กาฬโรคเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่เกิดจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า "เยอซิเนียเพสติส" (Yersinia pestis) โดยโรคนี้มีอีกชื่อหนึ่งคือ "มรณะดำ" (Black Death) ซึ่งแพร่ระบาดอย่างหนักในยุโรปยุคกลางและยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ แต่มีผู้ติดเชื้อน้อยรายมากๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1900-2012
มีผู้ป่วยกาฬโรคในสหรัฐอเมริกาประมาณ 1,000 ราย และมากกว่า 80% ของผู้ป่วยเหล่านี้เป็นกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองตามรายงานของวารสารโรคติดต่อฉุกเฉิน (Journal Emerging Infectious Diseases) กาฬโรคเป็นได้ทุกช่วงอายุ แต่กว่า 50% ของผู้ป่วยอยู่ในช่วงอายุ 12-45 ปี ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กาฬโรคติดต่อทางไหนบ้าง?
เชื้อเยอซิเนียเพสติสซึ่งเป็นสาเหตุของกาฬโรค เป็นเชื้อที่มักพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและเห็บของสัตว์เหล่านี้ ซึ่งจะแพร่กระจายไปสู่คนได้จากวิธีต่อไปนี้
- การถูกหมัดที่มีเชื้อกัด
- การสัมผัสกับของเหลวหรือวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อ
- การหายใจเอาเชื้อกาฬโรคปอดเข้าไป
หลังจากได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะแสดงอาการภายใน 1-7 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักตัว เช่น มีไข้ หนาวสั่น ปวดหัว ปวดตัว อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
อาการของกาฬโรค
กาฬโรคมี 3 รูปแบบ คือ
- กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง
- กาฬโรคเลือด
- กาฬโรคปอด
กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง เป็นกาฬโรคแบบที่พบบ่อยที่สุด ไม่แพร่กระจายจากคนสู่คนโดยตรง แต่จะแพร่เชื้อเมื่อถูกตัวหมัดหรือเห็บกัด ซึ่งตัวหมัดจะมีแบคทีเรียเยอซิเนีย เพสติส ซึ่งได้รับมากจากหนูหรือสัตว์ฟันแทะที่ติดเชื้ออีกทีหนึ่ง เชื้อแบคทีเรียจะกระจายจากแผลที่ถูกกัดไปต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้ที่สุด ทำให้เกิดการอักเสบของต่อมทอนซิล (Tonsil) ต่อมอะดีนอยด์ (Adenoid) และต่อมไทมัส (Thymus)
กาฬโรคเลือด เป็นการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเกิดขึ้นประมาณ 10% ของกาฬโรคทั้งหมด และแพร่เชื้อโดยการถูกตัวหมัดที่มีเชื้อกัด แต่ก็สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยกาฬโรคโดยตรง หรือเป็นกาฬโรคแบบอื่นอยู่เดิมแล้วเชื้อแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด
กาฬโรคปอด กาฬโรคปอดเป็นสาเหตุของภาวะปอดติดเชื้อ โดยก่อนจะเป็นกาฬโรคปอดได้ จะต้องเป็นกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองหรือกาฬโรคเลือดมาก่อน แล้วเชื้อกระจายเข้าสู่ปอด หรืออาจเป็นกาฬโรคปอดได้จากการได้รับเชื้อเมื่อคนที่เป็นกาฬโรคปอดไอหรือจามออกมา แล้วตนเองหายใจเอาละอองที่มีเชื้อนั้นเข้าไป กาฬโรคปอดเกิดขึ้นประมาณ 8% ของกาฬโรคทั้งหมด จึงจัดเป็นกาฬโรคแบบที่พบน้อยที่สุด แต่แพร่เชื้อได้มากที่สุดและมีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยมากที่สุด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การระบาดของกาฬโรค
ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ มีการระบาดของกาฬโรค 3 ครั้ง ครั้งแรกเกิดที่ศูนย์กลางของอาณาจักรไบเซนไทน์ ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรียกว่า "กาฬโรคจัสตินเนียน" (the Justinian Plague) เริ่มอุบัติขึ้นเมื่อ 541 ปีก่อนคริสตกาล การระบาดมีเวลายาวนานกว่า 200 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 25 ล้านคน ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค
ครั้งที่สอง "มรณะดำ" ( Black Death) หรือกาฬโรคอันยิ่งใหญ่ (Great Plague) เริ่มต้นจากประเทศจีนในปี ค.ศ. 1334 แล้วแพร่กระจายสู่ยุโรปผ่านเส้นทางการค้า โดยคร่าชีวิตประชาการชาวยุโรปกว่า 60%
ครั้งที่สามในปี ค.ศ. 1860 ที่เรียกว่า "กาฬโรคยุคใหม่" (The Modern Plague) เริ่มจากประเทศจีนแล้วแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกผ่านเรือกลไฟที่นำหนูที่ติดเชื้อไปยังท่าเรือต่างๆ ทั่วโลก
ทุกวันนี้มีผู้ป่วยกาฬโรครายใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉลี่ยปีละ 7 คน ส่วนใหญ่อยู่ในชนบทแถบตะวันตก และมีผู้ป่วยกาฬโรครายใหม่ทั่วทั้งโลกปีละ 1,000-2,000 คน ตามรายงานขององค์กรอนามัยโลก (WHO) ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในมาดากัสการ์ คองโก และเปรู อย่างไรก็ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคคาดว่าแท้จริงแล้วอาจมีจำนวนผู้ป่วยมากกว่านี้
กาฬโรคในสุนัขและแมว
สุนัขและแมวสามารถติดเชื้อกาฬโรคและแพร่เชื้อสู่เจ้าของและสัตวแพทย์ได้ ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรครายงานว่า แมวเป็นแหล่งแพร่เชื้อกาฬโรคแหล่งใหญ่สู่มนุษย์ และกาฬโรคที่พบในแมวส่วนใหญ่เป็นกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองใต้ขากรรไกรของแมวโตขึ้น
แมวจะแพร่กาฬโรคต่อมน้ำเหลืองสู่คนด้วยการข่วนหรือกัด ทั้งยังสามารถแพร่ทางอ้อมผ่านตัวหมัด นอกจากนี้แมวยังแพร่กาฬโรคปอดสู่คนด้วยการไอหรือจามได้อีกด้วย ขณะที่สุนัขจะแสดงอาการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อติดกาฬโรค แต่ก็สามารถแพร่เชื้อสู่คนได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ในปี ค.ศ. 2014 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรครายงานว่า มีผู้ป่วยกาฬโรคปอดซึ่งติดจากสุนัขรายแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั้งสุนัขและแมวติดกามโรคจากตัวหมัดที่มีเชื้อ และติดจากการไปกัดหรือถูกกัดโดยสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู และกระรอก
การวินิจฉัยกาฬโรค
ฝีที่ต่อมน้ำเหลืองซึ่งเกิดจากกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองมักจะถูกวินิจฉัยผิดพลาดว่าเกิดจากแผลถูกกัดหรือสาเหตุอื่นๆ ทำให้ยากที่จะวินิจฉัยกาฬโรคด้วยสายตา การยืนยันผลการวินิจฉัยจึงต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งมักจะใช้การเก็บตัวอย่างน้ำหนองเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่
การรักษากาฬโรค
การติดเชื้อกาฬโรคปอดที่ไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว (ภายใน 18-24 ชั่วโมง) ดังนั้นหากสังเกตถึงอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ร้ายแรง โดยการรักษานั้นจะใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อ
การป้องกันเชื้อกาฬโรค
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ช่วยป้องกันเชื้อกาฬโรคได้ แต่มีการให้ยาปฏิชีวนะแก่ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อ นอกจากนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันโรคนี้
- กำจัดแหล่งอาศัยของสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู รอบบริเวณบ้าน และไม่ทิ้งอาหารล่อหนู หากพบว่ามีหนูอาศัยในบ้านหรือในบริเวณใกล้เคียงให้รีบจัดการหรือแจ้งผู้เชี่ยวชาญให้มาจัดการทันที
- กำจัดหมัดในสัตว์เลี้ยง โดยใช้ยาฆ่าหมัดตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
- สวมใส่ถุงมือทุกครั้งเมื่อต้องสัมผัสกับสัตว์ที่อาจติดเชื้อ
- ระวังไม่ให้ถูกหมัดหรือสัตว์ฟันแทะกัดเมื่อไปในที่ที่อาจพบเจอกับสัตว์เหล่านี้
แผลพุงพองตามร่างกายเรื้อรังเกิดจากไขมันในเลือดสูงหรือไม่