเตรียมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ และมีคุณสมบัติในการดูแลผิวหน้าครอบคลุมทุกสภาพผิว มีฤทธิ์ชะลอวัย ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทดแทนเซลล์ผิวหนังชั้นบนที่ถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อม ยับยั้งเอนไซม์ทีเกี่ยวข้องในการสร้างเม็ดสี ช่วยให้หน้ากระจ่างใส
ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับผิว ลดการอักเสบและอาการแพ้ได้อีกด้วย
นอกจาการใช้ในเวชสำอางแล้ว ส่วนที่เป็นน้ำมันหอมระเหยของยาวนายังถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของน้ำหอมในแถบยุโรป
อย่างไรก็ตาม การเลือกผลิตภัณฑ์เวชสำอางควรอ่านฉลากและเลือดผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา และควรทดสอบการแพ้ก่อนทาบริเวณใบหน้า
ทั้งนี้หากเกิดอาการแพ้หรือมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง
ยางนา มีโทษหรือข้อควรระวังในการใช้อย่างไร?
ส่วนต่างๆ ของยางนามีฤทธิ์ร้อน ไม่เหมาะในการใช้สำหรับสตรีตั้งครรภ์ เด็ก และผู้ที่มีไข้
ทั้งนี้ การใช้ประโยชน์ยางนาทางการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง ไม่ควรซื้อหามาใช้เอง หากใช้แล้วมีอาการแพ้เช่น หายใจไม่ออก มีผื่นขึ้นตามลำตัว ให้หยุดและรีบพบแพทย์ทันที