April 14, 2017 18:51
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การรักษาอาการปวดหลังมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ หรือสาเหตุของการทำให้เกิดอาการปวดหลัง ถ้ามีอาการปวดในระยะสั้นคือเพิ่งปวดหรือปวดไม่มาก สามารถบรรเทาได้ด้วยตัวเองโดยการทาครีมบรรเทาอาการปวด หรือรับประทานยาแก้ปวด
แต่ถ้ามีอาการปวดรุนแรงหรือเรื้อรัง แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดควบคู่ไปกับการรักษารูปแบบอื่น เช่น การทำกายภาพบำบัด การฝังเข็ม หรืออาจรวมไปถึงการตรวจจำพวกเอกซเรย์หรือ Magnetic Resonance Imaging (MRI) และการผ่าตัด
แนะนำเบื้อต้นสำหรับวิธีบรรเทาอาการปวดหลังจาก office syndrome ได้แก่ ปรับเปลี่ยนพฟติกรรมการใช้หลัง ไม่นั่งหลังงอ ไม่ไขว่ห้าง ปรับจังหวะยืน เดิน นั่งให้เหมาะสม หากต้องนั่งทำงานนานๆ ควรมีอุปกรณ์เสริมหลัง ออำกำลังกายสม่ำเสมอ เปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆในขณะที่ต้องนั่งทำงานนานๆ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)
ออฟฟิศ ซินโดรม (Office syndrome) เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้าง ระบบสายตาและการมองเห็น ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึม ระบบฮอร์โมน หรือระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำงานผิดปกติ เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้ร่างกายอยู่นิ่งๆ ดังนั้นคนที่มีพฤติกรรมที่ต้องนั่งนิ่งๆ อยู่กับที่เป็นเวลานานๆ ร่วมกับการไม่ได้ออกกำลังกายแลการรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณภาพ จึงมีโอกาสเป็นออฟฟิศ ซินโดรมได้ทั้งหมด
อาการปวดหหลังห่างกินยา พักการใช้งานแล้ว ควรจะเริ่มบริหารกล้ามเนื้อหลังเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงเป็นการป้องกันในระยะยาวต่อไป
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อาการปวดหลัง (office syndrome) เป็นมาหลายปีไม่หายขาดซะที ต้องรักษาอย่างไร หากยังต้องทำงาน office แบบเดิม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)