August 20, 2018 14:29
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกตินั้นลักษณะของตกขาวที่ปกตินั้นจะต้องมีลักษณะเป็นมูกใสหรือขาวขุ่นได้เล็กน้อยน้อย โดยที่จะต้องไม่มีเลือดปน ไม่ส่งกลิ่นเหม็น และไม่ก่อให้เกิดอาการคัน
อาการตกขาวที่มากขึ้นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ครับ เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์จะมีการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศออกมาในปริมาณมากกว่าปกติ แต่ก็ไม่ควรมีเลือดออกปนมาในตกขาวครับ
สาเหตุที่มีตกขาวปนเลือดนั้นอาจเกิดได้จาก
- เป็นเลือดประจำเดือนที่ตกค้างหรือเป็นเลือดที่ออกมาจากการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆของช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้าเป็นจากสาเหตุนี้แพทย์ก็อาจตรวจไม่พบความผิดปกติได้ครับ
- มีการอักเสบติดเชื้อภายในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถ้าเป็นจากสาเหตุนี้ก็มักจะทำให้มีอาการตกขาวเปลี่ยนสี มีกลิ่นเหม็น หรือทำให้เกิดอาการคันร่วมด้วยได้ และตกขาวกับเลือดที่ออกมานั้นก็มักจะออกมาอย่างต่อเนื่องทุกวัน ไม่หายไป
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อ เนื้องอก หรือมะเร็งปากมดลูก
ถ้าหากอาการที่เกิดขึ้นยังคงเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง หรือมีตกขาวและเลือดออกมาในปริมาณมากก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุดูอีกครั้งครับ ถ้าตรวจแล้วไม่พบอะไรก็จะได้มั่นใจในความปลอดภัยได้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
รุจิเรข นิลศรี (พญ.)
วัสดีค่ะ อาการตกขาวมีได้ทั้งตกขาวปกติธรรมดาทั่วไป และตกขาวที่เกิดจากความผิดปกติเช่นการติดเชื้อ อาการตกขาวโดนปกติทั่วไปจะมีสีขาว ไม่มีกลิ่นเหม็นไม่แสบคันช่องคลอด ปริมาณไม่มาก อาจมาได้ในช่วงก่อนมีประจำเดือน ส่วนอีกแบบหนึ่งคือตกขาวที่ผิดปกติ สังเกตได้จากลักษณะขอวตกขาวเช่น ปริมาณมากกว่าปกติ มีสีเทาสีเขียว เหลือง หรือมีกลิ่นเหม็น มีอาการแสบคันช่องคลอด ซึ่งการติดเชื้อแต่ละชนิดจะมีวิธีรักษาแตกต่างกันออกไป เช่น
1.เชื้อแบคทีเรีย ลักษณะคือ สีขาวเนียนปนเทาอ่อน มีกลิ่นเหม็นอับคล้ายกลิ่นคาวปลาเค็ม กลิ่นมักจะรุนแรงหลังการร่วมเพศหรือหลังหมดประจำเดือนใหม่ ๆ อาจมีอาการระคายเคืองบริเวณปากช่องคลอด และเจ็บช่องคลอดเวลามีเพศสัมพันธ์ โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น การสวนล้างช่องคลอด การใช้ห่วงอนามัย การมีเพศสัมพันธุ์ วิธีรักษาคือกินยาฆ่าเชื้อค่ะ แต่จะมียาที่เฉพาะเจาะจงในการรักษาค่ะ
2.เชื้อรา เช่น Candida albicans ตกขาวเป็นสีขาวข้นคล้ายคราบนมหรือเป็นสีเหลืองขาว มีขนาดเล็กเป็นก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นเหม็นอับ แต่ไม่มีกลิ่นคาว ทำให้มีอาการแสบคันในช่องคลอด บางครั้งอาจคันที่อวัยวะเพศภายนอกได้ค่ะ โดยสาเหตุมามักจากความอับชื้น, ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ, ผู้ป่วยโรคเบาหวาน, หญิงตั้งครรภ์, ความเครียด รักษาโดยยาฆ่าเชื้อยา ยาเหน็บช่องคลอด และรักษาความสะอาดไม่ให้อับชื้นค่ะ
3.การติดเชื้อทริโคโมแนส หรือ เชื้อพยาธิในช่องคลอด ซึ่งเป็นพวกโปรโตซัวชนิดหนึ่ง การติดเชื้อชนิดนี้จะสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งผู้ป่วยและคู่นอนต้องรับการรักษาด้วยเสมอ มักมีอาการคัน แสบ แดง และเจ็บที่อวัยวะเพศได้เช่นกัน ในบางรายอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัดหรือมีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว มีปริมาณมากขึ้น มีกลิ่นเหม็นออกเปรี้ยวเล็กน้อย ตกขาวมีลักษณะเป็นฟอง (ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อชนิดนี้) ต้องได้รับยาฆ่าเชื้อทั้งผู้ป่วยและคู่นอนค่ะ
โดยแนะนำให้ไปตรวจพบแพทย์เพื่อแนวทางการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธุ์กับแฟนหลังมีประจำเดือนประมาณ1-2วัน แบะไม่ได้ป้องกัน แล้วหลังจากนั้นมีตกขาวปนเลือด มีกลิ่น แต่ก่อนหน้านี้เดือนที่แล้วและเดือนก่อนก็มีตกขาวปนเลือด และได้ไปหาหมอมาค่ะ หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร อยากทราบว่าเกี่ยวกับการติดเชื่อจากการมีเพศสัมพันธุ์หรือเปล่าคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)