การดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมนั้นมีอยู่หลายวิธี เช่น ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการทำงานประจำวันเพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองยังมีคุณค่า, การให้ผู้ป่วยทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ, การติดรูปภาพของสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในบ้าน เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยรู้ว่าสิ่งของเหล่านั้นอยู่ตรงไหน หรือแม้กระทั่งติดรูปห้องน้ำไว้ที่ประตูห้องน้ำเพื่อให้ผู้ป่วยรู้ว่านี่คือห้องน้ำ เป็นต้น นอกจากการดูแลผู้ป่วยแล้ว สุขภาพของผู้ดูแลก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ดังนั้นคุณซึ่งเป็นผู้ดูแลควรหาเวลาพักบ้างระหว่างการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม
ถ้าคุณป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม หรือกำลังดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมอยู่ คุณอาจเผชิญกับปัญหาในทางปฏิบัติหลายอย่างในชีวิตประจำวันของคุณ
ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย-ผู้สูงอายุวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 495 ลดสูงสุด 51%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะรู้สึกอ่อนแอเมื่อโรคมีอาการแย่ลงและพวกเขาจะต้องการพึ่งพาคนอื่นมากขึ้นเพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้กับเขา มันเป็นสิ่งสำคัญที่คนที่เป็นโรคสมองเสื่อมจะต้องรู้สึกอุ่นใจและรู้สึกได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่นในขณะที่กำลังรักษาระดับการใช้ชีวิตอย่างอิสระที่ยังคงเหลืออยู่
แม้ว่าอาการบางอาการจะเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม แต่ประสบการณ์ของแต่ละคนในแต่ละโรคและวิธีที่พวกเขาจะรับมือกับอาการเหล่านี้จะแตกต่างกัน
การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมด้วยภาระงานประจำวัน
เมื่อคนที่มีภาวะสมองเสื่อมพบว่าความสามารถทางสมองของพวกเราลดลง พวกเขาอาจรู้สึกวิตกกังวล เครียด และกลัว พวกเขาอาจตระหนักถึงความซุ่มซ่ามที่เพิ่มขึ้นและการไม่สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ และนี่อาจะทำให้พวกเขารู้สึกท้อแท้และรู้สึกแย่กับเรื่องดังกล่าว
หากคุณกำลังดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม คุณสามารถช่วยให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้นโดยทำให้กิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ซึ่งผู้ป่วยได้รับการสนับสนุนที่ดีและไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ผู้ป่วย
การมีส่วนร่วมของคนที่คุณดูแลในกิจกรรม/ภาระงานประจำวัน อาจช่วยให้พวกเขารู้สึกมีประโยชน์และเพิ่มความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง พวกเขาสามารถเป็นผู้ช่วยในการช็อปปิ้ง การปูผ้าปูโต๊ะ หรือการกวาดใบไม้ในสวน เป็นต้น
เมื่ออาการความเจ็บป่วยแย่ลง งานต่างๆ เหล่านี้อาจกลายเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะจัดการได้อย่างอิสระ และคุณอาจจำเป็นต้องให้การสนับสนุนเพิ่มเติมมากกว่าเดิม
ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย-ผู้สูงอายุวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 495 ลดสูงสุด 51%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คุณสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่านั้นได้อย่างไร
วิธีหลักๆ ที่คุณสามารถช่วยเหลือผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมก็คือการให้การสนับสนุนผู้ป่วยเหล่านั้น และพยายามไม่วิจารณ์สิ่งที่ผู้ป่วยทำ เพราะการรู้สึกว่าตนเองยังเป็นคนที่มีประโยชน์อยู่ ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม
ในช่วงเริ่มต้นของการเป็นโรค ยังสามารถใช้ตัวช่วยเรื่องความจำวางไว้ที่บริเวณต่างๆ ของบ้าน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยจำได้ว่าสิ่งของต่างๆ นั้นถูกวางอยู่ตรงไหนของบ้าน
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถวางรูปภาพของสิ่งของที่อยู่ภายในตู้ไว้ที่ประตูตู้เก็บของนั้น เช่น ภาพถ้วย และจานรองถ้วย การทำเช่นนี้อาจช่วยกระตุ้นความจำของผู้ป่วย และช่วยให้ผู้ป่วยยังสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระต่อไปได้อีกเล็กน้อย
ให้ผู้ป่วยทำงานอดิเรกและความสนใจส่วนตัวแม้ว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อม
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจำนวนมากจะยังรู้สึกสนุกกับงานอดิเรกหรือความสนใจส่วนตัวต่อไป ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ป่วยชอบทำอาหาร พวกเขาอาจสามารถช่วยคุณทำอาหารได้ การให้ผู้ป่วยเดินหรือทำสวนคือวิธีง่ายๆ ในการออกกำลังกายและทำให้ผู้ป่วยรู้สึกถึงความสำเร็จ หรือผู้ป่วยบางรายอาจชอบฟังเพลงหรือเล่นเกมกระดาน (board game) ผู้ป่วยบางรายจะมีความสุขอย่างมากเมื่อได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขหรือแมว
ถ้าคนที่คุณห่วงใยเป็นคนที่ง่ายๆ สบายๆ ชอบเข้าสังคม หรือมีครอบครัวขนาดใหญ่ พวกเขาอาจมีความสุขกับการพบปะกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง 1-2 คน อย่างไรก็ตามพวกเขาอาจรู้สึกเป็นเรื่องยากหากต้องสนทนาในการพบปะผู้คนจำนวนมากพร้อมๆ กัน
การรักษาสุขภาพและการมีโภชนาการที่ดีในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม
ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนที่คุณดูแลจะต้องมีสุขภาพที่ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเหมาะสม และออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากพวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรงนั่นหมายถึงจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ถ้าคนที่คุณห่วงใยรับประทานอาหารไม่เพียงพอ หรือรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ จะทำให้พวกเขามีโอกาสเป็นโรคอื่นๆ ง่ายขึ้น ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะมีอาการสับสนได้ง่ายหากมีอาการป่วย
ปัญหาที่มีความสัมพันธ์กับอาหารที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ได้แก่:
- ไม่รู้จักอาหาร
- ลืมอาหารที่เคยชอบ
- ไม่ยอมรับประทานอาหารหรือคายอาหารออกจากปาก
- ต่อต้านการให้รับประทานอาหาร
- ขอรับประทานอาหารแปลกๆ
พฤติกรรมดังกล่าวนี้มักเกิดขึ้นจากอาการสับสนหรือมีการระคายเคืองในปากที่มาจากปัญหาทางทันตกรรม มากกว่าเกิดจากความต้องการของผู้ป่วยเอง ถ้าคุณมีความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์
คุณสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างไร
แนะนำให้คุณมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของผู้ป่วย ตัวอย่างเช่น หากผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง คุณสามารถนำส้อมจิ้มที่อาหารและช่วยแนะนำการนำเข้าสู่ปากของผู้ป่วยได้ คุณยังสามารถมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหารของผู้ป่วยได้ หากผู้ป่วยยังสามารถเตรียมอาหารเองได้
พยายามผ่อนคลาย ไม่เครียดเกินไป ถ้าคุณรู้สึกเครียดระหว่างช่วงเวลารับประทานอาหาร จะส่งผลให้ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่คุณห่วงใยมีอาการเครียดตามไปด้วย โปรดแน่ใจว่าคุณมีเวลามากพอสำหรับมื้ออาหารนั้น เพื่อให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้
พยายามปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้ป่วยที่เปลี่ยนไป มีความเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะมีการเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการรับประทานอาหารเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นคุณควรตระหนักถึงเรื่องนี้และพยายามที่จะยืดหยุ่น เพื่อที่ทำให้มื้ออาหารนั้นไม่เครียดจนเกินไป ทั้งกับคุณและคนที่คุณดูแล
ถ้าคุณคิดว่าคนที่คุณห่วงใยอาจมีปัญหาสุขภาพหรือปัญหาทางทันตกรรม คุณควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อรับการรักษา
ถ้าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมีการสูบบุหรี่ แนะนำให้เปลี่ยนจากการใช้ไม้ขีดไฟมาเป็นไฟแช็กแทน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากไฟไหม้
ถ้าผู้ป่วยที่คุณดูแลดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แนะนำให้ตรวจสอบก่อนว่าสามารถดื่มพร้อมกับยาที่ใช้อยู่ได้หรือไม่ หากมีข้อสงสัยโปรดสอบถามจากแพทย์
การรับมือกับอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม
อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เป็นเรื่องยากที่จะรับมือและอาจทำให้ผู้ป่วยที่คุณดูแลรู้สึกลำบากมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะพบว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (urinary tract infections), อาการท้องผูกซึ่งทำให้เกิดความดันขึ้นกระเพาะปัสสาวะ หรืออาจเกิดจากยาที่ใช้อยู่
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมอาจลืมที่จะไปเข้าห้องน้ำ หรือลืมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน และอาจสูญเสียความสามารถที่จะบอกคนอื่นได้ทันว่าจะต้องเข้าห้องน้ำตอนไหน
คุณสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมได้อย่างไร
สิ่งสำคัญคือคุณต้องทำความเข้าใจ อย่าแสดงออกว่ามันเป็นเรื่องตลก และจำไว้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม คุณอาจต้องลองทำสิ่งต่อไปนี้:
- ติดเครื่องหมายสัญลักษณ์บนประตูห้องน้ำ เช่น ติดรูปภาพห้องน้ำไว้ที่ประตูห้องน้ำ
- เปิดประตูห้องน้ำไว้เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่คุณห่วงใยสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยง่าย
- คุณต้องแน่ใจว่าผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะสามารถถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ บางคนที่มีภาวะสมองเสื่อมจะมีปัญหากับกระดุมและซิป
- มองหาสัญญาณของการอยากเข้าห้องน้ำของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เช่น ลุกขึ้นยืนและนั่งลงบ่อยๆ
- ทำการดัดแปลงห้องน้ำหากจำเป็น
หากคุณยังประสบปัญหาในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ แนะนำให้ขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะ ซึ่งแพทย์สามารถแนะนำให้คุณใช้ที่นอนกันน้ำหรือแผ่นรองรับปัสสาวะสำหรับผู้ป่วย
การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมด้านสุขอนามัยส่วนบุคคล
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมอาจรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคลและอาจต้องการความช่วยเหลือในการทำความสะอาด ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยอาจกลัวที่จะล้มเมื่อออกจากห้องน้ำ หรือผู้ป่วยอาจมีอาการสับสนมึนงงขณะอาบน้ำ
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่คุณกำลังดูแลอาจไม่ต้องการถูกทิ้งไว้ตามลำพังหรืออาจทนต่อความสกปรกที่เกิดขึ้นได้ เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ดังนั้นคุณควรทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
ช่วยเหลือให้ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมนอนหลับสนิท พักผ่อนเต็มที่
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมักจะนอนไม่หลับ พวกเขาอาจตื่นขึ้นมากลางดึก หรือมีอาการกระสับกระส่าย อาการเหล่านี้จะแย่ลงเมื่อโรคมีการดำเนินไป ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมอาจเป็นโรคที่มีอาการปวด เช่น ปวดข้อ ซึ่งอาจนำมาสู่ปัญหาการนอนไม่หลับได้
ยาบางชนิดอาจทำให้มีอาการง่วงนอนระหว่างวัน และรบกวนการนอนหลับในตอนกลางคืน การใช้ยานอนหลับสามารถใช้ได้อย่างระมัดระวังในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม
อย่างไรก็ตาม “การวัดคุณภาพการนอน” เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ตัวอย่างเช่น ไม่พบการงีบหลับตอนกลางวัน เข้านอนเวลาเดิมสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนเข้านอน
การดูแลสุขภาพตัวเอง
หากคุณหรือสมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม คุณอาจเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเกิดขึ้น โปรดจำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว และมีความช่วยเหลือและการสนับสนุนมากมายที่คุณสามารถขอรับความช่วยเหลือได้ แนะนำให้พูดกับใครซักคนเกี่ยวกับความกังวลใจของคุณ ซึ่งอาจเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน หรือสมาชิกของกลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม หรือแม้แต่แพทย์ที่ดูแลคุณ
สิ่งสำคัญสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมก็คือ สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจของผู้ดูแล ซึ่งผู้ดูแลควรจะต้องมีช่วงเวลาที่หยุดพักจากการดูแลบ้าง ผู้ดูแลก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีหากต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเช่นกัน
การดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมอาจทำให้รู้สึกสิ้นหวังและรู้สึกเครียดได้ตลอดเวลา แต่อย่าลืมว่ามีองค์กรมากมายที่สามารถให้การช่วยเหลือกรณีดังกล่าวได้