ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม อาจลดการขับน้ำออกไปเป็นปัสสาวะ และเพิ่มการดูดกลับของน้ำจากปัสสาวะที่ท่อไต ทำให้ร่างกายมีปริมาณน้ำสูงขึ้นจนเกิดภาวะบวมน้ำ
อย่างไรก็ตาม ฮอร์โมนโปรเจสตินรุ่นใหม่ อย่าง Drospirenone มีฤทธิ์ Antimineralocorticoid จึงลดการคั่งบวมน้ำได้ดี และนอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ Antiandrogen จึงช่วยลดปัญหาสิว, ผิวมัน และขนดกได้อีกด้วย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ยาคุมที่ใช้ Drospirenone ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน (ตุลาคม 2561) จะมีอยู่ 5 ยี่ห้อ ดังนี้ค่ะ
ยาสมิน (Yasmin) | เมโลเดีย (Melodia) | จัสติมา (Justima) | ยาส (Yaz) | ซินโฟเนีย (Synfonia) |
ใน 1 แผง มี 21 เม็ด เป็น “เม็ดยาฮอร์โมน” ทั้งหมด ไม่มี “เม็ดแป้ง” | ใน 1 แผง มี 28 เม็ด เป็น “เม็ดยาฮอร์โมน” 24 เม็ด และ “เม็ดแป้ง” 4 เม็ด | |||
Ethinylestradiol 0.030 มิลลิกรัม Drospirenone 3 มิลลิกรัม | Ethinylestradiol 0.020 มิลลิกรัม Drospirenone 3 มิลลิกรัม | |||
320 – 360 บาท | 280 – 350 บาท | 250 – 320 บาท | 400 – 450 บาท | 350 – 390 บาท |
ยาคุมต้านการบวมน้ำ ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
จากตาราง จะเห็นได้ว่ายาคุมต้านการบวมน้ำที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มี 2 รูปแบบนะคะ นั่นคือ
- ยาคุมแบบ 21 เม็ด ได้แก่ ยาสมิน, เมโลเดีย และจัสติมา ทั้ง 3 ยี่ห้อ เป็นยาสูตรเดียวกันค่ะ นั่นคือ มีตัวยาฮอร์โมนชนิดเดียวกัน และมีปริมาณยาเท่ากัน ดังนั้น จึงสามารถใช้แทนกันได้
- ยาคุมแบบ 28 เม็ด ได้แก่ ยาส และซินโฟเนีย ทั้ง 2 ยี่ห้อ เป็นยาสูตรเดียวกัน ใช้แทนกันได้เช่นกันนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือยี่ห้อใดก็ตาม หากมีการรับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ก็มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่ต่างกัน นั่นคือ ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก เพียง 0.3% เท่านั้น
แต่สิ่งที่แตกต่างกัน ก็คือ...
- รูปแบบและวิธีการใช้
สำหรับยาสมิน, เมโลเดีย และจัสติมา ที่เป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด เมื่อรับประทานหมดแล้ว จะต้องเว้นว่าง 7 วัน ก่อนต่อยาคุมแผงใหม่ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นว่าง โดยมักจะมาหลังใช้ยาหมดไปแล้ว 2 – 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
ส่วนยาสและซินโฟเนีย ที่เป็นยาคุมแบบ 28 เม็ด เมื่อรับประทานหมดแผงแล้ว จะต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมา ไม่ต้องเว้นว่างเพิ่มอีก ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทาน “เม็ดแป้ง” โดยมักจะมาหลังใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” หมดไปแล้ว 2 – 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจหมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
กดและเนื่องจากยาสและซินโฟเนีย มี “เม็ดยาฮอร์โมน” 24 เม็ด ซึ่งต่างจากยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมส่วนใหญ่ที่มี 21 เม็ด ดังนั้น ผู้ใช้ยาสและซินโฟเนียจึงมีประจำเดือนมาช้ากว่ายาคุมหลาย ๆ ยี่ห้อนะคะ แต่ไม่มีปัญหาค่ะ ไม่ต้องกังว
- ผลข้างเคียง
ยาสและซินโฟเนียจะมีปริมาณ Ethinylestradiol 0.020 มิลลิกรัม/เม็ด ในขณะที่ยาสมิน, เมโลเดีย และจัสติมา จะมี Ethinylestradiol 0.030 มิลลิกรัม/เม็ด การที่ยาสและซินโฟเนียมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยกว่า ทำให้ผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ และฝ้า พบได้น้อยกว่านะคะ
- ความยืดหยุ่นในการใช้
การที่ยาสและซินโฟเนียมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนในเม็ดยาน้อยกว่ายาสมิน, เมโลเดีย และจัสติมา ทำให้ความยืดหยุ่นในการใช้น้อยกว่าเช่นกันนะคะ
นั่นคือ หากพิจารณาตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO 2016) ยาคุมที่มีปริมาณ Ethinylestradiol ไม่เกิน 0.020 มิลลิกรัม/เม็ด อย่างยาสและซินโฟเนีย จะไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหากลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป
ในขณะที่ยาคุมที่มีปริมาณ Ethinylestradiol ตั้งแต่ 0.030 มิลลิกรัม/เม็ด ขึ้นไป อย่างยาสมิน, เมโลเดีย และจัสติมา แม้จะลืมรับประทานติดต่อกัน 2 วัน ก็ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ แต่ถ้าลืมรับประทานติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปก็จะไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้วนะคะ
- ราคา
เมื่อมองในภาพรวม ยาส/ซินโฟเนีย จะมีราคาสูงกว่า ยาสมิน/เมโลเดีย/จัสติมา ค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง