November 24, 2019 19:18
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในช่วงที่ประจำเดือนยังไม่มานี้ก่อนที่จะเริ่มคุมกำเนิดด้วยวิธีใดเพิ่มเติมก็ควรแน่ใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ก่อนครับ นั่นคือหมอแนะนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถเริ่มการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นได้ครับ โดย
- ถ้าหากจะรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวก็ต้องรอเวลา 2 วันหลังรับประทานยาจึงจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย
- ถคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นก็จะต้องเว้นการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวบา 7 ใันหลังเริ่มคุมกำเนิดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าไม่ทราบรายละเอียดใด ๆ เลย แนะนำเช่นนี้นะคะ
1. ในกรณีที่เกินกำหนดฉีดยาคุมตามนัดมาแล้ว ถ้ามั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน เช่น นับจากครบกำหนดฉีดยา มาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย ก็สามารถเริ่มรับประทานยาคุมได้ค่ะ
และหากผู้ถามจะใช้ยาคุมรายเดือนชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว ก็ให้รับประทานติดต่อกันให้ครบ 2 วัน (48 ชั่วโมง) ก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้นะคะ ในช่วงที่ยังไม่มีผลป้องกันจากยา จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วยค่ะ
2. ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ ดังนั้น ถ้าวันที่ผู้ถามมีประจำเดือนจะมาก่อนวันที่คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์ ก็สามารถรอใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนได้นะคะ
แต่ในกรณีที่ไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ และไม่ต้องการรอให้ประจำเดือนมาก่อน ถ้าใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว ก็ต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ครบ 2 วัน (48 ชั่วโมง) ก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้
แต่ถ้าใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็จะต้องรับประทาน "เม็ดยาฮอร์โมน" ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ
ดังนั้น ถ้าเริ่มใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็ต้องมีการใช้ยาคุมล่วงหน้าตามเวลาที่ระบุไปข้างต้น ก่อนจะถึงวันที่คาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์นะคะ
และควรรับประทานต่อเนื่องกันไปจนหมดทั้งแผง ทั้งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และเพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแปรปรวนซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนมากจนคาดการณ์ได้ยากค่ะ
3. ถ้าประจำเดือนมาแล้ว ก็ถือว่าไม่มีการตั้งครรภ์ สามารถฝังยาคุมกำเนิดภายใน 5 - 7 วันแรกของการมีประจำเดือนได้ค่ะ และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังจากที่ฝังยาคุมแล้วนะคะ
ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO 2016 จะแนะนำให้ฝังยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน แต่แนวทางของศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา หรือ US CDC 2016 จะแนะนำ 5 วันค่ะ
ดังนั้น หากไม่มั่นใจว่าสถานพยาบาลที่ผู้ถามจะไปรับบริการฝังยาคุมจะอ้างอิงตามแนวทางใด แนะนำให้ไปฝังยาคุมภายใน วันที่ 1 - 5 ของการมีประจำเดือน ดีกว่ารอวันที่ 6 หรือ 7 ของการมีประจำเดือนนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ช่วงนี้รอประจำเดือนมาค่ะ ผลเนื่องจากหยุดฉีดยาคุม คำถามค่ะคุณหมอ 1. ช่วงระหว่างรอประจำเดือนมาการคุมกำเนิดสามารถทานยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวได้ไหมค่ะ 2. ถ้าสมมุติจะนอนกับแฟนเดือนหน้าแต่นอนด้วยกันแค่ 1 สัปดาห์ ต้องทานยาคุมช่วงไหนคะ ทานกี่แผงคะ 3. ถ้าช่วงรอประจำเดือนมา สามารถฝังเข็มยาคุมกำเนิดได้ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)