เมื่อตั้งครรภ์ ภูมิคุ้มกันร่างกายที่ต่ำลงกว่าปกติอาจทำให้ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น สภาพร่างกายที่เจ็บป่วยย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ไปด้วย
แม้จะเป็นเพียง "โรคไข้หวัด" แต่หากเจ็บป่วยในระหว่างตั้งครรภ์ก็ต้องมีวิธีรักษาที่ซับซ้อนกว่าเดิม เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อแม่และทารกในครรภ์น้อยที่สุด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ยารักษาโรคไข้หวัดที่ปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์
ช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์คือ ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยามากที่สุดโดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อพัฒนาการของอวัยวะสำคัญในร่างกายทารก
แพทย์บางท่านอาจให้งดการใช้ยาไปจนถึงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ เพื่อความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ ส่วนตัวยาจัดว่าปลอดภัยหากใช้หลังจากตั้งครรภ์ไปแล้ว 12 สัปดาห์ ได้แก่
- ตัวยาที่มีส่วนผสมของสารเมนทอลสำหรับถูหน้าอก ขมับ ใต้จมูก
- ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) สำหรับลดอาการ และเป็นไข้
- ยาลดอาการไอในช่วงกลางคืน
- ยาขับเสมหะระหว่างวัน
- ยาในกลุ่มแคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium-carbonate) หรือยาใช้รักษาอาการแสบร้อนกลางหน้าอก คลื่นไส้ มวนท้อง
- ยาน้ำแก้ไอ
- ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาเดกซ์โตรมีธอร์แฟน (Dextromethorphan)
ยารักษาโรคไข้หวัดที่ไม่ปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตัวยาที่กล่าวไปข้างต้นจะปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาผสมหลายๆ ตัวเพื่อรักษาอาการที่เกิดขึ้นหลายอย่าง
ทางที่ดีควรเลือกใช้ยาเพียง 1 ตัวเท่านั้น เพื่อรักษาอาการที่เกิดขึ้นไปทีละอาการ อย่าเพิ่งใช้ยาพร้อมๆ กันหลายตัว
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต่อไปนี้ขณะตั้งครรภ์ หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ได้
- ยาแอสไพริน (Aspirin)
- ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
- ยานาพรอกเซน (Naproxen)
- ยาโคเดอีน (Codeine)
- ยาแบคทริม (Bactrim)
วิธีรักษาโรคหวัดขณะตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
นอกจากการรับประทานยาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยยังควรดูแลร่างกายให้ดีเพื่อให้อาการป่วยหายดีขึ้นโดยเร็ว และไม่ทำให้อาการของโรคส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารก เช่น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าปล่อยให้ร่างกายอ่อนเพลีย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะในช่วงที่มีอาการไข้หวัดจนน้ำมูกไหล หรือคัดจมูก สารน้ำในร่างกายจะออกจากร่างกายมากกว่าปกติ
- หมั่นกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ อยู่เสมอ หากมีอาการไอ หรือเจ็บคอ
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามปกติ เน้นผักสดและผลไม้สดเพื่อเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ
- ไม่ต้องอดอาหาร หรือรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็น
- ดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
- หากมีไข้ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นธรรมดา หากไม่จำเป็นไม่ต้องใช้ยารักษา
หากอาการโรคไข้หวัดแย่ลง ให้ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้
- หยอดจมูกด้วยน้ำเกลือเพื่อลดอาการคัดจมูก บรรเทาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อในจมูก
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายขับความร้อนออกมาผ่านปัสสาวะ อาการไข้จะได้ลด
- เปลี่ยนจากการพักอยู่ในห้องแอร์ ไปอยู่ในที่มีแสงแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทสะดวก และไม่ควรอยู่ในที่แออัด มีผู้คนมาก เพราะอาจเสี่ยงติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้มากกว่าเดิม
- ทำให้อุณหภูมิรอบตัวอบ มีความอุ่นชื้นเพียงพอเสมอ คุณอาจใช้เครื่องทำไอน้ำ หรือสูดไอน้ำร้อนเพื่อให้จมูกโล่ง และหายใจสะดวกขึ้น
- ดื่มน้ำอุ่น รับประทานอาหารอ่อนๆ ที่อุ่นร้อนเพื่อลดอาการอักเสบในลำคอ ลดเสมหะ และอาการคัดจมูก
- ประคบร้อน หรือประคบเย็น เพื่อลดอาการปวดในโพรงจมูก
ระยะอาการป่วยที่ควรไปพบแพทย์
หากอยู่ระหว่างตั้งครรภ์และมีอาการโรคไข้หวัดดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- มึนศีรษะ
- หายใจลำบาก
- เจ็บ หรือแน่นหน้าอก
- เลือดออกทางช่องคลอด
- สับสน
- อาเจียนอย่างรุนแรง
- หลังใช้ยาพาราเซตามอล แต่ยังมีไข้สูง อาการไม่ดีขึ้น
- ทารกเคลื่อนไหวลดลง
คำแนะนำอื่นๆ สำหรับป้องกันอาการป่วยเป็นไข้หวัดขณะตั้งครรภ์
- ดูแลสุขอนามัยร่างกายให้สะอาด
- หมั่นล้างมืออย่างถูกวิธีเสมอๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังจากไปสัมผัสสิ่งของสาธารณะมา
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้วิตามินและแร่ธาตุเพียงพอต่อร่างกายของคุณกับเด็กในครรภ์ โดยเฉพาะผลไม้ ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคไข้หวัดได้ดี เช่น ส้ม อะโวคาโด ฝรั่ง แอปเปิล ลิ้นจี่ แก้วมังกร กล้วย ทับทิม แตงโม
- ลดใช้สารเคมีบางประเภทและอยู่ให้ห่างจากสารพิษบางชนิด เช่น เครื่องสำอาง น้ำยาย้อมผม น้ำผอม น้ำยาซักผ้า น้ำยาทำความสะอาด
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน งดเสพยาเสพติด งดสูบบุหรี่
- งดรับประทานอาหารรสจัด
- ใส่เสื้อผ้าที่สบาย
- หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่อาจปรึกษาแพทย์ด้วยว่า ควรออกกำลังกายอย่างไรให้เหมาะกับอายุครรภ์
- อย่าปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกินไป
- ไม่ทำงานหนัก หรือทำงานหักโหมจนร่างกายอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ไม่กลั้นปัสสาวะ
- ไปตรวจครรภ์ตามนัดของแพทย์ทุกครั้ง รวมถึงหมั่นไปตรวจสุขภาพเป็นประจำด้วย
- อย่าปล่อยให้ตนเองเกิดภาวะเครียด วิตกกังวล ควรทำให้สุขภาพจิตของตนเองดีอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่แออัดไปด้วยผู้คนเพราะตัวการที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดมากที่สุดคือ การติดเชื้อไวรัสจากผู้อื่น หากคุณต้องทำงานในที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนอาจเปลี่ยนไปทำงานที่บ้านแทน
นอกจากนี้หญิงตั้งครรภ์ยังสามารถไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ แต่ทางที่ดีก่อนรับวัคซีนป้องกันโรคใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้วัคซีนส่งผลกระทบต่อร่างกายของทารก
นอกจากตัวคุณแม่แล้ว ว่าที่คุณพ่อก็ต้องคอยดูสุขภาพของคุณแม่ไปด้วย เพื่อไม่ให้คุณแม่รับภาระหนักในการดูแลตนเองเพียงลำพัง หรืออาจรู้สึกเครียดเกี่ยวกับภาวะสุขภาพของตนเองมากเกินไป
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์ คลอดบุตร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android