การที่คุณจะมีหัวใจที่แข็งแรงได้นั้น ส่วนหนึ่งก็อยู่กับการทานอาหาร ทั้งนี้ The American Heart Association แนะนำให้เราทานผักและผลไม้สดเป็นจำนวนมาก และทับทิมก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ทั้งนี้ทับทิมสีแดงได้ถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ในหลายชนชาติ อย่างไรก็ดี การดื่มน้ำทับทิม 8 oz จะทำให้คุณได้รับ 150 แคลอรี อีกทั้งยังเป็นแหล่งของวิตามินเค โพแทสเซียม โฟเลต วิตามิน บี6 วิตามิน บี5 วิตามินอี สารฟลาโวนอยด์ และแทนนิน ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายแง่มุม เราลองมาดูกันดีกว่าว่าการทานทับทิมดีต่อหัวใจอย่างไร
1. ลดความดันโลหิต
การมีความดันโลหิตสูงสามารถทำร้ายหลอดเลือดแดง ซึ่งอาจเกิดการอุดตัน และนำไปสู่การเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงทำให้คุณเสี่ยงหัวใจล้มเหลว 2-3 เท่า ถ้าความดันโลหิตสูง หัวใจจำเป็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือด ซึ่งมันสามารถทำให้ห้องของหัวใจอ่อนแอและมีขนาดใหญ่ ทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทับทิมสามารถช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า คนที่มีความดันโลหิตสูงที่ดื่มน้ำทับทิม 1 แก้ว (150 ml/วัน) ในระหว่างช่วงพักเที่ยงและอาหารเย็นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ มีความดันโลหิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2. ต่อสู้กับโรคหลอดเลือดแข็ง
โรคหลอดเลือดแดงแข็งคือภาวะที่หลอดเลือดแดงตีบแคบและแข็ง เพราะมีคราบพลัคที่เป็นพวกคอเลสเตอรอล ของเสีย หรือไขมันชนิดอื่นๆ สะสมอยู่ภายในหลอดเลือด ซึ่งมันสามารถทำให้หัวใจล้มเหลว หรือทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ถ้าบางส่วนของคราบพลัคสลายตัว หรือมีลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นบนพลัคและไปอุดกั้นหลอดเลือดแดง อย่างไรก็ดี น้ำทับทิมอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิผล เพราะมันสามารถลดความหนาของหลอดเลือดแดง ซึ่งมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า คนที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ดื่มน้ำทับทิมเป็นเวลา 1 ปี มีความหนาของหลอดเลือดคาโรทิดลดลงประมาณ 30% ส่วนคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำทับทิมจะมีความหนาของหลอดเลือดดังกล่าวเพิ่มขึ้น 9% ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าเป็นเพราะสารแอนตี้ออกซิ เด้นท์ของโพลีฟีนอลที่พบได้ในทับทิมนั่นเอง
3. ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังหัวใจดีขึ้น
คนที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจมีหลอดเลือดที่ตีบแคบ ทำให้เลือดถูกลำเลียงน้อยลง และส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับออกซิเจนน้อยลงตามไปด้วย ทั้งนี้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า เมื่อผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจดื่มน้ำทับทิม 240 มิลลิลิตร เป็นเวลา 3 เดือน มันก็จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ส่วนคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำทับทิมในช่วงเวลาเดียวกันก็จะตกอยู่ในภาวะขาดเลือด
4. ลดคอเลสเตอรอล
การมีคอเลสเตอรอลสูงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเป็นโรคหัวใจ เมื่อคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี หรือที่เรียกว่า LDL หมุนเวียนอยู่ในเลือด มันก็จะไปเกาะตัวที่ผนังของหลอดเลือดแดงและทำให้เกิดคราบพลัค อย่างไรก็ตาม น้ำทับทิมสามารถช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลได้ค่ะ เพราะมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคไขมันในเลือดสูงที่ดื่มน้ำทับทิมเข้มข้น 40 กรัม เป็นเวลานาน 8 สัปดาห์ มีระดับของ LDL และคอเลสเตอรอลทั้งหมดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่คอเลสเตอรอลชนิดดี หรือ HDL กลับไม่ได้รับผลกระทบ
5. มีฤทธิ์เป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์
นักวิทยาศาสตร์รู้มาสักพักแล้วว่า คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี หรือ LDL ที่ถูกออกซิไดซ์แล้วมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ เพราะคอเลสเตอรอลชนิดนี้ทำให้เกิดคราบพลัคสะสมอยู่ภายในหลอดเลือดแดง แต่มีการค้นพบว่า สารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่พบได้ในน้ำทับทิมสามารถช่วยต้านการออกซิไดซ์ของ LDL ได้ ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า การดื่มน้ำทับทิมสามารถลดโอกาสที่จะเกิดการรวมตัวของ LDL อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่สามารถปกป้องไม่ให้ไขมันในเลือดสูงหรือไม่ให้เกิดการทำลายเซลล์ประมาณ 20%
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะทานทับทิม คุณควรรู้ก่อนว่าทับทิมสามารถไปขัดขวางการทำงานของยาที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต รวมถึงยังส่งผลต่อการทำงานของยาเจือจางเลือด ดังนั้นหากคุณอยู่ในช่วงที่ต้องทานยาตามที่แพทย์สั่ง คุณก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานทับทิม