“ฉันพยายามจะลดไขมัน ฉันจะวิ่งในระดับหนึ่งเพื่อเผาผลาญไขมันด้วยการวิ่งได้หรือไม่”
การวิ่งเป็นวิธีที่ดีสำหรับการลดน้ำหนักและรอบเอว แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการ “เผาผลาญไขมัน” และการ “ลดไขมัน” เช่นเดียวกันกับเมื่อต้องการจะลดน้ำหนัก
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ความหมายของการเผาผลาญไขมันโดยการลดน้ำหนักคืออะไร
ร่างกายใช้คาร์โบไฮเดรตและไขมันเป็นแหล่งพลังงานหลักในการวิ่ง โดยอัตราส่วนของคาร์โบไฮเดรตและไขมันจะเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความเร็วและความหนักหน่วงในการวิ่ง สำหรับการวิ่งที่หนักหน่วง เช่น การอออกกำลังเป็นช่วง ๆ ร่างกายจะใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมากกว่าไขมันเนื่องจากให้พลังงานได้เร็วกว่า สำหรับการวิ่งที่ยาวนานและช้ากว่า ร่างกายจะเริ่มใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงาน
จะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อลดไขมันจากการวิ่ง
คุณคิดว่า ถ้าอย่างนั้นแค่วิ่งช้า ๆ เยอะ ๆ ก็น่าจะลดไขมันได้แล้วใช่มั้ย ? นั่นไม่ถูกต้อง เมื่อคุณพยายามจะลดน้ำหนัก ก็ไม่สำคัญว่าคุณใช้พลังงานจากอะไร เพียงแค่การที่คุณใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานไม่ได้แปลว่าคุณกำลังสูญเสียไขมันในร่างกายหรือใช้แคลอรี่มากขึ้น สำหรับการลดน้ำหนัก คุณต้องใช้พลังงานให้มากกว่าที่คุณได้รับ ง่าย ๆ แค่นั้นเอง การวิ่งก็เหมือนกับการออกกำลังกายอื่น ๆ คือยิ่งออกกำลังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้พลังงานไปมากเท่านั้น
จะใช้พลังงานให้มากขึ้นไปกับการวิ่งได้อย่างไร
คุณสามารถวิ่งอย่างหนักสูงขึ้นได้ เพื่อให้ใช้พลังงานไปกับการวิ่งมากขึ้น การวิ่งที่ระดับความหนักสูงคือการวิ่งที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจของคุณเป็น 80-90% ของอัตราการเต้นของหัวใจที่มากที่สุดของคุณ คุณไม่ได้วิ่งผลัด แต่คุณก็จะไม่สามารถวิ่งไปคุยไปไหวอย่างแน่นอน
แม้ว่าคุณจะเผาผลาญพลังงานไปได้มากกว่าจากการวิ่งที่ระดับหนัก แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องไม่วิ่งที่ระดับความหนักตลอด บางช่วงการวิ่งของคุณควรอยู่ในระดับเบาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บจากการใช้งานมากเกินไป และให้โอกาสร่างกายของคุณได้พักฟื้นและฟื้นฟูตัวเองให้แข็งแรงยิ่งขึ้น การปรับระดับความหนักให้มีความหลากหลายยังดีต่อการวิ่งของคุณ เพราะจะไม่ทำให้คุณเหนื่อยหรือรู้สึกเบื่อหน่ายอีกด้วย
หากคุณวิ่งหลายวันในแต่ละสัปดาห์มาเป็นเวลาหลายเดือนและเริ่มคงตัวแล้ว ก็ถือว่าปลอดภัยต่อการเริ่มวิ่งในระดับหนักหนึ่งถึงสองครั้งต่อการออกกำลังกายหนึ่งสัปดาห์ คุณสามารถลองวิ่งโดยให้ระดับการใช้แรงของคุณอยู่ที่ประมาณ 80-90% เป็นเวลา 20 นาที (หลังจากการอุ่นเครื่องอย่างเหมาะสม) หรืออาจออกกำลังกายเป็นช่วง ๆ โดยการสลับการวิ่งเร็วเป็นช่วงสั้น ๆ หนึ่งถึงสองนาที สลับการวิ่งเบา ๆ หนึ่งถึงสองนาที ลองทำสักสิบชุด โดยเมื่อคุณแข็งแรงมากขึ้น คุณก็สามารถเพิ่มจำนวนชุด หรือเพิ่มระยะเวลาต่อชุดได้