September 07, 2017 20:13
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ควรทานอาหารอ่อนๆ อาหารเหลว รสจืด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม กระเพาะปลา ผักใบเขียวต้มจืด เน้นบวบหอมหรือผักฤทธิ์เย็น ปลาต้มขมิ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่เพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร เช่น ชา กาแฟ กระเทียม หัวหอม พริก และอาหารเผ็ดร้อน หน่อไม้ฝรั่ง ไข่ พาสต้า ก๋วยเตี๋ยว แป้ง ข้าวโพด ลูกพรุน ส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำอัดลม และน้ำตาล เป็นต้น หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดผ่อนคลายไม่กระชับ เช่น แอลกอฮอล์ ช็อกโกแลต เปปเปอร์มินต์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน น้ำมัน ของทอดและอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่ผสมครีม อาหารขยะ เป็นต้น นอกจากนั้นต้องปรับวิถีการใช้ชีวิตด้วย เช่น กินแต่พออิ่ม กินน้อยแต่หลายมื้อได้, เคี้ยวอาหารให้ละเอียด,อย่าดื่มน้ำมากพร้อมอาหาร,กินอาหารแล้วห้ามออกกำลังกาย หรือนอนทันที ควรทิ้งช่วงประมาณ 2-3 ชั่วโมง อย่าก้ม (โดยเฉพาะช่วงหลังอาหาร) ,อย่าใส่เข็มขัด หรือเสื้อผ้ารัดแน่นเกินไป,ระหว่างนอน ควรยกหัวเตียงให้ลาดสูงขึ้นประมาณ 6-8 นิ้ว ,ต้องจัดการกับความเครียด ผ่อนคลายให้มากขึ้น เพราะความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีภาวะกรดเกิน,ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
หลอดอาหารเป็นแผลให้ทานอาหารที่ไม่ระคายเคืองต่อแผล คือไม่ทานอาหารรสจัด อาหารเผ็ด อาหาร ผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่เป็นกรด ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน แอลกอฮอล์ อาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอด อาหารที่ร้อน ควรเน้นทานอาหารอ่อน ทานผักผลไม้(รสชาติเปรี้ยวน้อย) และควรดื่มน้ำให้มากๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หลอดอาหารเป็นแผล ทานอาหารอะไรได้บ้าง และไม่ควรทานอะไรบ้าง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)