กินเหล้าแต่ไหนไม่เสี่ยงเป็นโรคและเกิดอุบัติเหตุ

เคยได้ยินคำว่า "1 ดื่มมาตรฐานหรือไม่?"
เผยแพร่ครั้งแรก 13 ก.ย. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
กินเหล้าแต่ไหนไม่เสี่ยงเป็นโรคและเกิดอุบัติเหตุ

ทุกคนทราบดีว่าแอลกอฮอล์เป็นสิ่งไม่ดีต่อสุขภาพ  เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆมากมาย อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ ความดันโลหิต ตับ  ไต  สมองและระบบประสาท  นอกจากนั้นแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และบ่อยครั้งที่แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของการก่ออาชกรรมในสังคม  แต่กระนั้นก็ยังคงมีการใช้แอลกอฮอล์กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่  มันจะดีไม่น้อยถ้าหากกลุ่มผู้ใช้แอลกอฮอล์เหล่านี้รู้จักวิธีการดื่มที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและภาวะอันตรายที่อาจเกิดแก่ร่างกายได้   สิ่งสำคัญที่นักดื่มควรรู้มีดังนี้

หลักการดื่มมาตรฐานคืออะไร?

1 ดื่มมาตรฐาน (Standard drink)  คือ  การดื่มที่ไม่อาจทำให้เกิดโทษและภาวะอันตรายต่อร่างกาย (1 ดื่มมาตรฐาน คือ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ปริมาณ 10 กรัม และร่างกายสามารถขับออกได้ภายใน 1 ชั่วโมง  ตัวอย่างปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เท่ากับ 1 ดื่มมาตรฐาน ได้แก่)

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจตับวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 65%

ตรวจตับ วันนี้ เปรียบเทียบราคา / ประหยัดกว่า / ผ่อน 0% ได้ / แอดมินพร้อมให้บริการ กดที่นี่

  • เหล้าแดง / วิสกี้ 35 % ปริมาณ  2  ฝาใหญ่ 
  • เหล้าขาว 40 %   ปริมาณ 2/3 เป๊ก  
  • เบียร์ 3.5 %  ปริมาณ 1 กระป๋อง หรือ 1ขวดเล็ก
  • เบียร์ 5 %   เช่น เบียร์สิงห์  เฮเนเกน  ลีโอ  เชียร์  ไทเกอร์  ช้างดราฟ (ปริมาณ 3/4 กระป๋อง หรือ 3/4  ขวดเล็ก )
  • เบียร์ 6.4 %  ปริมาณ 1/2 กระป๋อง หรือ 1/3 ขวดใหญ่
  • ไวน์ 12 %  ปริมาณ 1 แก้ว (100cc)
  • ไวน์คูเลอร์ 4 % ปริมาณ 1 ขวด (330cc)
  • เหล้าปั่น  ปริมาณ 2 ช็อท 

หากสามารถควบคุมปริมาณการดื่มในแต่ละครั้งให้อยู่ในปริมาณที่ไม่เกิน 1 ดื่มมาตรฐาน จะลดโอกาสการเกิดโรคและภาวะอันตรายต่อร่างกายน้อยลง  เมื่อดื่มในปริมาณที่จำกัดร่างกายสามารถขับออกได้ภายใน 1 ชั่วโมง  ระดับสติการรู้ตัวก็จะเป็นปกติ สามารถขับขี่ยานพาหนะได้  แต่ทั้งนี้ความไวหรือปฏิกริยาของร่างกายที่มีต่อแอลกอฮอล์ในแต่ละคนแตกต่างกัน  หากหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่ควรดื่มเลยจะปลอดภัยที่สุด

พฤติกรรมการดื่มสุราที่ควรได้รับการบำบัดแบ่งเป็น 4 ลักษณะ ดังนี้

  1. การดื่มแบบมีความเสี่ยงต่ำ คือ ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2 ดื่มมาตรฐานต่อวัน  และดื่ม 5 วัน/สัปดาห์  อาจทำให้เกิดความเสี่ยงหรือภาวะอันตรายต่อร่างกายได้ในบางสถานการณ์ 
  2. การดื่มแบบมีความเสี่ยง (Hazardous drinking) หมายถึง ลักษณะการดื่มสุราที่เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อตัวผู้ดื่มเองหรือผู้อื่น โดยขณะนั้นผู้ดื่มจะยังไม่เกิดโรคหรือความเจ็บป่วยใดๆ  ในเพศชาย ดื่มมากกว่า 5 ดื่มมาตรฐาน และในเพศหญิงดื่มมากกว่า4 ดื่มมาตรฐาน ถือว่ามีความเสี่ยง
  3. การดื่มแบบอันตราย (Harmful use) หมายถึงการ ดื่มสุราจนเกิดผลเสียต่อสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต รวมถึงผลเสียทางสังคมจากการดื่ม  คือการดื่มซ้ำๆ ในช่วงเวลา 1 ปี จนเกิดปัญหาในเรื่องความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน สัมพันธภาพต่อคนรอบข้าง กระทำผิดกฎหมาย เป็นต้น
  4. การดื่มแบบติด (Alcohol dependence) เป็นกลุ่มที่มีการดื่มซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเกิดปัญหาพฤติกรรม สมองความจำและร่างกาย โดยไม่สามารถควบคุมการดื่มได้ แม้ทราบว่าเกิดผลเสียจากการดื่ม รวมถึงดื่มจนละเลยกิจกรรมอื่นๆ หรือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

คำนวณปริมาณแคลอรี่ ในแอลกอฮอล์ที่คุณดื่มเข้าไป ด้วยเครื่องอัตโนมัติ ใช้งานง่ายๆ คลิก>>


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
How to Drink Responsibly and Enjoy Alcohol. Verywell Mind. (https://www.verywellmind.com/how-to-drink-responsibly-21976)
Alcohol use and safe drinking. MedlinePlus. (https://medlineplus.gov/ency/article/001944.htm)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป