สารเคมีในผลิตภัณฑ์บางชนิด สารพิษในสิ่งแวดล้อม หรือการมีฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ล้วนแต่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาหนังศีรษะแพ้ง่าย แม้ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่มันก็สามารถทำให้คุณรู้สึกคัน ทำให้เกิดรอยแดง และเกิดการอักเสบ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ไปอีกหลายวัน อย่างไรก็ดี มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรเริ่มจากการระบุปัญหา ตัวอย่างเช่น แชมพู หรือผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่เราใช้เป็นประจำอาจเป็นตัวการ หากเป็นเช่นนี้ คุณจำเป็นต้องหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีความอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ
นอกจากนี้เราสามารถแก้ปัญหาหนังศีรษะแพ้ง่ายโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติบางชนิด ซึ่งมีสารอาหารที่ช่วยลดความรุนแรงของอาการได้ และวันนี้เราได้รวบรวม 5 สุดยอดมาสก์ที่เหมาะกับคนที่กำลังเผชิญปัญหาหนังศีรษะแพ้ง่ายมาให้ดูเป็นแนวทางค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
1.ชาดอกดาวเรือง
ชาดอกดาวเรืองถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดการระคายเคืองที่หนังศีรษะที่เกิดจากปฏิกิริยาแพ้หรือการไวต่อสิ่งกระตุ้น ทั้งนี้ชาดอกดาวเรืองมีสารต้านการอักเสบและสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่ล้วนแต่ช่วยหยุดการเกิดความรู้สึกแสบไหม้หรือคัน
ส่วนผสม
- ดอกดาวเรือง 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
- น้ำ 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร)
วิธีเตรียม
- ใส่ดอกดาวเรืองลงในน้ำเดือด และปล่อยทิ้งไว้ 20 นาที
- หลังจากที่น้ำเย็นลงแล้ว ให้คุณกรอกใส่ขวดสเปรย์
- แบ่งเส้นผมออกเป็นหลายๆ ส่วน และพ่นน้ำที่เตรียมไว้ให้ทั่วศีรษะ
- ปล่อยให้น้ำซึมโดยไม่ต้องล้างออก และให้ทำเช่นนี้ซ้ำ 2 ครั้งต่อวัน
2.น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล
เราสามารถนำน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไปใช้ได้สารพัดประโยชน์ และหนึ่งในนั้นก็คือ การนำมาใช้กับเส้นผมค่ะ นอกจากมันจะช่วยกำจัดรังแคได้แล้ว กรดภายในน้ำดังกล่าวยังช่วยควบคุมค่า pH ที่หนังศีรษะ และยับยั้งอาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีความไวต่อสิ่งกระตุ้น
ส่วนผสม
- น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ½ ถ้วย (125 มิลลิลิตร)
- น้ำ ½ ถ้วย (125 มิลลิลิตร)
วิธีเตรียม
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- นำน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไปเจือจางกับน้ำ
- พ่นน้ำที่เตรียมไว้บนรากผม และปล่อยให้มันซึมเข้าสู่หนังศีรษะโดยไม่ต้องล้างออก
- ใช้วันละ 2 ครั้ง ถ้าจำเป็น
3.ชาเขียว
ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยต้านการอักเสบและช่วยสมานผิว ซึ่งสามารถช่วยจัดการกับปัญหาผิวที่หนังศีรษะได้หลายชนิด การใช้ชาเขียวทาที่หนังศีรษะโดยตรงสามารถช่วยควบคุมอาการคันและทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
ส่วนผสม
- ชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
- น้ำ 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร)
วิธีเตรียม
- เติมชาเขียวลงในน้ำที่เดือด ปิดฝา และปล่อยทิ้งไว้ 20 นาที
กรองใบชาเขียว และใส่น้ำในขวดสเปรย์
- พ่นชาเขียวลงบนหนังศีรษะก่อนเข้านอน
- ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนโดยไม่ต้องล้างออกและให้ใช้ทุกวัน
4.ว่านหางจระเข้และน้ำผึ้ง
เมื่อคุณนำว่านหางจระเข้และน้ำผึ้งมาใช้ร่วมกัน คุณก็จะได้ทรีทเมนต์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูหนังศีรษะที่สามารถช่วยลดรอยแดงและการอักเสบที่เกิดจากการไวต่อผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีบางชนิด อย่างไรก็ดี การใช้วัตถุดิบทั้งสองชนิดหมักที่หนังศีรษะสามารถช่วยป้องกันการเกิดสะเก็ด และช่วยให้ต่อมรากผมสะอาดพร้อมกับฆ่าเชื้อไปในตัว
ส่วนผสม
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- เจลว่านหางจระเข้ 5 ช้อนโต๊ะ (75 กรัม)
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ (50 กรัม)
- น้ำกุหลาบ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
วิธีเตรียม
- นำวัตถุดิบทั้งหมดไปปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นให้นำไปถูให้ทั่วหนังศีรษะ และปล่อยทิ้งไว้ 40 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำเย็น และใช้ทุกวันเพื่อบรรเทาอาการ
5.คาโมมายล์
ชาคาโมมายล์สามารถช่วยลดการระคายเคืองในต่อมรากผม ลดปัญหาหนังศีรษะแดง และความรู้สึกคัน ในเวลาเดียวกัน มันก็ช่วยควบคุมการผลิตซีบัม และป้องกันไม่ให้เกิดรังแค
ส่วนผสม
- ดอกคาโมมายล์ 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
- น้ำ 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร)
วิธีเตรียม
- เติมดอกคาโมมายล์ลงในน้ำเดือดและปิดฝา
- ปล่อยทิ้งไว้ 15-20 นาทีจนกระทั่งน้ำเย็น จากนั้นให้คุณกรองดอกคาโมมายล์ และใส่น้ำลงในขวดสเปรย์
- พ่นสเปรย์ให้ทั่วหนังศีรษะ และปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก โดยให้ทำเช่นนี้ 2-3 ครั้งต่อวัน
หากตอนนี้คุณรู้สึกคันศีรษะ หรือสังเกตว่าหนังศีรษะระคายเคือง การใช้วิธีที่เรากล่าวไปก็อาจช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง แถมยังไม่เปลืองเงินอีกด้วย คราวนี้คุณก็จะกลับมามีหนังศีรษะที่มีสุขภาพดีอีกครั้ง