August 08, 2018 10:17
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. หากการกลับมาฉีดใหม่ เป็นการฉีดยาคุมเข็มแรกภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะมีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังฉีดยาคุมค่ะ
แต่ถ้าฉีดไม่ทัน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางร่วมด้วยไปอีก 7 วันหลังฉีดยาคุมแล้วนะคะ
ถ้าผู้ถามปฏิบัติได้ตามนี้ ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์น้อยค่ะ นั่นคือ ผู้ที่ฉีดยาคุม มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.2 - 6% และตัวเลขจะค่อนไปทางต่ำ หากไปฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ (ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ)
2. ผลข้างเคียงเด่น ๆ ของยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน คือ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนได้ค่ะ
ดังนั้น การที่ผู้ถามมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงต้นเดือนสิงหาคม หากไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด, ปวดท้องรุนแรง ก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาซึ่งโดยปกติแล้วจะหายเองได้ แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ
แต่ถ้าเลือดออกมากหรือนานจนรำคาญ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
3. ในกรณีที่กังวลใจว่าอาจมีการตั้งครรภ์ แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ฉัดยาคุมมาประมาณ 6 ปี แล้วเว้นช่วงไม่ฉีดประมาณ 8 เดือน กลับมาแีดใหม่ตอนเดือน มิถุนายน 2561 ปกติแีดประจำเดือนไม่มา แต่รอบนี้ประเดือนไม่มาเดือน กรกฎาคม แล้วมาต้นเดือนสิงหาคม มาแบบกระปิดกระปรอย มาๆ หายๆ อยากทราบว่ามีความเสี่ยงกับการตั้งครรภ์หรือมดลูกแห้งไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)