โรคสมองเสื่อม/ภาวะสมองเสื่อม เป็นภาวะที่พบได้บ่อย ความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมของคุณจะเพิ่มขึ้นตามอายุ ยิ่งอายุมากยิ่งมีความเสี่ยงมาก โดยมักพบภาวะนี้ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ขึ้นไป หากคุณเป็นคนขี้หลงขี้ลืมมากขึ้นและมีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป คุณควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์เกี่ยวกับอาการของโรคสมองเสื่อม
ภาพรวม
ถ้าคุณเป็นคนขี้หลงขี้ลืมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอายุเกิน 65 ปี คุณควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการของภาวะสมองเสื่อมในระยะเริ่มต้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น คุณอาจพบปัญหาเกี่ยวกับการสูญเสียความจำ โดยปกติแล้วความจำจะถูกรบกวนจากอายุ, ความเครียด, ความอ่อนเพลีย, หรือเกิดจากความเจ็บป่วย รวมถึงยาที่ใช้อยู่ โดยอาการที่เกิดขึ้นอาจทำให้รู้สึกน่ารำคาญหากเกิดเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ถ้ามีอาการมากจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน หรือ ทำให้คุณหรือคนที่คุณรักมีความกังวล กรณีนี้ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์
โรคสมองเสื่อมคืออะไร?
โรคสมองเสื่อมคือภาวะที่พบได้บ่อย ซึ่งความเสี่ยงของการเป็นโรคสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น และมักพบภาวะนี้ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
โรคสมองเสื่อมถือเป็นกลุ่มอาการ (กลุ่มของอาการที่มีความเกี่ยวข้องกัน) ที่สัมพันธ์กับการทำงานของสมองที่เสื่อมลง ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาดังนี้:
- การสูญเสียความทรงจำ
- ปัญหาด้านความเร็วในการคิด
- ปัญหาด้านอารมณ์
- ปัญหาด้านภาษา
- ปัญหาด้านการทำความเข้าใจ
- ปัญหาด้านการตัดสินใจ
คนที่เป็นโรคสมองเสื่อมอาจกลายเป็นคนเฉื่อยชาหรือไม่ใส่ใจในกิจกรรมประจำวันปกติ และมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง อาจพบสถานการณ์การเข้าสังคมที่ท้าทาย สูญเสียความสนใจในการเข้าสังคม และอาจมีบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง
คนที่มีภาวะสมองเสื่อมอาจสูญเสียความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจไป และผู้ป่วยอาจมองเห็นหรือได้ยินในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ทำ (ประสาทหลอน) หรืออาจมีอาการความคิดหลงผิด
เนื่องจากโรคสมองเสื่อมจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของสมอง อาจพบปัญหาว่าผู้ป่วยมีปัญหาด้านการวางแผนและการจัดการ การปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่โดยไม่มีผู้ดูแลอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ ในผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมมักต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือญาติๆ รวมถึงต้องการให้ช่วยในกระบวนการตัดสินใจอะไรบ้างอย่างด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แพทย์จะพูดคุยกับคุณถึงสาเหตุของการสูญเสียความจำที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงโรคสมองเสื่อมด้วย สำหรับอาการอื่นๆ ที่สามารถพบได้ ได้แก่:
- มีปัญหาในการทำงานและการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องอาศัยความตั้งใจและการวางแผน
- มีภาวะซึมเศร้า
- มีการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพและอารมณ์
- มีช่วงเวลาของความสับสน
- มีความบกพร่องด้านภาษา
- มีปัญหาในการทำงานและการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องอาศัยความตั้งใจและการวางแผน
- มีภาวะซึมเศร้า
- มีการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพและอารมณ์
- มีช่วงเวลาของความสับสน
- มีความบกพร่องด้านภาษา
โรคสมองเสื่อมส่วนใหญ่จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกๆ ของการเป็นโรค จะสามารถชะลอการดำเนินไปของโรคและช่วยรักษาหน้าที่การทำงานของสมองไว้ได้
โรคสมองเสื่อมพบบ่อยแค่ไหน?
จากข้อมูลของสหราชอาณาจักร พบว่ามีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมราว 800,000 คน พบว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปี จะเป็นโรคสมองเสื่อม และ 2 ใน 3 ของผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมเป็นเพศหญิง
ปัจจุบันตัวเลขจำนวนผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้คนมีชีวิตยืนยาวมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าปี 2564 จะมีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1 ล้านคน
เพราะเหตุใดจึงจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัย
การวินิจฉัยโรคพบตั้งแต่ระยะแรกๆ ของโรค สามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมได้รับการรักษาและการดูแลสนับสนุนอย่างถูกต้องและช่วยเหลือผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเพื่อเตรียมพร้อมและวางแผนสำหรับอนาคต ด้วยการรักษาและการดูแลสนับสนุนเป็นอย่างดี พบว่าผู้ป่วยหลายคนสามารถมีชีวิตที่มีชีวิตชีวาได้
มีความกังวลว่าคนที่คุณรู้จักจะเป็นโรคสมองเสื่อม?
ถ้าคุณพบว่าคนที่คุณรู้จักมีอาการขี้หลงขี้ลืมมากกว่าปกติ คุณควรแนะนำให้เขาไปพบแพทย์ เพื่อพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับอาการเตือนในระยะแรกของโรคสมองเสื่อม
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคสมองเสื่อมเป็นกลุ่มของอาการที่มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งบ่งชี้ว่าสมองมีความผิดปกติเกิดขึ้น หนึ่งในอาการสำคัญที่พบบ่อยของโรคสมองเสื่อมคือ การสูญเสียความจำ
ความจริงแล้วมีเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้คนสูญเสียความจำ หลายเหตุผล แต่อย่างไรก็ตามการตรวจพบว่าเป็นโรคสมองเสื่อมตั้งแต่ระยะแรกๆ ในบางรายอาจชะลอการดำเนินไปของโรคได้ และผู้ป่วยอาจสามารถรักษาหน้าที่การทำงานของสมองไว้ได้
การตระหนักถึงอาการเตือนของโรคสมองเสื่อม
การสูญเสียความจำคืออาการที่เป็นกุญแจสำคัญของโรคนี้ แต่ก็ยังมีอาการอื่นๆ ด้วย ได้แก่:
หากคุณพบว่าใครก็ตามมีอาการดังกล่าวข้างตน ควรแนะนำให้เขาไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โรคสมองเสื่อมจะได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ซึ่งจะวินิจฉัยแยกโรคอื่นๆ ที่สามารถเป็นสาเหตุของการเกิดอาการออกไปก่อน จึงจะบอกได้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม โดยแพทย์จะดำเนินการทดสอบและประเมินเพื่อดูว่ามีคำอธิบายอื่นๆ ที่เป็นไปได้สำหรับอาการของผู้ป่วยหรือไม่ และแพทย์อาจต้องการพูดคุยกับคุณเพิ่มเติมว่าอาการที่เกิดขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป
การพูดคุยกับคนที่คุณคิดว่าเขามีอาการแสดงของโรคสมองเสื่อม
การเริ่มต้นจุดประเด็นเกี่ยวกับปัญหาการสูญเสียความจำและโอกาสของการเป็นโรคสมองเสื่อมนั้นถือเป็นเรื่องที่ยาก ใครก็ตามที่มีอาการดังกล่าวนี้อาจรู้สึกสับสน กังวล หรือปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เป็นโรคก็ได้
ในการพูดคุยกับใครก็ตามที่คุณกังวลว่าเขามีปัญหาเกี่ยวกับความจำ มีคำแนะนำดังนี้:
- พูดคุยกันในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย และไม่คุกคาม
- อธิบายว่าทำไมการพูดคุยจึงเป็นสิ่งสำคัญและบอกว่าคุณกังวลเพราะคุณห่วงใย
- ใช้ตัวอย่างเพื่อให้ชัดเจน: สิ่งสำคัญคืออย่างทำให้เขารู้สึกถูก "ตำหนิ" – ตัวอย่างเช่น แทนที่จะบอกว่าเขาไม่สามารถชงชาได้ ให้เปลี่ยนเป็นแนะนำว่าการชงชาดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขา
- พูดคุยกันแบบเปิดอก ตรงไปตรงมา ตัวอย่างเช่น ถามว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความทรงจำของพวกเขา
- วางแผนสิ่งที่ต้องปฏิบัติในเชิงบวกร่วมกัน
ในการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมอาจทำให้รู้สึกตกใจได้ แต่เมื่อเวลาผ่านจะพบว่าเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยเอง เนื่องจากการวินิจฉัยถือเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ได้ข้อมูลของผู้ป่วย ได้ช่วยเหลือ และให้การสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อจัดการเกี่ยวกับอาการที่ผู้ป่วยเป็น
การวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมจะช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการ รวมถึงครอบครัวและเพื่อนของผู้ป่วย ช่วยควบคุมอาการ, วางแผนและการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของผู้ป่วย