October 30, 2018 14:39
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากเป็นการใช้ยาคุมแผงแรก และเริ่มใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ (หรือครบ 2 วันในกรณีที่ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว)
การที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน แล้วรับประทานยาคุมรายเดือนตามทีหลัง ไม่สามารถป้องกันฉุกเฉินได้ค่ะ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงเช่นเดียวกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานยาคุมนั่นเอง
ดังนั้น ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วนะคะ ยิ่งเร็วยิ่งดี จะใช้ยี่ห้อใดก็ได้ และสามารถรับประทานแบบหมดแผงในครั้งเดียวได้ค่ะ ไม่ว่ายาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่ใช้จะเป็นแบบแผงละ 2 เม็ด หรือแผงละ 1 เม็ดก็ตาม อาจช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ให้ต่ำลงจากเดิมได้บ้าง
แต่เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงนัก ผู้ใช้ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นะคะ
จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ส่วนยาคุมรายเดือนที่ใช้ หากใช้ไปแค่ 1 - 2 วัน แนะนำให้หยุดใช้ไปก่อนค่ะ เพราะไม่มีประโยชน์ในการป้องกันฉุกเฉิน และยังทำให้ประจำเดือนที่กำลังจะมา เลื่อนช้าออกไปอีกด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
-มีโอกาสท้องได้ครับ
-ยาคุมที่รับประทานนั้นเป็นยาคุมกำเนิดรายเดือนไม่ได้มีผลในการคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือใช้เพื่อป้องกันกรณีมีความเสี่ยงมาแล้ว
-ควรรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ภายใน72ชั่วโมงเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ครับ
-ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ80% จึงยังคงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้
-ภายหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ประมาณ2-7วัน อาจมีเลือดออกได้ทางช่องคลอด เป็นผลจากฮอร์โมนยาคุมฉุกเฉิน ไม่ใช่ประจำเดือน
-ควรสังเกตุรอบประจำเดือนตามปกติรอบหน้า หากมาล่าช้ากว่าปกติ นานกว่า1อาทิตย์ควร ตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะเบื้องต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันคืน คืนวันที่ 24/10(หลังเที่ยงคืน) เริ่มกินยาคุมยี่ห้อ minidozแบบ28เม็ด ประมาน10โมงของวันที่24/10 แล้วก็กินมาจนถึงวันที่ 30/10 ณปัจจุบัน แบบนี้ต้องหยุดกินยาคุม หรือ กินต่อไปค่ะ รู้สึกกังวล
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้มาหลายวันแล้ว แนะนำให้รับประทานยาคุมมินิดอซต่อไปจนหมดแผงค่ะ เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแปรปรวน ซึ่งทำให้คาดเดาได้ยากว่าประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่
แต่ระหว่างที่รับประทาน "เม็ดยาฮอร์โมน" (เม็ดสีเหลือง) จะไม่มีประจำเดือนอยู่แล้วนะคะ ซึ่งประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" (เม็ดสีเขียว) ค่ะ โดยมักจะมาหลังใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
หากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ที่ใช้มินิดอซจึงมักจะมีประจำเดือนมาประมาณเม็ดที่ 27 - 28 ของแผง หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อยค่ะ
ส่วนยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากเกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว จึงใช้ไม่ทันแล้วนะคะ และเนื่องจากมินิดอซคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ได้ จึงต้องรอดูว่าจะมีการตั้งครรภ์ก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยาหรือเปล่า (การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันใด ๆ เลย มีโอกาสตั้งครรภ์ 85% ค่ะ)
การใช้ยาคุมแบบ 28 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมานะคะ ไม่ต้องเว้นว่างเพิ่มอีก ดังนั้น ถ้าครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่แล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะในตอนเช้าหลังตื่นนอน ของวันที่ต่อยาคุมแผงใหม่ ถ้าผลตรวจเป็น 1 ขีด คือไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สอบถามหน่อยค่ะ มีเพศสัมพันกับแฟนเมื่อคืน แล้วสายของอีกวันกินยาคุมแบบ28 เม็ด จะท้องไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)