September 08, 2019 09:37
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้นถือว่าปลอดภัยครับ แต่สิ่งที่ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ในครั้งนี้คือการที่ได้มีเพศสัมพันธ์โดยใช้การหลั่งนอก เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ และจะทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ
หมอแนะนำว่าในตอนนี้ควรรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แล้วผลข้างเคียงของการกินยาคุมฉุกเฉินมีอะไรบ้างคะ เป็นครั้งแรกที่กินค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย คือ อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม อารมณ์แปรปรวน ตกขาวมากขึ้น แลพมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถือว่าอันตรายใช่ไหมคะ แต่ในกรณีนี้ก็ควรกิน
วันที่8/9/62 มีอะไรกับแฟน ครั้งแรกใส่ถุงยาง ครั้งที่2ไม่ได้ใส่ถุงยาง (หลั่งข้างนอกแต่ไม่แน่ใจว่ามีหลั่งในด้วยหรือป่าว)อย่างนี้มีโอกาสท้องไหมคะ และ ควรกินยาคุมฉุกเฉินไหมคะ เมนเดือนที่แล้วมาวันที่22/8/62-26/8/62 ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)