กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีผู้พิการทางสายตามากถึง 192,604 คน (กันยายน 2562) ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของจำนวนผู้พิการทั้งหมด ทำให้สังคมตื่นตัวและพยายามทำความเข้าใจคนตาบอดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดข้อมูลหลายอย่างที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคนตาบอด ประเด็นหลักๆ ที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับคนตาบอดมีดังต่อไปนี้
1. คนตาบอดมองไม่เห็นอะไรเลย
หลายคนเข้าใจว่า คนตาบอดหมายถึงคนที่ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยนอกจากสีดำ เหมือนกับเวลาคนปกติหลับตา ซึ่งไม่จริงเสมอไป เนื่องจากคนตาบอดสามารถแบ่งประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท ดังนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- ตาบอดสนิท คนตาบอดประเภทนี้จะไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ เห็นเป็นสีดำเหมือนหลับตาอย่างที่หลายคนเข้าใจ อาจเรียกได้ว่าไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสายตาได้
- ตาบอดไม่สนิท คนตาบอดประเภทนี้สามารถมองเห็นแสง จำแนกสี หรือเห็นภาพเลือนลางได้บ้าง แต่ไม่ชัดเจนเหมือนกับคนปกติทั่วไป
2. บ้านคนตาบอดไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ
คนที่ตาบอดสนิทอาจรับรู้ได้ยากว่าสถานที่ที่ตนเองอยู่นั้นปิดหรือเปิดไฟอยู่ แต่ในคนตาบอดแบบไม่สนิทนั้นสามารถรับรู้ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ในสถานที่มืดตลอดเวลา หรือไม่มีแสงสว่างเพียงพอในเวลากลางวัน เพราะถึงพวกเขาจะมองไม่ค่อยเห็น เหมือนจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากแสงไฟ แต่ที่จริงหากปิดไฟมืดตลอดเวลา คนตาบอดอาจประสบปัญหานอนไม่หลับได้
ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากร่างกายมนุษย์มีฮอร์โมนที่ชื่อเมลาโทนิน (Melatonin) จะหลั่งออกมาขณะที่อยู่ในที่มืดหรือแสงสว่างน้อย (ปกติก็คือช่วงที่พระอาทิตย์ตกไปแล้ว หรือเวลากลางคืน) ช่วยให้รู้สึกง่วงนอนและหลับได้ง่าย หากปล่อยคนตาบอดเอาไว้ในสถานที่มืดตลอดเวลา การหลั่งฮอร์โมนนี้ก็จะผิดปกติ อาจทำให้เกิดภาวะรอบการตื่น-หลับผิดปกติ (Non-24-hour sleep-wake disorder) คือหลับไม่เป็นเวลา หลับยาก
3. ตาบอดสี คือไม่เห็นสีเลย
คนจำนวนมากเข้าใจว่า ตาบอดสีจะเห็นภาพทุกอย่างเป็นขาว ดำ เทา ไปทั้งหมด ซึ่งไม่จริงเสมอไป ที่ถูกต้องคือ ในคนปกติจะมีเซลล์รับสีหลักๆ 3 สี คือ แดง เขียว น้ำเงิน จากนั้นแปลผลส่งไปยังสมองจนเห็นเป็นสีต่างๆ ส่วนคนที่ตาบอดสีหมายถึงผู้มีอาการผิดปกติที่เซลล์รับแสงสี (Cone photo-receptor) ซึ่งอาจมีอาการผิดปกติที่เซลล์รับแสงสีบางสีเท่านั้น คนตาบอดสีจึงสามารถมองเห็นสีอื่นๆ ได้ใกล้เคียงกับปกติ เพียงแต่จะแยกระหว่างสีที่มีเซลล์รับแสงสีผิดปกติได้ยาก
อาการตาบอดสีเกิดขึ้นได้น้อย ในรายที่ตาบอดสีมาแต่กำเนิดมักมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อและแม่ ส่วนบางรายอาจเกิดจากการติดเชื้อที่ดวงตา จนทำให้เห็นสีผิดเพี้ยนไปจากเดิม
4. คนตาบอดจะหูดีกว่าคนทั่วไป
เรามักเห็นตามสื่อภาพยนตร์และละครว่า คนตาบอดจะมีประสาทสัมผัสด้านหูดีกว่าคนปกติ ซึ่งอาจไม่จริงทั้งหมด
ความจริงแล้วเนื่องจากคนตาบอดไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ จึงต้องใช้หูในการฟังเสียงมากเป็นพิเศษเพื่อรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว ในขณะที่คนทั่วไปจะใช้สมองด้านหลังศีรษะประมวลภาพจากการมองเห็น แต่คนตาบอดไม่สามารถเห็นภาพได้ จึงใช้สมองส่วนนี้ในการจดจำเสียงต่างๆ แทนการประมวลภาพ เมื่อทำเช่นนี้บ่อยๆ ก็จะทำให้คนตาบอดมีการจดจำเสียงได้ดีกว่าคนทั่วไป เช่น คนตาบอดสามารถจำเสียงบนแป้นโทรศัพท์ได้ว่าเลข 1,4,7 เป็นเสียงเดียวกัน แต่ไม่ได้มีหูดีกว่าคนทั่วไป
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากนี้ คนตาบอดบางคนยังสามารถใช้วิธีเดาะลิ้นเพื่อส่งเสียงกระทบกับวัตถุเพื่อกะระยะได้อีกด้วย (Echolocation) ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ค้างคาวใช้ล่าเหยื่อในเวลากลางคืน
5. คนตาบอดไม่มีภาพฝัน
คนปกติเมื่อเกิดความฝันขณะนอนหลับ จะเห็นเป็นภาพใกล้เคียงกับสิ่งที่เคยพบเจอมา เช่น สถานที่ ใบหน้าของคน รูปทรงต่างๆ หรือแม้แต่ฉากในภาพยนตร์ จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า คนตาบอดไม่สามารถฝันได้ เนื่องจากไม่เคยเห็นภาพ จึงไม่มีข้อมูลให้เก็บไปฝัน
ความจริงแล้ว คนตาบอดสามารถฝันได้เช่นเดียวกับคนทั่วไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันอาจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่สูญเสียการมองเห็น แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ตาบอดสนิทมาตั้งแต่กำเนิด คนตาบอดกลุ่มนี้จะสามารถฝันเห็นเป็นเหตุการณ์สั้นๆ ได้เช่นเดียวกับคนทั่วไป แต่ไม่ได้เห็นเป็นภาพ จะมีเพียงเสียง สัมผัส กลิ่น และรสเท่านั้น ที่สามารถนำไปฝันได้
- ตาบอดภายหลังจากเคยเห็นภาพต่างๆ มาแล้ว คนตาบอดประเภทนี้จะสามารถฝันเป็นภาพได้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เคยมีสายตาปกติ ว่ามีประสบการณ์กับภาพต่างๆ มากแค่ไหน เช่น ตาบอดช่วงอายุ 5-7 ปี อาจฝันเป็นภาพได้ แต่เลือนราง ไม่ชัดเจน
หากตาบอดหลังจากอายุ 7 ปีเป็นต้นไป สามารถฝันเป็นภาพได้เหมือนคนตาปกติ
ตาบอดรักษาได้ไหม?
แม้เทคโนโลยีในปัจจุบันจะก้าวหน้ามากขึ้น แต่หากสูญเสียการมองเห็นไปแล้ว ก็ยังคงไม่สามารถรักษาให้กลับมามองเห็นได้ เช่น ถ้าตาบอดเพราะลูกตาฝ่อตั้งแต่กำเนิด อุบัติเหตุร้ายแรง จะไม่สามารถรักษาให้หาย
กรณีที่สูญเสียการมองเห็นเพียงบางส่วน การรักษาคือหยุดให้สูญเสียเพียงเท่านั้น ไม่ลุกลามเพิ่ม เช่น เป็นจอประสาทตาเสื่อม ลอก มีความผิดปกติของระยะสายตา ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้