February 20, 2019 10:35
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันปลอดภัย หรือ "หน้า 7 - หลัง 7" มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 5 - 24% ค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปจะถือว่าความเสี่ยงค่อนไปทางสูง คือ 24%
เมื่อเทียบกับการมีเพศสัมพันธ์นอกเหนือช่วงเวลาดังกล่าว ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ก็ดูว่าการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันปลอดภัยจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า
แต่เมื่อเทียบกับการใช้ถุงยางอนามัย ที่ถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ก็จะเห็นได้ว่า การนับวันปลอดภัยมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ
ดังนั้น ต้องดูว่าผู้ถามและแฟนยอมรับความเสี่ยงดังกล่าวได้หรือไม่ ถ้าได้ ก็ให้รอดูต่อไปว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือเปล่าค่ะ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
แต่ถ้ายอมรับความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้ ก็ควรจะคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งมี 2 ทางเลือก คือ
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่สูงมากค่ะ ผู้ใช้ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% การใช้อย่างรวดเร็วมีแนวโน้มที่จะป้องกันได้ดีกว่า ดังนั้น หากจะรอดูไปก่อน 1 - 2 วันก็สามารถทำได้ แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับผู้ที่รับประทานทันที หรือภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
แต่แม้จะรับประทานเร็วแค่ไหน ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ
2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมากค่ะ ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% เท่านั้น และมีผลคุมกำเนิดได้นาน 3 - 10 ปีขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผมมีอะไรกับแฟนแล้วถุงยางแตก แต่ยังไม่ได้หลั่ง แฟนบอกว่าอีก1-2วันประจำเดือนจะมา(คิดว่าอยู่ในระยะปลอดภัย) กรณีนี้ควรกินยาคุมฉุกเฉินหรือรอว่าถ้าประจำเดือนมาใน1-2วันก็ไม่ต้องกินยาคุมฉุกเฉิน ขอบคุณครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)