March 02, 2019 09:27
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ปัสสาวะจางนี่ระดับฮอร์โมนที่จะใช้ตรวจครรภ์ลดลงไปด้วยมั้ยคะ
หากระดับของ "ฮอร์โมนการตั้งครรภ์" ไม่เข้มข้นมากพอ ก็อาจทำให้ชุดทดสอบทางปัสสาวะตรวจวัดไม่ได้ค่ะ
แต่สีของปัสสาวะไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์จะเข้มข้นหรือไม่ ดังนั้น การตรวจการตั้งครรภ์จึงควรทำให้ถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก ซึ่งหากผู้ถามได้อ่านก็จะทราบว่าควรตรวจหลังตื่นนอนตอนเช้านะคะ
ถ้าวันนี้ยังไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันพรุ่งนี้ค่ะ และหากได้ผลตรวจว่าไม่ตั้งครรภ์ ก็ให้รอดูต่อไป (ระหว่างนี้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน) แต่ถ้ารอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ให้ตรวจซ้ำในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
2. เลือดที่ออกหลังจากทานยาคุมฉุกเฉินเป็นผลข้างเคียงของยา ไม่ใช่ประจำเดือนใช่มั้ยคะ
จากระยะเวลาที่พบไม่น่าจะเป็นประจำเดือนค่ะ
แต่ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินเป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดออกกะปริบกะปรอยเท่านั้นนะคะ และอาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญค่ะ
ดังนั้น หากผู้ถามมีเลือดออก "เยอะมาก" เช่น มีเลือดออกจนชุ่มผ้าอนามัย ก็น่าจะไม่ใช่ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินเช่นกัน จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เสียเลือดมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเลือดหยุดไหลไปแล้ว ก็รอดูไปก่อนก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีความผิดปกติเช่นนี้อีก ควรไปพบสูตินรีแพทย์นะคะ
3. ยาคุมฉุกเฉินมีผลต่อประจำเดือนอย่างไร มากน้อยแค่ไหนคะ
ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมมากกว่า 90% จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนไม่เกิน 4 วันค่ะ
ดังนั้น หากผู้ถามเคยมีประจำเดือนมาตรงเวลาสม่ำเสมอ แล้วครั้งนี้ไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ โดยคลาดเคลื่อนจากเวลาที่คาดไว้มาก ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนค่ะ
4. จากที่กล่าวมามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหนคะ
การที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำอย่างการหลั่งนอก ก็ย่อมจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับการป้องกันด้วยวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานค่ะ
นั่นคือ การมีเพศสัมพันธ์ในครั้งที่ผู้ถามรับประทานยาคุมฉุกเฉิน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งถัดมาที่ใช้วิธีหลั่งนอก จะมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22%
ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้คุมกำเนิดใด ๆ อยู่ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หมอขอตอบไล่ไปทีละคำถามนะรรับ
1. การตรวจการตั้งครรภ์ที่ถูกต้องนั้นจะต้องตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ จึงจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ดังนั้นการตรวจการตั้งครรภ์ครั้งที่ผ่านมาจึงยังไม่สามารถเชื่อถือผลตรวจได้ ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายวันที่ 20 กุมภาพันธ์หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้งโดยใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าได้ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมเป็นต้นไปครับ
2.หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ในช่วงประมาณ 7 วันหลังรับประทานยา เลือดที่ออกมาก่อนหน้านี้จึงมีโอกาสที่จะเป็นผลข้างเคียงจากยาได้มากกว่าที่จะเป็นประจำเดือนครับ
3. ถ้าหากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนก็มักคลาดเคลื่อนจากเดิมไม่เกิน 4-5 วัน แต่ถ้าหากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอก็จะบอกได้ยากว่าประจำเดือนจะมาอีกครั้งเมื่อไหร่ครับ
4. จากเหตุการณ์ข้างต้นนั้นมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่อนข้างมากครับ เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ ส่วนการรับประทานยาคุมฉุกเฉินเองก็มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 15-25% ครับ
ดังนั้นหมอแนะนำว่าควรรอตรวจการตั้งครรภ์เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือมีเพศสัมพันธ์กันวันที่1กพ.ค่ะ หลั่งในเลยทานยาคุมฉุกเฉินหลังจากนั้น3ชม.ค่ะ แล้วประมาณวันที่5มีเลือดออกทางช่องคลอดเหมือนเลือดประจำเดือนเลยค่ะเยอะมากเป็นเวลาประมาณ2วัน และหลังจากนั้นได้มีเพศสัมพันธ์อีกคือวันที่7 12 14 20ค่ะ 4วันหลังนี่หลั่งนอก เราตรวจครรภ์ล่าสุดวันที่19กพ.ค่ะ ผลคือไม่ตั้งครรภ์ ขึ้นขีดเดียวจางๆค่ะ แต่ตรวจตอนเย็น ปัสสาวะจางด้วย ประจำเดือนเรามาครั้งสุดท้ายคือวันที่ 23-27มค.62ค่ะ จนถึงวันนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลย มีอาการหงุดหงิดง่าย อยากกินแต่ของเผ็ดๆร้อนๆ อยากนู่นอยากนี่ไปหมด เต้านมใหญ่ขึ้น สิวขึ้นด้วย มีอาการตกขาว ปวดท้องน้อยเกรงเป็นพักๆ บางครั้งก็ปวดท้องท้องจี๊ดๆข้างซ้ายค่ะ สิ่งที่อยากทราบคือ 1.ปัสสาวะจางนี่ระดับฮอร์โมนที่จะใช้ตรวจครรภ์ลดลงไปด้วยมั้ยคะ 2.เลือดที่ออกหลังจากทานยาคุมฉุกเฉินเป็นผลข้างเคียงของยา ไม่ใช่ประจำเดือนใช่มั้ยคะ 3.ยาคุมฉุกเฉินมีผลต่อประจำเดือนอย่างไร มากน้อยแค่ไหนค่ะ 4.จากที่กล่าวมามีโอกาสที่จะตั้งครร์มากน้อยแค่ไหนคะ ขอบคุณนะคะหมอ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)