December 24, 2019 22:59
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการฉีกขาดของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติในผู้หญิงบางคน แต่จะมีผลทำให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
เป็นต้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
จากประวัติมีเพศสัมพันธ์แล้วเลือดออกทางช่องคลอด เป็นมา 4-5 ครั้ง ไม่มีอาการปวด สามารถคิดถึงได้จากสาเหตุค่ะ เช่น
-จากการมีการขูดระหว่างเนื้อเยื่อระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเกิดจากช่องคลอดแห้ง มีเพศสัมพันธ์นานเกินไป รุนแรงเกินไป บางรายอาจมีปวดหน่วง
-ติดเชื้อภายในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน จะมีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย เช่น ตกขาวมีกลิ่นและสีผิดปกติ คันระคายเคืองช่องคลอด มีเลือดออก มีหน่วงท้อง
-มีรอยโรคภายในบางอย่าง เช่น มีติ่งเนื้อ เนื้องอก ซลล์ผิดปกติหรือโรคมะเร็งภายใน
กรณีเป็นมา 4-5 ครั้งแล้ว หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อทำการตรวจภายในหาสาเหตุดูค่ะ ส่วนช่วงนี้ก็ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เวลานอนกับแฟนแล้วมีเลือกออกเป็นแบบนี้มา4-5ครั้งแล้วแต่ไม่มีอาการปวดใดๆเป็นแบบนี้อันตรายไหมค่ะสาเหตุเกิดจากอะไร
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)