การรักษาโรคตับแข็งไม่สามารถทำให้ความเสียหายของตับย้อนกลับไปได้เหมือนเช่นเดิม แต่สามารถหยุดยั้งหรือชะลอการเกิดโรค และลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่าง ๆ ได้
ทางเลือกในการรักษานั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่เป็นสาเหตุของโรคตับแข็ง และภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ถ้ามี
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การดูแลตนเองที่บ้านสำหรับโรคตับแข็ง
- หยุดดื่มแอลกอฮอล์ หากคุณหยุดดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด คุณจะทำให้โรคดำเนินไปช้าลง และรู้สึกสุขภาพดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงยาที่อาจเป็นอันตรายต่อตับของคุณ เช่น ยาพาราเซตามอล หรือที่เป็นอันตรายต่อไตของคุณ เช่น ยาไอบูโพรเฟน แจ้งแพทย์ประจำตัวคุณ หรือเภสัชกรถึงภาวะนี้ หากต้องได้รับยาใด ๆ
- ลดการบริโภคเค็ม หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการคั่งของของเหลว อาหารที่มีโซเดียมต่ำจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าว
- รับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สมดุล และมีปริมาณโปรตีนที่เพียงพอ นอกจากนี้ หากคุณสามารถทได้ คุณอาจต้องทานวิตามินรวมทุกวันเสริมด้วย
- แต่หากคุณเคยมีอาการของโรคสมองที่เกิดจากโรคตับ (hepatic encephalopathy) คุณควรลดปริมาณการบริโภคโปรตีนลง
การรักษาทางการแพทย์สำหรับโรคตับแข็ง
การรักษาโรคตับแข็งส่วนใหญ่ คือการบรรเทาภาวะแทรกซ้อน อย่างไรก็ตาม บางสาเหตุที่เป็นสาเหตุของโรคตับแข็ง เช่น โรควิลสันสามารถรักษาได้ด้วยยา
- ยาหลายประเภท เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยากลุ่ม penicillamine และสารต้านการอักเสบ (colchicine) ได้ถูกศึกษาสำหรับการรักษาโรคตับแข็ง แต่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถยืดอายุของผู้ป่วย หรือปรับปรุงอัตราการรอดชีวิตได้หรือไม่
- ในปัจจุบัน นักวิจัยกำลังศึกษาวิธีการรักษาที่เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพสำหรับโรคตับแข็ง
สำหรับการรักษาตามภาวะแทรกซ้อนของโรคมีได้ดังนี้:
ภาวะความดันสูงในระบบหลอดเลือดดำของตับ (Portal hypertension):
บางคนจะได้รับการรักษาด้วยยากลุ่ม beta-blocker เพื่อลดความดันในหลอดเลือด
น้ำคั่งในช่องท้อง (Ascites):
การไหลเวียนของเลือดผ่านตับที่ช้าลง จะทำให้ความดันในหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้น แรงดันเหล่านี้จะบังคับให้ของเหลวออกจากหลอดเลือด และเข้าไปสะสมคั่งอยู่ในเนื้อเยื่ออื่น ๆ
- แพทย์ประจำตัวของคุณอาจจ่ายยาขับปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยขจัดของเหลวออกจากร่างกายของคุณ โดยยานี้จะทำให้คุณปัสสาวะบ่อยขึ้น
- แพทย์ประจำตัวของคุณอาจเจาะเข็มลงบนช่องท้องโดยตรง เพื่อเจาะเอาของเหลวจำนวนมากออกมา อย่างไรก็ตาม ของเหลวเหล่านั้นก็จะสามารถกลับมาคั่งได้เช่นเคย
- หากของเหลวที่คั่งอยู่ติดเชื้อด้วย คุณจะต้องนอนโรงพยาบาลและได้รับยาปฏิชีวนะผ่านทางหลอดเลือดดำ
โรคสมองจากตับ (Hepatic encephalopathy):
หากมีอาการรุนแรง คุณจะต้องนอนโรงพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณรู้สึกสับสน และไม่สามารถดูแลตัวเองได้
- คุณจะได้รับ lactulose ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยลดปริมาณสารพิษที่ดูดซึมเข้าสู่ลำไส้ของคุณ
- คุณจะเริ่มได้รับประทานอาหารที่มีโปรตีนต่ำ
- การรักษาทั้ง 2 วิธีนี้ ได้ผลดีใน 75 เปอร์เซนต์ของผู้ป่วยโรคสมองจากตับทั้งหมด
แต่หากอาการไม่รุนแรง คุณอาจตรวจและได้กลับบ้าน โดยถูกแนะนำให้ทานสาร lactulose ทุกวัน และเปลี่ยนอาหารที่ทานให้มีโปรตีนต่ำ ซึ่งจะได้นัดกลับมาตรวจซ้ำหรือกลับมาเมื่อมีอาการ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด (Clotting disorders):
การได้รับปริมาณโปรตีนที่มากเพียงพอ และการทานวิตามินเสริมสามารถช่วย แก้ไขความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือดได้
อาการคัน
ยาหลายชนิด สามารถลดอาการคันได้
ทางเลือกการรักษาโรคตับแข็งด้วยการผ่าตัด
รูปแบบการผ่าตัดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดในระยะยาว คือ การผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายตับ (Liver transplantation)
- ในการผ่าตัดนี้ ตับที่เป็นโรคจะถูกตัดออก และแทนที่ด้วยตับที่มีสุขภาพดีจากผู้บริจาคอวัยวะ
- คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการปลูกถ่ายตับจะมีชีวิตรอดต่อได้ยาวนานขึ้น
- เช่นเดียวกับในขั้นตอนการปลูกถ่ายอวัยวะอื่น ๆ การรักษาเพื่อบรรเทาอาการทั้ง ก่อนและหลังการผ่าตัดมีความสำคัญมากในการกำหนดโอกาสสำเร็จของการผ่าตัดดังกล่าว
ภาวะความดันสูงในระบบหลอดเลือดดำของตับ (Portal hypertension):
มีการผ่าตัดหลายรูปแบบ ที่สามารถทำได้เพื่อปรับเปลี่ยนเส้นทางการไหลเวียนของเลือดในตับเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด เพื่อช่วยลดความดันในหลอดเลือดตับ อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ การผ่าตัดอาจทำให้ภาวะโรคสมองจากโรคตับ หรือภาวะน้ำคั่งในช่องท้องรุนแรงขึ้นไปอีกได้
ภาวะเลือดออกจากเส้นเลือดขอด
ถ้าคุณมีเลือดออกจากบริเวณเส้นเลือดขอดตามหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหาร คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะมีเกิดภาวะเสียเลือดมากจนเสียชีวิตได้
- คุณจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกว่าภาวะเลือดออกดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม
- หากคุณมีเลือดออกจากเส้นเลือดขอดในหลอดอาหาร แสดงถึงโอกาสในการเสียชีวิตสูงถึง 30 - 50 เปอร์เซ็นต์ระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และสูงขึ้นไปถึงประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ หากมีภาวะเลือดออกมากกว่าหนึ่งครั้ง
ถ้าคุณสูญเสียเลือดในปริมาณมาก การรักษาที่สำคัญจะเน้นไปที่การคืนของเหลวที่สูญเสียไปให้ได้ไวและเพียงพอที่สุด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- คุณจะได้รับการตรวจเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะควบคุมภาวะเลือดออกได้ และการไหลเวียนโลหิตของคุณเสถียรเพียงพอ
- จะมีการเจาะวางท่อน้ำเกลือขนาดใหญ่สองเส้น เพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป
- คุณอาจต้องการออกซิเจนเสริม จนกว่าคุณเริ่มต้นที่จะได้รับของเหลวทดแทนบ้างบางส่วน
- คุณอาจต้องได้รับการถ่ายเลือด
การตรวจภาวะเลือดออกจากหลอดอาหารนั้นทำได้โดยการสอดท่อเล็ก ๆ ลงไปตามจมูกของคุณเข้าสู่กระเพาะอาหารเพื่อดูดเลือดที่คั่งอยู่ เมื่อพบว่ามีภาวะเลือดออกแล้ว ก็จะมีวิธีการต่าง ๆ มากมายในการควบคุมภาวะแทรกซ้อนนี้
- การฝังบอลลูนชนิดบวมตัวได้ (Balloon inflation) เพื่อบีบหลอดเลือดดำไม่ให้เลือดไหลผ่าน
- ยาที่ช่วยลดการไหลเวียนของโลหิตเข้าไปในตับ
- ผูกมัดเส้นเลือดที่มีการฉีกขาด
กลุ่มอาการโรคไตเนื่องจากโรคตับ (Hepatorenal syndrome):
ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าภาวะตับวายในบางกรณี อาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้เช่นกัน
- โรคไตวายมักทำให้อวัยวะอื่น ๆ ทั่วร่างกายล้มเหลวตามไป ดังนั้น ภาวะนี้ถือเป็นอันตรายต่อชีวิต
- การปลูกถ่ายตับเป็นการรักษาเฉพาะที่มีประสิทธิภาพดีในการรักษาภาวะแทรกซ้อนรุนแรงนี้
มะเร็งตับ
ผู้ป่วยที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างต่อตับอย่างต่อเนื่อง มักจะเกิดโรคมะเร็งตับก่อนที่พวกเขาจะเกิดโรคตับแข็งเสียอีก
- ผู้ป่วยมะเร็งตับอาจเสียชีวิตภายใน 3-6 เดือนหลังจากการวินิจฉัยหากว่ามะเร็งไม่ได้รับการรักษา
- แม้จะได้รับการรักษาที่เหมาะสม ผู้ป่วยมะเร็งตับก็สามารถมีชีวิตอยู่ไม่เกิน 5 ปี
- การผ่าตัดเป็นโอกาสเดียวสำหรับการรักษา แต่ถ้าตรวจพบช้าเกินไป โรคมะเร็งอาจลุกลามมากเกินไปเกินกว่าจะดำเนินการผ่าตัดได้
- การปลูกถ่ายตับเป็นทางเลือกการรักษาที่ได้รับพิจารณา
การพยากรณ์โรคตับแข็ง
การฟื้นตัวของคุณขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคตับแข็งว่ารุนแรงแค่ไหน และไม่ว่าคุณจะสามารถขจัดหรือหยุดสาเหตุได้เท่าใดก็ตาม การปลูกถ่ายตับยังคงถือเป็นการรักษาที่ดีที่สุด แต่ตับที่สามารถนำมาปลูกถ่ายนั้นมีจำกัด และยังต้องมีการรักษาประคับประคองต่อเนื่องต่อไป