โคล่าไม่ใช่เครื่องดื่มสำหรับบำรุงสุขภาพ ผู้ผลิตจำหน่ายก็ไม่เคยโฆษณาในแนวนั้น เน้นโฆษณาในแง่รสชาติ และความรู้สึกพึงพอใจสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเมื่อได้ดื่ม ผู้บริโภคที่ดื่มโคล่าเป็นประจำ คงไม่ได้หวังพึ่งในด้านคุณประโยชน์ทางโภชนาการ นอกจากช่วยดับกระหายแล้วคงอยากให้รสที่ถูกใจ ถึงกระนั้นก็ควรรู้ว่าในเครื่องดื่มนี้มีส่วนผสมของอะไรบ้าง
รสหวานเป็นรสเด่นของโคล่า รองลงมาเป็นกลิ่นรสของเครื่องเทศ เช่นวานิลา อบเชย กานพลู และมีรสส้มหรือรสมะนาวแฝงอยู่เล็กน้อย รสรองนี้เองคือรสที่ปกปิดกันหนักหนา ถือเป็นความลับสุดยอด ผู้บริโภคไม่มีโอกาสรู้ รู้แต่เพียงว่า เพื่อให้กลิ่นรสเหล่านั้นคงทน จำเป็นต้องใส่สารปรุงแต่งบางอย่าง ส่วนจะได้รับอันตรายจากสารปรุงแต่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณที่เลือกใช้
รสหวานนั้นพอบอกได้ว่ามาจากน้ำตาล ผู้ผลิตอาจเติมน้ำตาลเทียมลงไปบ้างเพื่อลดต้นทุนการผลิต หากใช้น้ำตาลเป็นสารทำให้หวานเพียงอย่างเดียว เครื่องดื่มประเภทโคล่า 1 แก้วขนาด 8 ออนซ์ หรือ 240 มิลลิลิตร ให้น้ำตาลประมาร 2 ช้อนโต๊ะ ซึ่งให้พลังงานประมาณ 120 แคลลอรี นับว่าเป็นพลังงานว่างเปล่า เพราะให้คาร์โบไฮเดรทเพียงอย่างเดียว ไม่ให้สารอาหารอื่นเลย ยกเว้นน้ำ สำหรับคนที่ต้องการพลังงานอีกย่อมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่สำหรับบางคนอาจเป็นพลังงานที่เหลือใช้ถูกนำไปเปลี่ยนเป็นไขมัน เพิ่มน้ำหนักตัว น้ำตาลในน้ำอัดลมก็เหมือนน้ำตาลในอาหารอื่น หากติดฟันอยู่นานย่อมเป็นเหตุให้ฟันผุ ถึงน้ำตาลในเครื่องดื่มจะไม่ติดฟันง่ายเท่าน้ำตาลในทอฟฟี่หรือช็อคโกแลต พ่อบ้านแม่เรือนควรหมั่นดูแลให้ลูกหลานทำความสะอาดฟัน จึงจะไม่ต้องเสี่ยงกับฟันผุ
สิ่งที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเมื่อดื่มน้ำอัดลมประเภทนี้คือ คาเฟอีน รู้สึกเหมือนได้ดื่มกาแฟ เครื่องดื่มประเภทโคล่า 1 แก้วใหญ่ขนาด 12 ออนซ์ มีคาเฟอีนประมาณ 35-50 กิโลกรัมเท่ากับได้กินกาแฟ 1/3 ถ้วย เพื่อหลีกเลี่ยงโทษของคาเฟอีนที่มีต่อสุขภาพ หญิงมีครรภ์แม่ลูกอ่อน หรือเด็กเล็ก ๆ จึงไม่ควรดื่มน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของโคล่ามาก เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคในอเมริกา มีโคล่าที่สกัดคาเฟอีนออกแล้วจำหน่าย
น้ำโคล่ามีฤทธิ์เป็นกรด เท่า ๆ กับน้ำส้ม (มี pH เท่ากับ 2.5 -3) ส่วนใหญ่ใช้กรดฟอสฟอริคผสมเพื่อให้ออกรสเปรี้ยวน้อย ๆ บางบริษัทอาจใช้กรอซิตริค และกรดมาลิคผสมด้วย กรดในเครื่องดื่มประเภทนี้ละลายแร่ธาตุในฟันได้ จึงทำให้บางคนรู้สึกเข็ดฟัน
คนที่ห่วงเรื่องโซเดียมในอาหารวางใจได้เมื่อดื่มโคล่า พราะมีโซเดียมน้อยมาก ยกเว้นโซเดียมในเกลือที่คนช่างดัดแปลงเติมลงไปให้ออกรสหวานปนเค็ม
สีดำของโคล่า เป็นสีของน้ำตาลไหม้ที่เรียกว่าคาราเมล เป็นสีธรรมชาติที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารหลายอย่าง ที่มีสีใกล้เคียงกันมากที่สุด เห็นจะได้แก่ น้ำซีอิ๊ว หากวางโคล่าเทียบกับน้ำซีอิ๊วอย่างดี อาจดูไม่ออกว่าถ้วยไหนใส่อะไร ต้องสังเกตจากฟองอากาศในน้ำอัดลม
สรุปได้ว่า เมื่อดื่มเครื่องดื่มประเภทโคล่าเพื่อดับกระหาย จะได้น้ำตาล คาเฟอีน กรด และสารปรุงแต่งบางอย่างแถมมากับน้ำด้วย