มีพสพกับแฟนครับ แต่ใส่ได้แค่หัว แล้วก็โยกตัวนิดเดียว แต่ไอนั่นของผมไม่ได้โยกไปด้วย ไม่ถึงครึ่งนาที ไม่มีการหลั่ง แล้วก็เอาออกมาช่วยตัวเองต่อครับ อย่างนี้จะมีโอกาสท้องไหม

สวัสดีค่ะ แม้โอกาสจะไม่มาก แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะไม่ตั้งครรภ์ 100% ค่ะ เนื่องจากการนำอวัยวะเพศชายสอดใส่อวัยวะเพศหญิงก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ เนื่องจาก ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนค่ะ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ค่ะ

>>ดังนั้น หากไม่แน่ใจ และไม่ได้คุมกำเนิดโดยวิธีอื่นๆ ช่วย อาจจะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยหากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% แต่ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ
หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น จะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ค่ะ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ค่ะ

>>ทั้งนี้ จะเสี่ยงมาก หรือน้อย ขึ้นกับหลายปัจจัยด้วย เช่น ประจำเดือนล่าสุดของคนไข้ การสอดใส่หลายครั้งไหม มีน้ำหล่อลื่นออกมาตอนสอดใส่ไหม เป้นต้นค่ะ

อย่างที่กล่าวไป บอกได้ยากนะคะ แม้โอกาสจะน้อยมากๆก็ตาม แต่แม้เพียงอสุจิเพียงเล็กน้อยที่ออกมาขณะสอดใส่ ก็ทำให้ตั้งครรภ์ได้ หากช่วงนั้น แฟนมีไข่ตกอยู่ค่ะ

มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4-27% แต่ค่อนข้างน้อยค่ะ เพราะว่าช่วงเวลาที่สอดใส่นั้น
อาจจะมีอสุจิบางส่วนหลั่งออกมาพร้อมกับน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายได้ค่ะ
ถึงแม้จะมีปริมาณน้อย แต่ถ้าอสุจิตัวใดตัวหนึ่งแข็งแรง บวกกับมีไข่ตก อาจเกิดการปฏิสนธิได้ค่ะ
หากยังไม่ได้คุมกำเนิดวิธีอื่นเลย และยังไม่พร้อมตั้งครรภ์แนะนำให้ทานยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้ค่ะ
ยิ่งทานเร็วภายใน 24 ชั่วโมง ยิ่งมีประสิทธิภาพการคุมกำเนิดสูงถึง 85 % ค่ะ
ยิ่งทานช้าประสิทธิภาพยิ่งลดลง แต่ไม่ควรเกิน 120 ชั่วโมงค่ะ

โอกาสตั้งครรภ์น้อยค่ะ

แต่ไม่เป็นศูนย์ ทางที่ดี ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินร่วมด้วยดีกว่าค่ะ

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ

อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%

เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น

ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่

และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ

ถึงแม้ตรวจแล้วขึ้นว่าตั้งครรภ์ คือตรวจตรวจปัสสาวะ แล้วขึ้น2ขีดชัดเจนครับ และควรตรวจซ้ำอีกครั้งครับ เพื่อยืนยันผล เนื่องจากอาจมีโอกาสที่ผลผิดพลาดได้เช่นกัน

หากๆม่มั่นใจผลการตรวจ สามารถไป รพ เพื่อรับการตรวจที่แน่ชัด ซึ่งมีทั้งหาตรวจระดับฮอร์โมน Beta-HCG ในเลือดด้วยเพื่อยืนยันผลครับ