วิธีกินยาคุมครั้งแรก ให้ปลอดภัย คู่มือสำหรับมือใหม่ (ตอนที่ 2)

รวมทุกเรื่องที่ “มือใหม่หัดใช้ยาคุม” ต้องรู้ เพื่อการกินยาคุมกำเนิดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (ตอนที่ 2)
เผยแพร่ครั้งแรก 1 ม.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 2023 ตรวจสอบความถูกต้อง 14 มี.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 9 นาที
วิธีกินยาคุมครั้งแรก ให้ปลอดภัย คู่มือสำหรับมือใหม่ (ตอนที่ 2)

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิดแผงแรกว่า จะต้องเริ่มกินเมื่อไร ได้ที่บทความ วิธีการกินยาคุมครั้งแรกอย่างปลอดภัย ตอนที่ 1
  • วิธีการกินยาคุมกำเนิดแผงแรกจะแตกต่างกันไปตามชนิดของยาคุมกำเนิด โดยในบทความกล่าวถึงยาคุมกำเนิด 5 ชนิด ได้แก่ ชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว ชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 21 เม็ด และ 22 เม็ด ชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ดที่มีแถบสีแดง และแบบที่ไม่มีแถบสีแดง
  • ยาคุมกำเนิดแต่ละชนิดมีข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้ยาคุมจึงขึ้นอยู่กับข้อจำกัด ความถนัด หรือความจำเป็นของแต่ละบุคคล
  • การกินยาคุมกำเนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ เป็นสิว ปวดศีรษะ รอบเดือนผิดปกติ เจ็บหน้าอก หรือหน้าอกใหญ่ขึ้น หรือมีอาการซึมเศร้า หากมีอาการรุนแรง คุณสามารถขอคำแนะนำจากแพทย์เพื่อเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะกับตัวคุณได้
  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้คุณรู้เท่าทันโรค (ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพได้ที่นี่)

หลังจากทราบกันแล้วว่าควรเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกเมื่อไหร่ ในบทความ “มือใหม่หัดใช้ยาคุม (ตอนที่ 1)” คราวนี้มาต่อกันเรื่องวิธีกินยาคุมกำเนิดกันบ้าง

หลายๆ คนคงสงสัยว่า ทำไมยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อถึงมี 21 เม็ด บางยี่ห้อมีจำนวนมากกว่านั้น บางยี่ห้อมีเฉพาะเม็ดยาฮอร์โมน แต่บางยี่ห้อมีเม็ดยาหลอกด้วย บางยี่ห้อมีแถบสีแดงและให้เริ่มใช้ยาในส่วนนี้ก่อน แต่บางยี่ห้อไม่มีการระบุดังกล่าว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ชนิดของยาคุมกำเนิดที่แตกต่างกันนี้ อาจทำให้คุณไม่แน่ใจว่า วิธีการกินที่ถูกต้องเป็นอย่างไร และต้องกินเหมือนกันไหม ในบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับวิธีกินยาคุมกำเนิดที่ถูกต้องในแต่ละชนิด

วิธีกินยาคุมกำเนิดแผงแรก

ในบทความนี้จะขอแบ่งเป็น 5 กรณีตามชนิดของยาคุมกำเนิด ดังนี้

1. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว

ตัวอย่างยี่ห้อยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว: เอ็กซ์ลูตอน เดลิตอน และซีราเซท

ใน 1 แผงจะมียา 28 เม็ด โดยเป็นเม็ดยาฮอร์โมนที่เหมือนกันทั้งหมด ไม่มีเม็ดยาหลอก ยาคุมชนิดนี้ต้องกินต่อเนื่องกันทุกวันโดยไม่ต้องเว้นช่วงปลอดฮอร์โมน

คุณสามารถเริ่มกินยาเม็ดใดในแผงก็ได้ โดยเลือกเม็ดยาตามวันในสัปดาห์ให้ตรงกับวันที่ใช้จริง เช่น สมมติว่าวันที่เริ่มใช้เป็นวันพุธก็แกะยาของวันพุธมาใช้ ซึ่งจริงๆ แล้วจะแกะเม็ดวันพุธของแถวที่ 1 2 3 หรือ 4 ก็ได้ แต่เพื่อให้ง่ายต่อการใช้และไม่สับสนจะนิยมแกะเม็ดวันพุธในแถวแรกของแผงตามภาพนี้

จากนั้นก็กินไล่ตามลูกศรไปเรื่อยๆ จนครบทุกเม็ดในแผง และเริ่มแผงใหม่โดยเลือกเม็ดที่ตรงกับวันที่ใช้เช่นเดิม หรืออาจจะแกะเม็ดยาในแถวแรกที่อยู่ก่อนเม็ดที่เริ่มใช้ทิ้งไปเลยก็ได้ ตามตัวอย่างคือ แกะยาเม็ด 2 เม็ดที่วงกลมนี้ทิ้ง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

เมื่อใช้ยาในแถวสุดท้ายหมด (ตามภาพคือจะหมดในวันอาทิตย์) จะได้เริ่มแผงใหม่โดยใช้เม็ดแรกของแผงเสมอ หรือก็คือวันจันทร์ โดยการกินแบบนี้จะช่วยให้กินง่ายมากขึ้น และป้องกันการกินยาคุมกำเนิดไม่ครบ

2. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 21 เม็ด

เม็ดยาทุกเม็ดในแผงจะมีฮอร์โมนเท่ากันหมด ไม่มีเม็ดยาหลอก เนื่องจากมีเม็ดยาแค่ 21 เม็ด จึงต้องเว้นว่าง 7 วันหลังรับประทานหมดแผง เพื่อให้เป็นช่วง “ปลอดฮอร์โมน” (ประจำเดือนจะมาในช่วงนี้) ครบ 7 วันแล้วให้เริ่มแผงใหม่ต่อได้เลย ไม่ว่าเลือดประจำเดือนจะหยุดแล้วหรือไม่ก็ตาม

สมมติว่าเริ่มต้นกินในวันพุธ ให้แกะเม็ดยาของวันพุธมาใช้ จะเป็นเม็ดไหนก็ได้ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง และกินวันละเม็ดต่อไปเรื่อยๆ ตามลูกศรจนหมดแผง จากนั้นเว้นว่าง 7 วันแล้วค่อยเริ่มแผงใหม่

ข้อสังเกต: ถ้าวันที่เริ่มใช้เม็ดแรกของแผงเป็นวันใดของสัปดาห์ เมื่อเว้นว่างครบ 7 วันแล้ว วันที่เริ่มต้นแผงใหม่ก็จะเป็นวันเดียวกันนั้นเสมอ

ตัวอย่าง: หากคุณเริ่มต้นที่วันพุธ ยาเม็ดสุดท้ายของแผงก็จะหมดในวันอังคาร จากนั้นก็เว้นว่างต่อ 7 วัน คือ พุธ > พฤหัสบดี > ศุกร์ > เสาร์ > อาทิตย์ > จันทร์ > อังคาร เมื่อถึงวันพุธอีกครั้งก็ให้เริ่มใช้ยาคุมแผงใหม่นั่นเอง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

วิธีตรวจสอบว่า วันนี้รับประทานยาคุมไปแล้วหรือยัง หรือเคยลืมรับประทานยาคุมหรือไม่?

  • ให้ดูว่าเม็ดที่ใช้ตรงกับวันที่รับประทานหรือเปล่า
  • หากไม่มั่นใจว่าตนเองกินยาไปแล้วหรือยัง ให้ดูที่แผงยา ถ้าเม็ดยาของวันนั้นหายไปก็แสดงว่าได้รับประทานไปแล้ว

3. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 22 เม็ด

ตัวอย่างยี่ห้อยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 22 เม็ด: ออยเลซ

ยาคุมกำเนิดชนิดนี้มีตัวยาในแผง 22 เม็ด เป็นเม็ดยาฮอร์โมนทั้งหมด แต่แบ่งยาออกเป็น 2 กลุ่มตามขนาดของฮอร์โมนในเม็ดยาที่ต่างกัน โดยเม็ดยาสีเดียวกันจะมีปริมาณฮอร์โมนเท่ากัน ส่วนลำดับตัวเลขบนแผงยา คือลำดับการรับประทานยาไม่ใช่วันที่ตามปฏิทินเหมือนยาคุมชนิดอื่น

วิธีกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 22 เม็ด คือ ให้เริ่มจากเม็ดที่ 1 แล้วกินต่อวันละเม็ดตามลำดับตัวเลขไปเรื่อยๆ จนหมดแผง จากนั้นให้เว้นว่างในช่วงปลอดฮอร์โมน

หมายเหตุ: เนื่องจากมีตัวยาฮอร์โมนอยู่ 22 เม็ด จึงต้องเว้นว่างแค่ 6 วัน (ไม่ใช่ 7 วันเหมือนยี่ห้ออื่นๆ) เพื่อให้ครบวงรอบประจำเดือนที่เป็น 28 วัน (วันรับฮอร์โมน 22 วัน + วันปลอดฮอร์โมน 6 วัน รวมเป็น 28 วัน)

วิธีจำง่ายๆ ว่าจะต้องเริ่มกินแผงใหม่เมื่อไหร่ ให้คุณเจาะรูเป็นสัญลักษณ์ว่าวันที่ใช้เม็ดแรกของแผงปัจจุบันตรงกับวันใดในสัปดาห์ วันที่ใช้เม็ดสุดท้ายของแผงปัจจุบัน และวันที่ต้องเริ่มต้นแผงใหม่ก็จะเป็นวันเดียวกัน

ตัวอย่าง: สมมติว่าเริ่มต้นที่วันพุธ ยาเม็ดสุดท้ายของแผงก็จะหมดในวันพุธเหมือนกัน จากนั้นก็เว้นว่างต่อ 6 วัน คือ พฤหัสบดี > ศุกร์ > เสาร์ > อาทิตย์ > จันทร์ > อังคาร เมื่อถึงวันพุธอีกครั้งก็ให้เริ่มกินยาคุมแผงใหม่นั่นเอง

4. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ดที่มีแถบเริ่มต้นใช้สีแดง

ตัวอย่างยี่ห้อยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ดที่มีแถบเริ่มต้นใช้สีแดง: ไมโครไกนอน 30 อีดี ไกเนรา อีดี และไตรควิล่าร์ อีดี

ยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะมีเม็ดยาทั้งหมด 28 เม็ด โดยเป็นเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด และเม็ดยาหลอก 7 เม็ด

โดยเม็ดยาฮอร์โมนของยาคุมยี่ห้อไมโครไกนอน 30 อีดี และไกเนรา อีดี จะมีปริมาณฮอร์โมนที่เท่ากันทั้ง 21 เม็ด ตามนี้

เม็ดยาหลอกจะมีสีขาว และเม็ดยาฮอร์โมนจะมีสีเหลือง

แต่สำหรับยาคุมยี่ห้อไตรควิล่าร์ อีดี เม็ดยาฮอร์โมนจะมีความแตกต่างกันของปริมาณยา 3 ระดับตามสีของเม็ดยา โดยเม็ดยาหลอกจะเป็นเม็ดขนาดใหญ่ที่มีสีขาว ส่วนเม็ดยาฮอร์โมนจะเป็นเม็ดยาขนาดเล็ก มีสีแดง สีขาว และสีเหลือง

มีคำแนะนำบนแผงซึ่งระบุว่า ให้เริ่มต้นจากส่วนสีแดงของแผงก่อนเสมอ ในส่วนสีแดงของแผงจะครอบคลุมยา 7 เม็ด ซึ่งไม่ใช่เม็ดยาหลอกทั้งหมด แต่เป็นเม็ดยาหลอก 5 เม็ด และเม็ดยาฮอร์โมน 2 เม็ด

โดยการใช้แบบนี้จะบังคับให้เลือดประจำเดือนมาไม่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของยาคุมยี่ห้อดังกล่าว เนื่องจากประจำเดือนจะมาเมื่อไม่ได้รับฮอร์โมนต่อเนื่องกัน 2-3 วัน

เมื่อเริ่มกินยาในส่วนสีแดงไปเรื่อยๆ เม็ดยาฮอร์โมนเม็ดสุดท้ายจะเป็นเม็ดยาหลอกอีกครั้ง คือเม็ดสีเหลืองซึ่งตรงกับวันศุกร์ ประจำเดือนมักจะมาในวันที่ต้องกินเม็ดยาหลอกเม็ดที่ 3 หรือ 4 ซึ่งตรงกับวันจันทร์หรือวันอังคารนั่นเอง

โดยวิธีกินยาคุมให้เริ่มจากส่วนที่ตรงกับสีแดง สมมติว่าวันที่เริ่มใช้ตรงกับวันพุธ (วงกลมสีเขียว) ก็ให้เริ่มกินเม็ดนั้น

ในกรณีที่เริ่มใช้แผงแรก วันที่กินจะยังไม่เกิดผลในการคุมกำเนิด เพราะเม็ดยาที่กินเป็นเม็ดยาหลอกที่ไม่มีฮอร์โมน จะคุมกำเนิดได้ก็ต่อเมื่อมีการกินเม็ดยาฮอร์โมนในช่วง 5 วันแรกที่มีประจำเดือน

จากตัวอย่าง ถ้าเราเริ่มเม็ดวันพุธในวันแรกที่มีประจำเดือน เม็ดยาฮอร์โมนเม็ดแรกที่จะได้ใช้คือ เม็ดยาสีแดงที่เป็นวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ 4 นับจากวันแรกที่มีเลือดประจำเดือนมา ดังนั้น ผลในการคุมกำเนิดจะเกิดขึ้นหลังจากกินยาในคืนวันเสาร์

แต่หากวันพุธที่เริ่มใช้ยาคุมแผงแรกเป็นวันที่ 3 ของการมีประจำเดือน กว่าจะได้ใช้เม็ดยาฮอร์โมนในวันเสาร์ก็จะเป็นวันที่ 6 นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนแล้ว ดังนั้น ผลในการคุมกำเนิดจะยังไม่เกิดขึ้นในวันเสาร์นี้ ต้องรอให้รับประทานยาเม็ดฮอร์โมนต่อเนื่องกัน 7 วันก่อน หรือก็คือวันเสาร์ถัดไปจึงจะมีผลในการคุมกำเนิด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยาคุมชนิดนี้

1. จำเป็นต้องกินจนหมดแผงหรือไม่ หรือต้องทิ้งเม็ดยาบางส่วนแล้วไปเริ่มแผงใหม่เลย?

คุณสามารถทำได้ทั้ง 2 รูปแบบ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • แบบที่หนึ่ง: กินไปเรื่อยๆ จนหมดแผง จากตัวอย่าง เมื่อเริ่มกินในวันพุธ เม็ดสุดท้ายของแผงก็จะเป็นวันอังคารซึ่งเป็นเม็ดยาหลอก วันต่อมาก็ให้เริ่มแผงใหม่ โดยเลือกกินในตำแหน่งวันพุธตามเดิมเหมือนในแผงแรก
  • แบบที่สอง: เมื่อเริ่มกินยาในวันพุธ ให้แกะเม็ดยาในแถบสีแดงก่อนหน้าวันพุธทิ้งไป ยาเม็ดสุดท้ายที่เหลือในแผงก็จะเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งก็คือเม็ดยาหลอก เมื่อกินเม็ดนี้แล้วก็ให้เริ่มแผงใหม่ในตำแหน่งวันจันทร์ที่เป็นเม็ดยาหลอก ซึ่งเป็นเม็ดแรกในแถบสีแดงนั่นเอง

5. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ดที่ไม่มีแถบเริ่มต้นใช้สีแดง

ยาคุมกำเนิดชนิดนี้จะมี 2 แบบ คือ

  • มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด + เม็ดยาหลอก 7 เม็ด
  • มีเม็ดยาฮอร์โมน 24 เม็ด + เม็ดยาหลอก 4 เม็ด

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็มีหลักการใช้ที่ไม่แตกต่างกัน

ตัวเลขที่ระบุในแผงยาเป็นลำดับการใช้ ไม่ใช่วันที่ตามปฏิทิน การรับประทานให้เรียงตามลำดับตัวเลข ซึ่งยาคุมบางยี่ห้อจะมีสติ๊กเกอร์ระบุวันในสัปดาห์ ให้นำมาติดที่แผงให้ตรงกับวันที่ใช้จริงเพื่อให้ตรวจสอบการใช้งานได้ง่ายขึ้น

โดยประจำเดือนจะมาในช่วงที่เป็นเม็ดยาหลอก (ซึ่งเม็ดยาหลอกจะมีสีหรือขนาดที่ต่างจากเม็ดยาฮอร์โมน) เมื่อรับประทานหมดแผงก็ให้ต่อแผงใหม่ได้เลย ไม่ว่าเลือดประจำเดือนจะหยุดแล้วหรือไม่ก็ตาม

Q&A

1. ยาคุมแบบไหนที่ใช้ง่ายที่สุดและดีที่สุด?

คำตอบ: วิธีการใช้แต่ละแบบจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้ยาคุมนอกจากจะขึ้นกับความจำเป็น หรือข้อจำกัดของแต่ละคนแล้ว ยังขึ้นกับความถนัดของผู้ใช้อีกด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิดชนิดไหน หากกินถูกวิธีก็มีประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างกัน

2. วันที่กินเม็ดแรก หรือก็คือวันจันทร์ในแถบสีแดง (ชนิดที่มีแถบสีแดง) เป็นวันที่ประจำเดือนมาวันแรกค่ะ เมื่อกินยาเม็ดสุดท้ายแล้วต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนถึงจะเริ่มแผงใหม่ใช่ไหมคะ?

คำตอบ: การใช้ยาคุมกำเนิดแบบนี้ครั้งแรกมักจะสับสนได้ง่าย อย่างไรก็ตาม คุณใช้ได้ถูกวิธีแล้ว เมื่อคุณกินหมดแผงนี้ วันต่อไปก็เริ่มต่อแผงใหม่ได้เลย โดยประจำเดือนจะมาในช่วงที่เป็นแถบสีแดงของแต่ละแผง

ข้อควรระวังคือ การกินยาคุมกำเนิดชนิดที่มีแถบสีแดงแผงแรกภายในวันที่ 1-5 ของรอบเดือน อาจไม่สามารถคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่กินเหมือนยาคุมชนิดอื่นๆ เสมอไปก็ได้ เพราะผู้ใช้อาจจะไม่ได้เริ่มกินที่เม็ดยาฮอร์โมนก่อน

หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมกำเนิด ควรสอบถามเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เพื่อให้การใช้ยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงสุด

อ่านตอนที่ 1 ได้ที่ วิธีกินยาคุมครั้งแรก ให้ปลอดภัย คู่มือสำหรับมือใหม่ (ตอนที่ 1)

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Rang HP, Dale MM, Ritter JM, Flower RJ, Henderson G (2012). "The reproductive system". Rang and Dale's pharmacology (7th ed.). Edinburgh: Elsevier/Churchill Livingstone. p. 426. ISBN 978-0-7020-3471-8.
Chang MC (September 1978). "Development of the oral contraceptives". American Journal of Obstetrics and Gynecology. 132 (2): 217–9. doi:10.1016/0002-9378(78)90928-6. PMID 356615

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป