ใช่เครื่องพ่นยาขยายหลอดลมร่วมกับผู้อื่นได้มั้ย

เราได้รับคำถามของคุณแล้ว รอทีมแพทย์มาตอบคำถามสักครู่นะคะ พูดคุยหรือสอบถามแอดมินได้ทุกวัน ทางไลน์ @honestdocs ค่ะ

ก่อนอื่นควรเข้าใจถีงรูปแบบของยาพ่นฝอยละอองนั้นมีหลายรูปแบบ ได้แก่
-วิธีพ่นยาฝอยละอองแบบก๊าซผ่านผิวน้ำ (Jet nebulizer หรือ Small volume nebulizer: SVN) เป็นการพ่นยาโดยใช้เครื่องพ่นที่ผลิตแรงอัดอากาศเพื่อทำฝอยละอองขนาดเล็กที่จะไหลไปตามก๊าซเข้าสู่ทางเดินหายใจ นิยมให้แบบครั้งคราว ส่วนใหญ่เป็นการให้ในปริมาณยาที่น้อย วิธีนี้ใช้รักษาโรคระบบทางเดินหายใจในรายที่ไม่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วย
-วิธีพ่นยาฝอยละอองแบบต่อเนื่อง (Continuous nebulization therapy) เป็นการพ่นยาโดยฝอยละอองขนาดเล็กจะไหลตามก๊าซเข้าไปในทางเดินหายใจของผู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวิธีนี้มักใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการหอบขั้นรุนแรง โดยจะใช้เฉพาะในโรงพยาบาล
-วิธีพ่นยาฝอยละอองด้วยคลื่นความถี่สูง (Ultrasonic nebulizer) เป็นเครื่องผลิตฝอยละอองโดยอาศัยกระแสไฟฟ้าผ่านตัวนำ ทำให้เกิดคลื่นเสียงความถี่สูง เมื่อมากระทบของเหลวทำให้เกิดเป็นฝอยละอองขนาด 1-6 ไมครอน ผ่านเข้าไปในทางเดินหายใจ
-วิธีพ่นยาฝอยละอองด้วยเอ็มดีไอ (Metered dose inhaler: MDI) เป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยใช้ก๊าซเป็นตัวขับเคลื่อนในการกดพ่นยาจากกระบอกยา
-วิธีพ่นยาฝอยละอองแบบแห้ง (Dry powder inhaler: DPI) เป็นการใช้ยาสูดชนิดผงที่ต้องใช้แรงในการสูดอนุภาคยาที่เป็นผงด้วยอัตราเร็วสูง เพื่อให้อนุภาคเหล่านี้หลุดจากกันจนเป็นฝอยละอองยา ผ่านแผงกั้นขนาดเล็ก ๆ หรือช่องที่ขดอยู่เพื่อให้อนุภาคของยามีขนาดพอเหมาะ ซึ่งจะเหมาะสมกับผู้ป่วยที่สามารถสูดหายใจเข้าได้แรงพอ ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่ไม่มีแรงสูด
ผู้ป่วยแต่ละรายมีความเหมาะสมกับวิธีการใช้เครื่องพ่นที่แตกต่างกัน ดังนั้นนอกจากประเด็นเรื่องการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้หากมีการนำเครื่องพ่นยามาใช้ร่วมกันแล้ว ซึ่งเครื่องพ่นแบบที่ 1-3 จำเป็นต้องมีการทำความสะอาดชิ้นส่วนตามคำแนะนำอย่างถูกต้องของผู้ผลิต ส่วนเครื่องพ่นแบบที่ 4-5 เป็นแบบหลอดที่แพทย์ผู้ให้การรักษาจะสั่งให้เป็นรายบุคคลอยู่แล้วจึงไม่ควรใช้ร่วมกัน จึงควรนำประเด็นเหล่านั้นมาพิจารณาด้วยด้วย