March 31, 2017 20:35
ตอบโดย
สุเทพ สุขนพกิจ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณแม่เพื่อบรรเทาอาการกรดไหลย้อนในช่วงตั้งครรภ์ครับ
1. ทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง และทานอาหารตรงตามเวลาทุกมื้ออาหารอ่อน ย่อยง่ายและเคี้ยวอาหารให้ละเอียดทุกคำก่อนกลืน
2. อย่ารับประทานอาหารมากเกินไป หรือรับประทานอาหารมื้อดึก ควรรับประทานอาหารแล้วเผื่อเวลาให้อาหารได้ย่อยก่อนอย่างต่ำ 4 ชั่วโมง
3. งดอาหารรสเผ็ด อาหารรสเปรี้ยวจัด ของดอง และน้ำอัดลมลดอาหารไขมันสูงซึ่งย่อยยาก
4. หากมีการอาเจียน ควรดื่มน้ำกลั้วคอล้างปากทุกครั้งหลังอาเจียน ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)
เมื่อตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และระบบภายในร่างกายจึงทำให้เกิดโรค กรดไหลย้อนได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ส่งผลทำให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร จึงทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นได้จาก แรงบีบของหูรูด ของหลอดอาหารส่วนล่างที่ต่อกับส่วนต้นของกระเพาะอาหารทำงานลดน้อยลง และมดลูกที่มีทารกเติบโตขึ้นตามอายุครรภ์นั้น ขยายขนาดขึ้นจนกดและดันกระเพาะอาหาร
วิธีการปฏิบัติตัวป้องกันกรดไหลย้อน
1. ทานอาหารทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง และทานอาหารตรงตามเวลาทุกมื้ออาหารอ่อน ย่อยง่ายและเคี้ยวอาหารให้ละเอียดทุกคำก่อนกลืน
2. อย่ารับประทานอาหารมากเกินไป หรือรับประทานอาหารมื้อดึก ที่รับประทานเสร็จแล้วนอนเลย ควรรับประทานอาหารแล้วเผื่อเวลาให้อาหารได้ย่อยก่อนอย่างต่ำ 4 ชั่วโมง
3. งดอาหารรสเผ็ด อาหารรสเปรี้ยวจัด ของดอง และน้ำอัดลมลดอาหารไขมันสูงซึ่งย่อยยาก แต่ให้ทานอาหารที่มีไขมันเล็กน้อยได้ เพราะไขมันจะช่วยยับยั้งการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร และยังช่วยนำพาวิตามินที่ละลายในไขมัน
4. หากมีการอาเจียน ควรดื่มน้ำกลั้วคอล้างปากทุกครั้งหลังอาเจียน
5. การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาแก้โรคหอบหืดบางชนิด และยาที่เกี่ยวกับโรคหัวใจบางชนิด อาจทำให้การบีบตัวของกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างลดลง ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนได้ง่าย
อาการของโรคกรดไหลย้อนจะทำให้เกิดความไม่สบายตัวต่าง ๆ แต่หากคุณแม่สามารถจะรับประทานอาหารได้ตามปกติ ก็จะไม่เกิดปัญหาใด ๆ ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ แต่ถ้าหากในระยะยาวคุณแม่ยังเป็นโรคนี้อยู่ ก็อาจเกิดการอักเสบของหลอดอาหารเรื้อรังที่รุนแรงมากขึ้น
หากไม่ดีขึ้นอาจมีการใช้ยาโดยต้องปรึกษาแพทย์เท่านั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ชอบเป็นกรดไหลย้อนตั้งแต่ตั้งครรภ์แรกๆจนตอนนี้ได้19สัปดาห์มีวิธีใหนพอช่วยให้หายได้บ้างมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)