หอบหืด โรคที่อาจอันตรายกว่าที่คิด

เผยแพร่ครั้งแรก 16 ก.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
หอบหืด โรคที่อาจอันตรายกว่าที่คิด

หอบหืด (Asthma) คือโรคที่เกิดจากหลอดลมหดตัวตีบแคบลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุผนังหลอดลม ส่งผลให้ทางเดินหายใจตีบตัน โดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เมื่อกล้ามเนื้อหลอดลมหดเกร็งตัว จะทำให้หายใจลำบาก และสูดหายใจได้ไม่เต็มปอด โรคหอบหืดนั้นพบได้ในคนทุกวัย และมักแสดงอาการเมื่อสัมผัสกับมลภาวะ ฝุ่นควัน อากาศแปรปรวน หรือออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก และหากอาการกำเริบรุนแรง ก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้

อาการของโรคหอบหืด

อาการของโรคหอบหืดอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค บางคนอาจมีอาการกำเริบเป็นช่วงๆ เฉพาะเวลาได้รับสิ่งกระตุ้น หรือบางคนอาจมีอาการอย่างต่อเนื่องก็ได้ โดยอาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • หายใจลำบาก หายใจสั้นถี่ หรือเวลาหายใจมีเสียงวี้ด
  • มีอาการไอเรื้อรัง โดยไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
  • เจ็บแน่นหน้าอก
  • หอบเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องออกแรง

สาเหตุของโรคหอบหืด         

โรคหอบหืดเกิดจากกล้ามเนื้อหลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้น ทำให้เกิดการหดเกร็งตัวจนตีบแคบได้ง่าย ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหอบหืด ได้แก่

  • พันธุกรรม หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ก็มีโอกาสเป็นหอบหืดได้สูง
  • โรคภูมิแพ้ ผู้เป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจจะไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ อากาศเย็น ทำให้มีโอกาสแสดงอาการหอบหืดได้
  • มีความเครียดสูง รวมถึงความแปรปรวนของอารมณ์ อาจทำให้จังหวะการหายใจผิดปกติโดยไม่รู้ตัว และอาจเกิดกล้ามเนื้อหลอดลมหดเกร็งได้
  • การสัมผัสกับสารเคมี เช่น ควันบุหรี่ ควันไอเสีย ยาฆ่าแมลง อาจกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหลอดลมตอบสนองผิดปกติได้
  • ความผิดปกติในทางเดินหายใจ เช่น ติดเชื้อไวรัส เป็นไซนัสอักเสบ
  • การออกกำลังกาย การออกแรงอย่างหนักและหักโหม อาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบได้

ความรุนแรงของโรคหอบหืด

อาการของโรคหอบนั้นแบ่งได้เป็น 4 ขั้น ตามระดับความรุนแรงน้อยไปจนถึงมาก ดังนี้

ขั้นที่ 1 เป็นระดับเบื้องต้น ผู้ป่วยจะมีอาการหอบไม่เกินสัปดาห์ละครั้ง หรือไม่เกินเดือนละ 2 ครั้งในเวลากลางคืน และสมรรถภาพของปอดยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ขั้นที่ 2 ระดับความรุนแรงน้อย ผู้ป่วยจะมีอาการหอบมากกว่าสัปดาห์ละครั้ง หรือมากกว่าเดือนละ 2 ครั้งในตอนกลางคืน

ขั้นที่ 3 ระดับความรุนแรงปานกลาง ผู้ป่วยจะมีอาการหอบทุกวัน และหอบมากกว่าสัปดาห์ละครั้งในตอนกลางคืน จนอาการรบกวนชีวิตประจำวัน

ขั้นที่ 4 ระดับอาการรุนแรง ผู้ป่วยมีอาการหอบเกือบตลอดเวลา และหอบบ่อยในตอนกลางคืน จนทำให้นอนหลับไม่ได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

สัญญาณอันตรายจากโรคหอบหืด

โรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัวเรื้อรังที่จำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่หากใครที่มีอาการดังต่อไปนี้ แสดงว่าโรคหอบหืดดำเนินสู่ระยะที่รุนแรงขึ้น และอาจเป็นอันตราย จึงควรรีบไปพบแพทย์

  • เกิดอาการหอบบ่อยขึ้น หรือการหายใจแย่ลง หายใจได้ลำบากกว่าเดิม
  • จำเป็นต้องใช้ยาบรรเทาอาการบ่อยขึ้น และบางครั้งการใช้ยาก็ไม่ได้ผล
  • มีอาการเหนื่อยหอบแม้ออกแรงเพียงเล็กน้อย

การรักษาโรคหอบหืด

การรักษาโรคหอบหืด จะเน้นการควบคุมอาการไม่ให้รุนแรงขึ้น และไม่ให้ส่งผลรบกวนชีวิตประจำวัน ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ยารักษา ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสภาพแวดล้อม ยาที่ใช้ควบคุมและบรรเทาอาการหอบหืด ได้แก่

  • ยาแก้อักเสบชนิดสเตียรอยด์ จะใช้ในรูปแบบยาพ่นหรือยาเม็ด ซึ่งยาชนิดนี้สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยทุกวัย และบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับยาเม็ด หากทานเป็นประจำอาจมีผลข้างเคียงคือทำให้น้ำหนักขึ้น ฟันผุ ความดันสูง จึงมักไม่ใช้ติดต่อกันนาน แต่มักใช้ยาพ่นเข้าสู่หลอดลมซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า
  • ยากลุ่ม Beta-agonist เป็นยาขยายหลอดลม ที่มักใช้เมื่อผู้ป่วยมีอาการเฉียบพลัน แต่ไม่ได้มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ยาชนิดนี้มีทั้งรูปแบบยาพ่น ยาน้ำ และยาเม็ด
  • ยาอื่นๆ เช่น ยากลุ่มแซนทีน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ ขยายหลอดลม มักใช้ในผู้ป่วยหอบหืดเรื้อรัง รวมถึงยา Leukotriene Modifier Antagonist สำหรับบรรเทาอาการหอบ เป็นต้น

นอกจากการใช้ยาแล้ว สิ่งสำคัญคือผู้ป่วยจะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นอาการ เช่น มลภาวะ ฝุ่นควัน อากาศเย็น สารก่ออาการแพ้ สารเคมี และการออกแรงมากๆ รวมถึงหมั่นบริหารปอดและระบบหายใจ โดยการออกกำลังที่เหมาะสม เช่น การว่ายน้ำ

การป้องกันอาการหอบหืด

แม้การเกิดโรคหอบหืดจะยังไม่สามารถป้องกันได้ แต่ผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการ ก็สามารถควบคุมป้องกันไม่ให้อาการรุนแรง หรือกำเริบขึ้นได้ ดังนี้

  • ดูแลสุขภาพไม่ให้ป่วยเป็นโรคในทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด โรคปอดบวม ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นอาการหอบหืด
  • หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น หรือสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ควัน ขนสัตว์ ละอองเกสร
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมี และสารพิษ เช่น ควันบุหรี่ สารกำจัดศัตรูพืช
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ที่มีสารต้านการอักเสบ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ
  • รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในตอนกลางคืน
  • ออกกำลังกายเพื่อบริหารปอดและระบบทางเดินหายใจ เช่น การว่ายน้ำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกแรงมากๆ ซึ่งจะกระตุ้นอาการหอบได้


12 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Why Asthma Can Hit You Harder as an Adult. Health Essentials from Cleveland Clinic. (https://health.clevelandclinic.org/why-does-asthma-hit-you-harder-as-an-adult/)
Asthma and Pneumonia: Similarities, Differences, Connections. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/can-asthma-cause-pneumonia-200525)
Bacteria and asthma—more than we thought. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3929126/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป