คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารสำหรับผู้ที่เป็นไส้เลื่อนที่กระบังลม

ผู้ที่เป็นไส้เลื่อนที่กระบังลมมากกว่า 50% ไม่มีอาการใด ๆ แต่ในผู้ที่มีอาการ พบว่ามีจำนวนมากกว่าครึ่งที่มีอาการแสบร้อนกลางหน้าอก การรู้วิธีควบคุมอาการนี้จากการรับประทานอาหารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

งานวิจัยพบว่ารูในกระบังลมซึ่งเป็นบริเวณที่หลอดอาหารต่อกับกระเพาะปัสสาวะนั้นทำหน้าที่เป็นหูรูดเพิ่มเติมรอบหลอดอาหารส่วนปลาย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ

ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

กด

โดยทั่วไปแล้วกล้ามเนื้อบริเวณรูนี้และหูรูดหลอดอาหารส่วนปลาย ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่เชื่อมระหว่างหลอดอาหารกับกระเพาอาหารจะวางตัวอยู่คู่กันเพื่อป้องกันไม่ให้มีการไหลกลับของสารในกระเพาะอาหาร เชื่อว่าการมีไส้เลื่อนที่กระบังลมจะทำให้การทำงานของหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายแย่ลงและทำให้เกิดกรดและสารจากกระเพาะอาหารไหลย้อนผ่านรูเปิดที่กระบังลม และเข้าสู่หลอดอาหาร

ข้อแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารในผู้ที่มีไส้เลื่อนที่กระบังลม

• รับประทานอาหารมื้อเล็กแต่ถี่ขึ้นแทนการทานอาหารมื้อใหญ่
• ไม่ควรเข้านอนหลังจากรับประทานอาหารน้อยกว่า 2 ชั่วโมง
• นั่งอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังจากการกินอาหาร
• อย่าโน้มตัวไปทางด้านขวาขณะกิน
• หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการแสบร้อนกลางหน้าอก
• หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์

อาหารบางชนิดสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ จึงควรที่จะหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณในการรับประทานการรู้จักอาหารเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ และควรรู้จักอาหารที่รับประทานแล้วปลอดภัยกับตัวเองด้วย

ลิ้งก์ด้านล่างจะนำไปสู่ตารางอาหารที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีอาการ, อาหารที่ควรรับประทานในปริมาณจำกัด และอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และเมื่อดูรายการอาหารเหล่านี้แล้ว คุณอาจพิจารณาการรับประทานอาหารของตัวเองแล้วพบว่าสามารถรับประทานอาหารในกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงได้โดยไม่มีปัญหาอะไร หรืออาจมีปัญหากับรายการอาหารที่จัดอยู่ในกลุ่มปอลดภัยได้

ดังนั้น การจดบันทึกการรับประทานอาหารแต่ละวันและอาการที่เกิดเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จะช่วยให้คุณและแพทย์สามารถวางแผนการรับประทานอาหารและตัดสินใจปรับเปลี่ยนนิสัยการกินบางอย่างที่จำเป็น