July 26, 2019 19:01
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ใส่ถุงยางเเม้ไม่ได้หลั่ง/หลั่งนอก แต่ถ้ามีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีโอกาสท้องครับ เนื่องจากขณะสอดใส่อาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นฝ่ายชายได้ครับ
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ได้ครับ
และ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
หลังจากนี้ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องเเละประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
.........
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
อย่างที่บอกยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรรับประทานเกิน2แผงต่อเดือนครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เเนะนำเป็นคุมกำเนิดรายเดือน หรือใช้ถุงยางอนามัยดีกว่าครับ
เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนขนาดสูง
ในระยะยาวมีผลต่อรังไข่ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การหลั่งนอกเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำและมีโอกาสผิดพลาดได้สูง โดยทั่วไปถือว่าเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ 22%
เมื่อเทียบกับใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องและตรวจสอบแล้วว่าไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าการหลั่งนอกมีความเสี่ยงสูงกว่ามากนะคะ การหลั่งนอกจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ
ดังนั้น หากยังไม่พร้อมจะมีบุตร แนะนำให้คุมกำเนิดฉุกเฉินนะคะ โดยมี 2 ทางเลือกดังนี้
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่สูงนัก แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลาก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน หากจะมีเพศสัมพันธ์อีก ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ
2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% เท่านั้น และสามารถใช้คุมกำเนิดต่อได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ
..
..
..
ในกรณีที่เลือกป้องกันฉุกเฉินด้วยการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน อาจพบผลข้างเคียงภายใน 7 วันหลังรับประทาน แต่ก็เป็นเพียงอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ และเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น มีเลือดกะปริบกะปรอย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดท้อง หรือไม่สบายท้อง
ยังไม่พบข้อมูลที่น่าเชื่อถือใดที่ชี้ชัดได้ว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ แม้จะใช้เกินขนาดที่แนะนำ หรือใช้ซ้ำ ๆ ในรอบเดือนเดียวกันนะคะ
..
..
..
ในอดีต จะมีข้อแนะนำในฉลากของยาคุมฉุกเฉินว่าไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละ 2 กล่อง เนื่องจากกังวลว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
แต่การศึกษาต่อมาชี้ว่า อุบัติการณ์การตั้งครรภ์นอกมดลูกในผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉิน ไม่แตกต่างจากผู้ที่ไม่เคยใช้ค่ะ จึงมีการนำคำแนะนำดังกล่าวออกจากฉลากยาแล้วนะคะ
ในปัจจุบันไม่ได้มีข้อจำกัดว่าห้ามใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินกี่ครั้ง นั่นหมายถึง แม้จะเคยใช้แล้ว แต่หากจำเป็นก็สามารถใช้ได้อีกค่ะ
อย่างไรก็ตาม ควรใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินที่ไม่มีทางเลือกจริง ๆ เท่านั้นนะคะ เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน หากนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติก็เสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธ์กับแฟน ไม่ได้ใส่ถุงยาง แต่หลั่งนอกแต่ไม่ชัวร์ว่าหลั่กนอกหมดรึป่าว ควรให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินมั้ยครับ แล้วกินยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงยังไง แล้วไม่ควรกินกี่เม็ดต่อเดือน หรือต่อชีวิตครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)