อาการท้องเสีย ท้องร่วง มักเกิดจากการทานอาหารที่ไม่สะอาด หรือทานอาหารรสจัด ซึ่งใครๆ ก็คงเคยเป็นทั้งนั้น แต่บางทีว่าที่คุณแม่มือใหม่ก็มักมีอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้คุณแม่รู้สึกกังวลใจ ว่าอาการแบบนี้ผิดปกติไหม และจะส่งผลต่อเจ้าตัวเล็กในท้องหรือไม่ ... วันนี้เรามีคำตอบมาไขข้อสงสัยให้ว่าที่คุณแม่แล้วค่ะ
ท้องเสียขณะตั้งครรภ์ เป็นเรื่องปกติไหม?
หากคุณแม่ระมัดระวังเรื่องอาหารการกินอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังไม่วายเกิดท้องเสียขึ้นมาได้ ขอให้คุณแม่ทำใจให้สบายและไม่ต้องกังวล เพราะอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องปกติ และแตกต่างจากการท้องเสียทั่วๆ ไป สาเหตุที่ทำให้ท้องเสียขณะตั้งครรภ์มักเกิดจากการมีฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ส่งผลให้เกิดการบีบตัวของลำไส้มากกว่าปกติ หรือบางครั้งบริเวณลำไส้อาจถูกมดลูกกดทับ ทำให้รู้สึกปวดท้องอยากถ่ายบ่อยๆ นอกจากนี้ การรับวิตามินบางชนิด ก็อาจส่งผลให้เยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ระคายเคืองได้เช่นกัน อาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์มักเกิดแค่ช่วงสั้นๆ และคุณแม่บางคนก็อาจท้องเสียสลับกับท้องผูก แต่หากมีอาการท้องเสียนานเกิน 2-3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะเราอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะร่างกายขาดน้ำได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ท้องเสียขณะตั้งครรภ์ อันตรายต่อลูกในครรภ์หรือไม่?
อาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ ไม่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์แต่อย่างใด นอกเสียจากการที่ลำไส้บีบตัวรุนแรงขึ้น จนไปรบกวนเจ้าตัวเล็กในท้องบ้างเท่านั้น บางครั้งคุณแม่เลยอาจรู้สึกว่าลูกดิ้นแรงขึ้นได้ แต่ถ้าคุณแม่ท้องเสียเกิน 2-3 วัน หรือท้องเสียรุนแรง ถ่ายวันละหลายครั้ง จนเริ่มมีภาวะขาดน้ำ ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง ตาโหล หน้ามืด อ่อนแรง ถือว่าเป็นภาวะวิกฤตที่ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะภาวะร่างกายขาดน้ำนั้นเป็นอันตรายร้ายแรงทั้งต่อทารกในครรภ์และต่อตัวคุณแม่เองด้วย
การดูแลตัวเองเมื่อท้องเสียขณะตั้งครรภ์
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด และอาหารแข็งที่ย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน และหันมาทานอาหารอ่อนรสจืดๆ เช่น โจ๊ก ซุป เนื้อปลา
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เช่น นม ชีส ผลไม้แห้ง
- ดื่มน้ำผสมเกลือแร่เพื่อรักษาสมดุลน้ำและแร่ธาตุในร่างกาย และป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ออกแรงมาก
ถ้าไม่ใช่ท้องเสียธรรมดา แต่เป็นอาหารเป็นพิษล่ะ?
ท้องเสียธรรมดาอาจไม่สาหัสเท่าไหร่ แต่ถ้าท้องเสียท้องร่วงนั้นมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไข้ขึ้น อ่อนแรง และปวดท้องบิดรุนแรงแล้วล่ะก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นคืออาการของ อาหารเป็นพิษ ซึ่งมีความรุนแรงกว่าท้องเสียธรรมดามาก และไม่ใช่ภาวะปกติ ดังนั้น หากเกิดอาการอาหารเป็นพิษระหว่างตั้งครรภ์ ควรปฏิบัติดังนี้
- รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด หรือภายใน 24 ชั่วโมงตั้งแต่มีอาการ
- ไม่ควรซื้อยาทานเอง โดยเฉพาะยาแก้ท้องเสียและยาแก้อาเจียน เพราะนอกจากพิษจากเชื้อโรคจะไม่หายไปแล้ว ยังอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้
- ต้องรีบแก้ไขภาวะร่างกายขาดน้ำจากการถ่ายและอาเจียนหลายครั้ง โดยการดื่มน้ำผสมเกลือแร่บ่อยๆ หรือถ้าร่างกายอ่อนเพลียมาก อาจต้องรักษาที่โรงพยาบาลและให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ
สิ่งที่ควรระวังอย่างยิ่งในคุณแม่ที่เป็นอาหารเป็นพิษ คือภาวะร่างกายขาดน้ำนี่แหละ เพราะเป็นภาวะที่อันตรายมาก และอาจส่งผลร้ายแรงต่อตัวคุณแม่และลูกในครรภ์ด้วย ดังนั้น หากสังเกตว่าอาการท้องเสียของเราไม่ใช่ท้องเสียธรรมดา ควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด