ผมมีปัญหาเกี่ยวกับอวัยเพศครับ เวลามีกิจกรรม แล้วชอบเสร็จไว้ครับ บางที่ก้ไม่แข็งตัวครับ เมื่อก่อนไม่เป็นครับ พอห่างจากการมีกิจกรรม มา3-4ปี พอกลับมามีกิจกรรมอีกครั่ง ก้มาเป็นเลยครับ

อาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว มีหลายสาเหตุค่ะ ได้แก่ ความผิดปกติของระบบสืบพันธ์ชาย เช่น องคชาติ ต่อมลูกหมาก , ความผิดปกติของเส้นเลือด/เส้นประสาท ที่ไปเลี้ยงอวัยวะสืบพันธ์ , การ ติดเชื้อ ในระบบสืบพันธ์และระบบขับถ่ายปัสสาวะ ไปจนถึง ทางจิตใจ เช่น ความกังวล ความเครียด เป็นต้น เบื้องต้น แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอ ศัลยกรรมทางเดินปัสาวะค่ะ โรคนี้มียาและทางรักษาค่ะ แต่หากเป็นเนื่องจาก ความเครียด วิตกกังวล แนะนำให้ปรึกษา จิตแพทย์ ค่ะ ส่วนเรื่องการที่คุณมีการหลั่งไว (Premature Ejaculation) คือ ภาวะที่มีการหลั่งน้ำอสุจิเมื่อมีกิจกรรมทางเพศเร็วเกินไป ไม่สามารถควบคุมหรือชะลอการหลั่งได้ หลั่งภายในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังการสอดใส่ เป็นหนึ่งในปัญหาเพศสัมพันธ์ที่พบในเพศชาย ที่สร้างความหงุดหงิด วิตกกังวล จนเกิดเป็นความทุกข์ที่อาจนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ทางเพศ โดยอาการหลักของการหลั่งเร็ว ได้แก่ 1.หลังการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่สามารถควบคุมหรือไม่สามารถชะลอการหลั่งได้เกินกว่า 1 นาที 2.หลั่งก่อนที่จะสอดใส่อวัยวะเพศเข้าในช่องคลอด สาเหตุของการหลั่งเร็ว 1.ทางร่างกาย อาจเกิดจากความผิดปกติของระดับฮอร์โมน ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง (สารสื่อประสาท) ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การอักเสบและติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะหรือบริเวณต่อมลูกหมาก การถ่ายทอดทางพันธุกรรม อยู่ในภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และการใช้ยาหรือสารเสพติด 2.ทางจิตใจ อาจมีปัจจัยที่กระทบต่อจิตใจจนส่งผลต่อการหลั่งเร็ว เช่น เครียด มีความวิตกกังวล อยู่ในภาวะซึมเศร้า มีปัญหาความสัมพันธ์ มีประสบการณ์ทางเพศเร็วหรือก่อนวัย การรักษาการหลั่งเร็ว 1.ผู้ป่วยสามารถดูแลรักษาอาการได้ด้วยตนเองเมื่อมีกิจกรรมทางเพศด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองก่อนการมีเพศสัมพันธ์ 1-2 ชั่วโมง การเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่มีความหนาไม่ให้อวัยวะเพศไวต่อความรู้สึกจากผิวสัมผัส ขณะมีเพศสัมพันธ์ให้หยุดพักและนึกถึงเรื่องอื่นที่ไม่ทำให้เกิดอารมณ์ หยุดการทำกิจกรรมทางเพศ หรือหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพยายามชะลอการหลั่งในขณะที่ใกล้หลั่ง แล้วค่อยเริ่มทำกิจกรรมต่ออีกครั้งหนึ่ง 2.หากผู้ป่วยมีอาการป่วยเดิมที่เกี่ยวข้องเป็นเหตุทำให้เกิดการหลั่งเร็ว แพทย์จะรักษาด้วยการให้ยาตามอาการและความเหมาะสม ทั้งนี้ทั้งนั้นหากลองทำวิธีตามข้างต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ