August 13, 2019 15:04
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาทางทวารหนัก สามารถเป็นได้จากหลายอย่างครับ เช่น ริดสีดวงทวาร ติ่งเนื้อธรรมดา หูด ฝี จนกระทั่งเนื้องอกครับ
ถ้าเป็นๆหายๆอาจจะเป็นริดสีดวงทวารครับ ซึ่งคือหลอดเลือดดำที่ส่วนปลายสุดของลำไส้และทวารหนักโป่งพองออก
อาจเกิดได้จาก
-พันธุกรรม
-ท้องผูกเรื้อรัง
-อาชีพที่ต้องยืนนานๆ
-โรคตับ
เป็นต้น
เบื้องต้นแนะนำให้ฝึกให้มีนิสัยการขับถ่าย เช่น ขับถ่ายเป็นเวลา โดยเวลาที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายอุจจาระที่ดีควรจะเป็นหลังอาหาร(ดีที่สุดหลังอาหารเช้า) เพิ่มปริมาณเส้นใยในอาหาร ทานผักผลไม้มากๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่นั่งถ่ายอุจจาระนาน เช่น การอ่านหนังสือ/เล่นโทรศัพท์ขณะถ่ายอุจจาระ สุดท้ายถ้ายังท้องผูกอาจทานยาระบายช่วยได้ครับ
หากมีเลือดออกมาก ซีด อ่อนเพลีย ก้อนริดสีดวงดันไม่กลับ หรือปวดมาก แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ
การรักษาอื่นๆมีทั้งการใช้ยา รัดยาง ฉีดยา และผ่าตัดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการปวดรูทวาร/ติ่งเนื้อที่รูทวาร ที่พบบ่อยๆ อาจเกิดได้จากสาเหตุ 2-3 อย่าง ครับ เช่น
-โรคริดสีดวง ก็มีโอกาสถ่ายเป็นเลือดได้ แม้ท้องไม่ผูก อาจคลำพบติ่งเนื้อ และมีอาการปวดได้ โดยเฉพาะ ชนิดอุดตัน ( thrombosed hemorrhoid) ซึ่งจะพบว่าอาจมีถาายลักษณะเป็นเลือดสดตามหลังการถ่ายอุจจาระ อาจจะเจ็บ หรือไม่อาการเจ็บปวดก็ได้ หรือถ้ามีแผลขอบรูทวารหนักอาจเจ็บได้ครับ
-ส่วนอีกโรคที่มักพบได้บ่อยๆคือ มีแผลบริเวณรูทวาร ซึ่งเกิดจากอุจจาระแข็ง หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จะทำให้เกิดแผลบริเวณรูทวาร และทำให้มีอาการถ่ายเป็นเลือดสดและเจ็บบริเวณรูทวารได้ครับ
-การติดเชื้อขอบรูทวาร เช่น ฝีที่ทวารหนัก การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง หูดต่างๆ อาจคลำได้ก้อน ติ่ง หรือผิวหนังบวมแดง แสบ มีผื่นได้ครับ
-ติ่งเนื้อธรรมดา ลักษณะ เป็นส่วนหนึ่งของผิวหนัง มีสีเดียวกับผิวหนัง ไม่เจ็บ และไม่ขยายขนาดรวดเร็วครับ
แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาอย่างเหมาะสมนะครับ
อนึ่ง วิธีการแก้ไขเบื้องต้นที่แนะนำ คือ
1. รักษาอาการท้องผุก ได้แก่ ทานอาหารที่่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ
2. ยาระบาย เช่น MOM , fiber เช่น senokot ต่างๆ อาจต้องใช้เป็นประจำสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น ลดการบาดรูทวารครับ
3. ยาลดอาการปวดรูทวาร เช่น ไนโตรกลีเซอริน ก็ช่วยได้ครับ
4. ยา steroid เช่น proctocedyl ช่วยลดอาการอักเสบของรูทวาร ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ครับ
หากเป็นนาน รักษาเบื้องต้นด้วยการปรับวิถีชีวิตประจำวันแล้วไม่ดีขึ้น อาจเกิดจากหูรูดรูทวารแน่นเกินไป สามารถปรึกษาคุณหมอศัลยกรรมเพื่อประเมินอีกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คือก่อนหน้านี้ เคยรู้สึกเหมือนมีอะไรขวางๆที่รูทวาร เลยเอากระจกส่องดู เห็นเป็นเหมือนแบบ เนื้อเล็กๆ ออกมาจากรูทวาร (อารมเหมือนเนื้อปลิ้นๆออกมา) แต่ว่าเล็กๆ เลยปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้มีการไปหาคุณหมอ แต่ก็ยังมีความรู้สึกแบบ มีเหมือนมีอะไรนิ่มๆ อยู่ที่ทวารอยู่เป็นบางครั้ง (โดนส่วนมากจะรู้สึกเยอะหลังจากถ่ายเสร็จ) จนวันนี้ หลังจากถ่ายเสร็จ (อุจจาระแข็งๆเพราะไม่ได้ถ่ายมา2 วัน) ก็รู้สึกว่า มันรู้สึกถึงอะไรนิ่มๆนี้มากขึ้น เลยกลับมาส่องกระจกดู ก็เจอว่า มันเหมือนมีเนื้อปลิ้นออกมาเยอะขึ้น ใหญ่ขึ้นค่ะ อยากทราบว่ามันคืออะไร มีอันตรายไหมคะ ทั้งนี้ไม่มีอาการเจ็บใดๆเลยนะคะ แค่รู้สึกว่ามันมีอะไรนิ่มๆอยู่ตรงนั้น แต่ไม่มีความเจ็บ หรือรู้สึกอะไรเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)