ว่ากันถึงเทรนด์รักสุขภาพแล้ว นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การหันไปออกกำลังกายในฟิตเนสก็เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยม
แต่คุณทราบหรือไม่ว่า แท้ที่จริงแล้วฟิตเนสนั้นเรียกได้ว่าเป็นโรงงานผลิตเชื้อโรคใกล้ตัว ที่แม้แต่ผู้รักสุขภาพหลายคนก็อาจคาดไม่ถึง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ไม่ว่าจะเป็นบริเวณฟรีเวท เต็มไปด้วยดัมเบลเรียงราย บาร์โหน สารพัดเครื่องคาร์ดิโอ เสื่อโยคะ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งตู้เก็บของ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นจุดรวมเชื้อโรคมากมาย แม้จะผ่านการทำความสะอาดรายวันแล้วก็ตาม!
ฉะนั้น เราจึงควรรู้ 10 เทคนิคการหลีกเลี่ยงเชื้อโรคในฟิตเนส
1. สำรวจฟิตเนสให้ดีก่อนสมัครสมาชิก
ควรตรวจดูบริเวณห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ ให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพที่ดี สะอาด และไม่มีคราบฝังแน่น
หากเป็นไปได้ควรสอบถามพนักงานที่ดูแลฟิตเนสด้วยว่ามีการดูแลความสะอาดอย่างไร และบ่อยครั้งแค่ไหนในแต่ละบริเวณ
นอกจากนี้ ควรเลือกฟิตเนสที่มีการถ่ายเทอากาศได้สะดวกและไม่อับ
2. ทำความสะอาดอุปกรณ์ก่อนและหลังใช้งาน
โดยปกติแล้ว ตามฟิตเนสจะมีสเปรย์ทำความสะอาดและกระดาษทิชชู่ไว้ตามจุดต่างๆ อยู่แล้ว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณควรจับขวดสเปรย์นี้ผ่านกระดาษทิชชู่ และฉีดสเปรย์ไปที่ตัวอุปกรณ์โดยตรง หรือฉีดลงไปบนกระดาษทิชชู่เพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์นั้นๆ ก่อนและหลังการใช้งาน
ทั้งนี้ หากฟิตเนสไหนไม่ได้มีสเปรย์หรือกระดาษทิชชู่ไว้ให้ คุณอาจพกไปเองก็ได้
ในกรณีที่คิดจะไปโยคะ คุณอาจเตรียมเสื่อโยคะส่วนตัวไปเอง หรือหากไม่สะดวก อาจควรเตรียมผ้าขนหนูไว้ปูทับเสื่อโยคะของฟิตเนส ก่อนจะนั่งหรือนอนลงไป โดยไม่ควรเป็นผ้าขนหนูผืนเดียวกับที่จะใช้เช็ดหน้าหรือเช็ดตัว
3. ไม่วางผ้าเช็ดหน้าไว้บนเครื่องออกกำลังกาย
พฤติกรรมที่ผู้เข้าใช้ฟิตเนสส่วนหนึ่งทำเป็นประจำ คือการพาดผ้าขนหนูเอาไว้ที่เครื่องออกกำลังกาย แล้วนำไปเช็ดหน้าต่อ
คุณไม่ควรลืมว่าผู้ใช้งานคนเครื่องออกกำลังกายคนอื่นๆ ก็ทำลักษณะเดียวกัน อุปกรณ์เหล่านี้จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
คำแนะนำคือให้ใช้ผ้าเช็ดเหงื่อแบบพันรอบข้อมือแทน
คอร์สลดน้ำหนักออกกำลังกาย วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 441 บาท ลดสูงสุด 59%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสร่างกาย
อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า เชื้อโรคนั้นมีอยู่ทุกที่ในฟิตเนส ดังนั้นการที่เราจับหรือเกาหู ตา จมูก หรือปาก ในขณะที่ออกกำลังกาย ก็เหมือนการป้ายเชื้อโรคลงไปที่บริเวณทางเข้าพอดี ทำให้เชื้อมีโอกาสเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
5. ปกปิดบาดแผลให้มิดชิด
เชื้อโรคเข้าสู้ร่างกายได้รวดเร็วที่สุดผ่านรอยแผลที่ปิดไม่สนิท เพราะฉะนั้นควรใช้พลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลปกปิดบาดแผลก่อนที่จะเข้าใช้ฟิตเนส และไม่ควรโกนขนบริเวณต่างๆ ก่อนหรือหลังออกกำลังกายทันที
6. ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
ไม่ว่าจะเป็นผ้าขนหนู ที่ดับกลิ่นตัว หรือหวี ทั้งในกรณีที่เราขอยืมของผู้อื่นหรือผู้อื่นขอยืมของเราก็ตาม
แม้กระทั่งขวดน้ำก็ควรมีเป็นของตัวเอง อย่าไว้ใจเครื่องกดน้ำดื่มหรือเครื่องทำน้ำเย็นที่ฟิตเนส
7. หลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นและม้านั่งในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลายคนเดินเท้าเปล่าในห้องแต่งตัว หรือนั่งลงไปที่ม้านั่งในขณะที่ยังไม่ได้ปกปิดท่อนล่างให้มิดชิด
พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ผิวหนังของคุณสัมผัสกับเชื้อโรคได้โดยตรง
8. ทำความสะอาดร่างกายทันทีหลังออกกำลังกาย
อย่าปล่อยให้ร่างกายของคุณอยู่ใต้คราบเหงื่อไคลเป็นเวลานาน เพราะอาจก่อให้เกิดสิวหรือโรคผิวหนังได้
แต่หากไม่สามารถชำระล้างร่างกายได้ทันที อย่างน้อยก็ควรล้างมือให้สะอาดก่อนออกจากฟิตเนส และอาบน้ำทันทีเมื่อกลับถึงที่พัก
9. แยกเก็บรองเท้าและเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว
หากเลือกชำระร่างกายที่ฟิตเนส ควรเตรียมถุงพลาสติกมาไว้สำหรับใส่รองเท้าหรือเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้ว
ไม่ควรใส่ไปในกระเป๋าโดยตรงเพราะจะทำให้แบคทีเรียแพร่ไปยังของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ได้
10. หมั่นทำความสะอาดกระเป๋าใส่เสื้อผ้า
มีผลการวิจัยมากมายยืนยันว่า กระเป๋าที่เรานำไปใช้ในฟิตเนสนั้นสกปรกไม่น้อยไปกว่าโถส้วมเลย
เพราะบางคนใส่รองเท้าหรือเสื้อผ้าที่ใส่แล้วลงไปในกระเป๋า แล้วก็นำกระเป๋ากลับมาใช้อีกเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้ทำความสะอาด ทำให้มีแบคทีเรียตกค้างเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งแบคทีเรียเหล่านี้ยังแพร่กระจายผ่านทางตู้เก็บกระเป๋าได้อีกด้วย ทุกคนจึงควรหมั่นทำความสะอาดกระเป๋าเป็นประจำ และมีกระเป๋าสำรองไว้ผลัดเปลื่ยนการใช้งานบ้าง