หนูอายุ17ปีค่ะ หนูชอบปวดหัวบ่อยๆหรือแทบจะปวดทุกวัน ชอบปวดบริเวรหน้าผาก บางครั้งนอนพักตื่นมาก็หายเเต่บางครั้งไม่หายก็ต้องกินยา เเล้วยิ่งอากาศร้อนๆจะยิ่งปวด เวลาออกจากบ้านโดนแดดกลับมาถึงบ้านปวดหัวแทบจะเป็นไข้เลยค่ะ คือหนูเป็นแบบนี้มานานมากเเล้วค่ะต้องพึ่งยาอยู่บ่อยครั้ง สรุปแล้วหนูเป็นอะไรและอาการที่หนูเป็นอยู่อันตรายมากมั้ยค่ะคุณหมอ

สวัสดีครับ
สาเหตุของอาการปวดศีรษะนั้นมีได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- อาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อบีบเกร็ง อาการปวดมักมีลักษณะปวดบีบที่ศีรษะ 2 ข้าง อาการปวดมักสัมพันธ์กับความเครียดหรือการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
- ไมเกรน อาการปวดศีรษะมักปวดแค่ข้างเดียว แต่อาจปวดสลับข้างได้ในแต่ละครั้ง จะปวดในลักษณะปวดตุ้บๆอย่างรุนแรง มักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อาการมักเป็นมากขึ้นถ้าเห็นแสงสว่างจ้าๆหรือได้ยินเสียงดังๆ
- อาการปวดศีรษะแบบเป็นชุด (Cluster headache) อาการปวดศีรษะมักเป็นแบบปวดรุนแรงเฉียบพลันขึ้นมาแล้วหายไปเป็นพักๆ ร่วมกับมีอาการตาแดง น้ำตาไหล น้ำมูกไหล

และนอกจากนี้อาการปวดศีรษะก็ยังอาจเกิดจากความผิดปกติบางอย่างในสมองได้ด้วยครับ

ในกรณีที่มีอาการปวดศีรษะอยู่บ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมโดยละเอียดเพิ่มเติมก่อนเพื่อที่จะได้ทราบว่าอาการเกิดจากความผิดปกติในสมองบางอย่างที่จะเป็นอันตรายได้หรือไม่ หรือถ้าหากเป็นจากสาเหตุอื่นก็ได้ให้การรักษาและหาแนวทางการป้องกันอาการปวดที่เหมาะสมต่อไปครับ