July 14, 2018 00:25
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการเข้าได้กับกลุ่มโรคกระเพาะอาหารและลำไส้
การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารจะช่วยลดอาการเหล่านั้นได้ ได้แก่
- งดเครื่องดื่มมีคาเฟอีน ชา กาแฟ น้ำอัดลม เคื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ทานอาหารให้ตรงเวลา เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
- ไม่ควรนอนหรือเอนตัวหลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ เนื่องจาก อาหารจะยังอยู่ในกระเพาะก่อนจะลงไปที่ลำไส้ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หากทานเสร็จแล้วนอนทันที จะทำให้อาหารรวมทั้งกรดย้อนขึ้นมาทางหลดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกได้
- งดอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ทานอาหารย่อยง่ายเช่น ปลา ไก่ ทานผักเป็นประจำ
- งดทานมื้อดึก และไม่ทานจนอิ่มมากเกินไป
- ความเครียดมีผลทำให้กรดในกระเพาะหลั่งออกมามากขึ้น จึงมีอาการแสบท้องได้ค่ะ
- หากมีภาวะอ้วน ควรลดน้ำหนัก เนื่องจากโรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของกรดไหลย้อนค่ะ
- ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร
หากอาการเป็นมานาน รับประทานยารักษา ปรับพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้น
แนะนำให้ไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ควรตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน การอัลตราซาวน์ช่องท้อง เป็นต้น โรคอื่นๆที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้ เข่น
- การติดเชื้อแบคทีเรียสนกระเพาะอาหาร และทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร การรักษาจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะรักษาด้วย
- นิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ
- ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
- มะเร็งกระเพาะอาหาร ที่ทำให้ผลิตกรดมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง
เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตื่นเช้ามาแสบร้อนช่องท้องทุกวันเหมือนกับไม่ได้กินอาหารมานาน พอทานกผ้ทานได้น้อยก็จะอิ่มทานเผ็ดนิดหน่อยก็จะปวดท้องอาเจียนถ่ายแล้วก็ปวดบิดเหมือนใส้จะขาดเป็นแบบนี้มานานมากแล้วไม่รุ้จะรักษายังไงดีคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)