November 10, 2019 16:45
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากได้มีการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์แล้วก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 2-15% ขึ้นอยู่กับความถูกต้องของการใช้งานครับ ในกรณีนี้ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์จึงยังมีไม่สูงมากนัก
แต่ถ้าหากประจำเดือนมีการขาดหายไปก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันก่อนได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้วครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งถ้าหากประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีเพศสัมพันธ์ไปเมื่อปลายเดือนก.ย. ป้องกันโดยการใส่ถุงยางและหลั่งนอก เช็คว่าถุงยางไม่ขาดไม่รั่วแล้วจากนั้นประจำเดือนมาวันที่3ต.ค ซึ่งมาช้าแต่ไม่เกิน7วัน เป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่แล้ว หลังจากนั้นไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกแต่เดือนนี้วันที่10พ.ย.ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ ครบ7วันแล้ว แต่มีอาการตกขาวและมีกลิ่น ก่อนหน้านี้มีอาการอยากอาหารและสิวขึ้นแต่ตอนนี้อาการปกติแล้ว มีโอกาสท้องมั้ยคะ ทั้งที่ประจำเดือนเดือนก่อนมาปกติแล้ว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)