หนูปวดท้องข้างซ้ายช่วงล่าง ปวดแบบเจ็บๆแน่นๆ ปวดร้าวไปถึงหลัง ไม่ทราบว่าเป็นอะไรคะ?

รบกวนขอประวัติเพิ่มเติมหน่อยนะครับ จากข้อมูลที่ให้มาค่อนข้างน้อยเกินไป ไม่สามารถจัดกลุ่มโรคหรือสันนิษฐานได้ครับ(รบกวนขอข้อมูลทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ในการให้คำแนะนำเบื้องต้นครับ) เช่น เพศ อายุ โรคประจำตัว ยากินประจำ ประวัติผ่าตัด ปวดตรงตำแหน่งใด ปวดมากี่วัน ปวดลักษณะอย่างไร(จี๊ดๆ ตุบๆ แน่นๆ??) ปวดแต่ละครั้งนานเท่าใด มีปวดร้าวไปบริเวณอื่นหรือไม่ อะไรทำให้อาการปวดเป็นมากขึ้น ทำอย่างไรให้อาการปวดเบาลง รับประทานยาแก้ปวดแล้วเบาลงหรือไม่ มีอาการอื่นๆอีกหรือไม่ เช่น มีไข้ ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะมีฟอง ประจำเดือนมาผิดปกติ ท้องเสียถ่ายเหลว น้ำหนักลด(ถ้าลด ลดลงจากกี่กิโลไปกี่กิโล ภายในระยะเวลาเท่าไหร่) เบื่ออาหาร ท้องผูกสลับท้องเสีย เป็นต้น

เนื่องจากอาการปวดท้องด้านซ้ายล่างเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ จึงต้องอาศัยประวัติที่มากขึ้น
โดยสาเหตุอาจเกิดได้จาก
1.ระบบกล้ามเนื้อ : กล้ามเนื้ออักเสบ, โรคผิวหนังที่มีการอักเสบติดเชื้อในบริเวณดังกล่าว
2.ระบบทางเดินอาหาร : ลำไส้อักเสบ ผนังลำไส้โป่งพอง ลำไส้อุดตัน เลือดออกในทางเดินอาหาร มะเร็งทางเดินอาหาร
3.ระบบทางเดินปัสสาวะ : นิ่วในทางเดินปัสสาวะ กรวยไตอักเสบ ผีในช่องท้อง
4.ระบบสืบพันธุ์ : อุ้งเชิงกรานอักเสบ ซีสต์ในรังไข่ มะเร็งหรือก้อนที่มีความผิดปกติบริเวณรังไข่
5.ความผิดปกติทางด้านจิตใจ (มักนึกถึงเป็นลำดับสุดท้าย ในกรณีที่ตรวจร่างกายหรือหาสาเหตุแล้วไม่พบความผิดปกติ)

แต่จากประวัติที่ให้มาเบื้องต้น มีปวดท้องด้านซ้ายล่าง มีร้าวไปด้านหลัง อาจจะคิดถึงระบบทางเดินปัสสาวะมีความผิดปกติมากกว่าครับ โดยเฉพาะไต (ซึ่งมักจะมีอาการปวดร้าวไปหลังได้) หรืออีกระบบที่คิดถึงได้คือ รังไข่มีความผิดปกติ

ดังนั้นเพื่อความถูกต้องในการวินิจฉัยและการรักษา แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายเพิ่มเติมก่อนนะครับ

เข้ารับการรักษาแล้วประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา << หมายถึงรักษาโรคอะไร หมอวินิจฉัยว่าอะไร ได้ยาอะไรกลับมารับประทานบ้างครับ

แต่จากประวัติเพิ่มเติมที่ได้มา (แม้จะยังไม่ครบที่หมอถามไป) มีประวัติว่ามีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อยด้านซ้ายล่าง มีปัสสาวะแสบขัด ร่วมกับตกขาวผิดปกติ เบื้องต้นอาจสันนิษฐานว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ครับ โดยเฉพาะเรื่องการติดเชื้อ อาจเป็นชเื้อที่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ เช่น หนองใน เริม หรือการติดเชื้อราในช่องคลอด การติดเชื้อทิโครโมแนส หรืออีกกรณีหนึ่งที่พบได้คือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือกรวยไตอักเสบครับ

เบื้องต้น อาจงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนเพื่อเป็นป้องกันการแพร่เชือ้หรือไปรับเชื้ออื่นๆมาเพิ่มเติม และมาพบแพทย์นะครับ อาจจะต้องมีการตรวจภายในเพิ่มเติม เพื่อดุลักษณะรอยโรคที่เกิดขึ้น เช่น มีหนอง มีตุ่มใดๆขึ้นผิดปกติหรือไม่ ปากมดลูกอักเสบบวมแดงหรือไม่ กดเจ็บบริเวณรังไข่หรือไม่ หรือเคาะหลังที่บริเวณที่มีไตอยู่แล้วรู้สึกเจ็บหรือไม่ และอื่นๆ เป็นต้น กรณีที่ตรวจแล้วแล้วสงสัยว่ามีการติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน แพทย์จะพิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะกลับมาให้ครับ หรือถ้าสงสัยว่ามีกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือกรวยไตอักเสบ แพทย์อาจจะทำการตรวจปัสสาวะเพิ่มเติม และจ่ายยาปฏิชีวนะเช่นกัน แต่ยาที่ได้อาจจะคนละกลุ่มกันครับ ดังนั้นมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและวินิจฉัยให้ได้แน่นอนก่อนนะครับ ส่วนการรับประทานยาแก้ปวด จะเป็นแค่การรักษาที่ปลายเหตุ เมื่อหมดฤทธิ์ยา อาการปวดก็จะยังกลับมาได้ ดังนัน้ต้องรักษาที่สาเหตุครับ อาการต่างๆจึงจะทุเลาหรือหายไปได้