November 24, 2019 21:46
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากได้มีประจำเดือนมาตามกำหนดและมีลักษณะเหมือนประจำเดือนตามปกติครั้งหนึ่งแล้วหลังจากมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 13 พฤศจิกายนก็มักจะไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นในช่วงนั้นครับ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ได้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยนั้นก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องครับ
อย่างไรก็ตามการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือนนั้นก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายทและการที่มีอาการแสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะออกมากระปริดกระปรอยก็อาจเป็นการบ่งบอกถึงการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ครับ
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
และในระหว่างนี้ก็ควรดื่มน้ำให้มากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะเพื่อที่ว่าถ้ามีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะจริงก็จะได้ช่วยป้องกันไม่ให้การติดเชื้อลุกลามมากขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีเพศสัมพันธ์วันที่ 13 พ.ย โดยการหลั่งนอก หลังจากนั้น6ชม.กินยาคุมฉุกเฉินชนิดเม็ดเดียว เช้าวันต่อมามีอาการปวดท้องน้อยมากไม่นานก็หายไป วันที่19 พ.ย มีประจำเดือนมาตรงรอบเดือนเเต่มีปริมาณน้อยกว่าปกติ เเต่มีอาการปวดประจำเดือนมากเหมือนทุกเดือน โดยวันที่21 มีเพศสัมพันธ์โดยใส่ถุงยางอนามัย หลังมีเพศสัมพันธ์เกิดมีปัสสาวะขัด มีอาการเเสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะกระปิบกระปอย เเละประจำเดือนหายไป เกิดจากสาเหตุอะไรหรอคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)