วันนี้ 12 ส.ค ผมมีอะไรกับแฟน(ใส่ถุงยางแล้วดึงออกมาเสร็จด้านนอกตอน3ทุ่ม)และกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกตอน 4 ทุ่ม มาวันที่ 13 ส.ค ผมมีอะไรกับแฟนตอน9โมง(ใส่ถุงยางแต่ไม่เสร็จ)แล้วให้แฟนกินยาคุมเม็ดที่สอง ตอน10.00 จะเป็นอะไรไหมครับ เพราะแฟนเคยกินยาคุมครั้งแรก วันที่ 13 ตอนเย็นแฟนก็อ้วก พอหลังจากเลยวันที่ 13 มา แฟนก็กินมากผิดปกติครับ

- ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2%
- การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ต่อให้รับประทานเร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ และรับประทานครบขนาดถูกต้อง ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15%

ดังนั้น ถ้าไม่ได้มีปัญหาถุงยางรั่วซึมหรือฉีกขาด ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ เพราะไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันให้สูงขึ้น และทำให้ได้รับผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็น

แต่เมื่อแฟนของผู้ถามรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว ก็ไม่เป็นไรค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากอาเจียนออกมาภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน จะถือว่าได้รับยาไม่ครบขนาดนะคะ จึงไม่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดฉุกเฉินถ้าไม่รับประทานเพิ่มเพื่อทดแทนยาที่อาเจียนออกมา

แต่ถ้ามั่นใจว่าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาดทั้งสองครั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินตั้งแต่แรกค่ะ และเมื่อรับประทานไปแล้วแต่อาเจียน ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานซ้ำอีก เพราะมีผลป้องกันจากถุงยางอยู่แล้ว
..
..
..
สมมติว่ามีปัญหาถุงยางรั่วซึม มีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ และสมมติว่ามีไข่ตกออกมาพอดี เมื่อไข่ผสมกับอสุจิ(เกิดการปฏิสนธิ) จะต้องเคลื่อนมาฝังตัวที่เยื่อบุมดลูกก่อนจึงจะถือว่ามีการตั้งครรภ์นะคะ ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 6 วัน ดังนั้น ถ้าป้องกันไม่ได้ และเกิด "การปฏิสนธิ" ขึ้นมาจริง ๆ นับจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่เกิด "การตั้งครรภ์" เลยค่ะ

การที่แฟนของผู้ถามรับประทานมากผิดปกติ จึงเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ "การตั้งครรภ์" นะคะ

หากกังวลใจว่าจะมีการตั้งครรภ์ แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ มาให้แฟนของคุณตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ จะทราบผลที่ชัดเจนและเชื่อถือได้กว่าการสังเกตอาการต่าง ๆ ที่สงสัยว่าจะเป็นอาการของหญิงตั้งครรภ์นะคะ

หากอาเจียนหลังรับประทานยาเกิน 2 ชั่วโมงก็ไม่มีปัญหาค่ะ ยาดูดซึมไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

สามารถตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดเลยที่จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น จึงต้องตอบว่าเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็ย่อมมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ

แต่ในกรณีที่ใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม เป็นไปได้น้อยที่จะตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือไม่ก็ตาม
..
..
อย่างไรก็ตาม หากมีการตั้งครรภ์ ก็ต้องรอหลังมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 14 วันจึงจะตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะได้ เพราะต้องให้ปริมาณฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (hCG) เข้มข้นมากพอที่ชุดตรวจจะวัดได้ค่ะ