September 04, 2018 21:37
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วอาการของโรคจิตเภทในเรื่องความก้าวร้าวนั้นไม่ควรเกิดขึ้นถ้าหากสามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาครับ
การที่ยังมีพฤติกรรมก้าวร้าวอยู่จึงมีความเป็นไปได้ว่าขนาดยาที่ใช้อยู่จะยังไม่เพียงพอที่จะควบคุมอาการของผู้ป่วย หรือ จริงๆแล้วผู้ป่วยอาจจะไม่ได้กินยาครบถ้วนตามที่แพทย์สั่งครับ
ดังนั้นในเบื้องต้นควรต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนครับว่าผู้ป่วยได้รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอจริงหรือไม่
- ถ้ารับประทานยาสม่ำเสมออยู่แล้ว ก็แปลว่าขนาดยาอาจจะยังไม่เพียงพอ ในกรณีนี้จึงควรพาผู้ป่วยกลับไปพบแพทย์เพื่อปรับยาเพิ่มขึ้นครับ
- ถ้าหากรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ ไม่สามารถควบคุมการรับประทานยาของผู้ป่วยได้ ก็อาจต้องกลับไปปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาให้เปลี่ยนจากการรักษาด้วยการรับประทานยามาใช้วิธีการฉีดยาทุก 2-4 สัปดาห์แทนครับ เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยมีระดับยาในร่างกายที่สม่ำเสมอมากกว่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ใช้วิธีสังเกตอาการห่างๆ ดูว่าผู้ป่วยเก็บตัว ก้าวร้าว พูดคนเดียว เห็นภาพหลอน หวาดระแวง อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ไม่ดี คนไข้อาจไม่ได้ทานยาอย่างที่บอก หรือทานยาไม่ครบ ถ้าหากมีอาการก้าวร้าวมากเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองและผู้อื่นก็ต้องนำส่งโรงพยาบาล หากญาติไม่สามารถนำส่งได้ แนะนำให้แจ้งอาสาสมัครชุมชน หรือแจ้งตำรวจช่วยนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คนไข้จิตเภทอาการผิดปกติ แปลกไป ก้าวร้าว ไม่มีคนดูแลได้ใกล้ชิด ผู้ป่วยไม่ยอมให้มาก้าวก่าย บอกเพียงว่ากินยาแล้ว แล้วก้าวร้าวใส่ มีวิธีรับมือ ดูแลผู้ป่วยอย่างไรบ้างคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)