กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

ผลสำรวจพฤติกรรมการเข้าคลินิกเสริมความงามของกลุ่มตัวอย่าง 9,351 คน พ.ศ. 2562 โดย HonestDocs

5 ประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการเข้าคลินิกเสริมความงามของชาย-หญิง
เผยแพร่ครั้งแรก 4 มิ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 2023 ตรวจสอบความถูกต้อง 4 มิ.ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
ผลสำรวจพฤติกรรมการเข้าคลินิกเสริมความงามของกลุ่มตัวอย่าง 9,351 คน พ.ศ. 2562 โดย HonestDocs

ตลาดธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงามของประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 250,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง 15-20% ทุกปี โดยในตัวเลข 250,000 นี้  มีมูลค่าตลาดคลินิกความงามราว 30,000 ล้านบาท และตลาดศัลยกรรมความงามอีก 30,000 ล้านบาท อัตราเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี (ศ. ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, 2561)

จะเห็นได้ว่า เหล่าโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ก็หันมาจับธุรกิจนี้มากขึ้น โดยไม่เพียงแต่จับกลุ่มลูกค้าคนไทยเท่านั้น ยังมุ่งไปที่ลูกค้าต่างประเทศด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ศัลยกรรมร่างกาย วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 20,500 บาท ลดสูงสุด 57,050 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

เพื่อศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับพฤติกรรมการเข้าคลินิกเสริมความงามของคนไทย HonestDocs จึงทำการออกแบบสอบถามเกี่ยวกับความถี่ในการเข้าคลินิกเสริมความงาม ประเภทบริการที่ผู้คนเลือกใช้ จำนวนเงินเฉลี่ยต่อเดือนที่จ่ายไป ฯลฯ โดยใช้วิธีแสดงแบบสอบถามออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Honestdocs.co ช่วงวันที่ 9-14 พฤษภาคม 2562 มีผู้ร่วมตอบคำถามทั้งสิ้น 9,351 คน

กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน ดังแผนภูมิด้านล่าง

ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ

ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามกลุ่มอายุ

จากการสำรวจ พบประเด็นน่าสนใจดังต่อไปนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ศัลยกรรมร่างกาย วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 20,500 บาท ลดสูงสุด 57,050 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

1. ผู้ชายจำนวนไม่น้อยก็เข้าคลินิกเสริมความงาม

แม้จะพบว่าผู้เข้าคลินิกเสริมความงามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง โดยจากการสำรวจแล้ว ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามที่เข้าคลินิกเสริมความงาม เพศหญิงและเพศชาย อยู่ที่ 27% และ 21% ตามลำดับ แต่เมื่อพิจารณาแยกตามช่วงอายุจะเห็นว่า ในทุกช่วงอายุของเพศชายนั้นมีผู้เข้าคลินิกเสริมความงามเป็นสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือประมาณ 20% ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ความถี่ของการเข้าคลินิกเสริมความงาม โดยหากดูภาพรวมของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จะพบว่าเกินครึ่งเข้าคลินิกเสริมความงามเมื่อมีปัญหา แต่เมื่อพิจารณาแยกตามเพศแล้ว จะเห็นพฤติกรรมของเพศชายที่เข้าคลินิกเสริมความงามบ่อยกว่าเพศหญิง โดยเพศชายจำนวนถึง 27% เข้าคลินิกเสริมความงามสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในขณะที่เพศหญิงที่เข้าคลินิกเสริมความงามสัปดาห์ละ 1 ครั้งนั้นมีจำนวนเพียง 12%

ร้อยละของผู้ตอบแบบคำถาม จำแนกตามความถี่ของการเข้าคลินิกเสริมความงาม เปรียบเทียบเพศชายกับเพศหญิง

2. ผู้หญิงเข้าคลินิกเสริมความงามกันมากในช่วงอายุ 45-54 ปี ส่วนผู้ชายทุกช่วงอายุเข้าคลินิกเสริมความงามเป็นสัดส่วนใกล้เคียงกัน

ผลการสำรวจผู้เข้าและไม่เข้าคลินิกเสริมความงาม จำแนกตามกลุ่มอายุ และเปรียบเทียบระหว่างเพศชายกับเพศหญิง พบว่าผู้หญิงช่วงวัย 45-54 ปี มีสัดส่วนผู้เข้าคลินิกเสริมความงามมากกว่าช่วงอายุอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด (34%) รองลงมาเป็นช่วงวัย 35-44 ปี (30%) และช่วงวัย 25-34 ปี (29%) ตามลำดับ อาจเป็นเพราะในช่วงวัย 45-54 ปี ฮอร์โมนเพศหญิงลดลง และการเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ เช่น คอลลาเจน ลดลง ผลที่ตามมาคือความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เสื่อมลงอย่างชัดเจน เช่น เต้านมฝ่อ  ผิวหนังแห้งและบางลง มีริ้วรอยและไม่กระชับ ซึ่งคลินิกเสริมความงามในปัจจุบันมีนวัตกรรมหลายอย่างที่ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องเหล่านี้ให้แก่ผู้เข้ารับบริการได้ คลินิกเสริมความงามจึงเป็นทางเลือกที่ผู้หญิงวัยนี้ใช้กันมาก

ร้อยละของผู้ตอบคำถาม ที่เข้าและไม่เข้าคลินิกเสริมความงาม จำแนกตามกลุ่มอายุ เปรียบเทียบเพศชายกับเพศหญิง

3. คนอายุน้อยมักเลือกวิธีเสริมความงามที่ไม่ใช้การผ่าตัด

ในการจัดทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการในคลินิกเสริมความงาม HonestDocs ได้จำแนกประเภทบริการเสริมความงามออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • ทำทรีทเมนต์หรือเลเซอร์ เช่น YAG กำจัดขน ทำ HIFU กระชับใบหน้า
  • เสริมความงามแบบใช้เข็ม เช่น ฉีดโบท็อกซ์ ทำเมโส
  • การผ่าตัดศัลยกรรม เช่น ผ่าตัดเสริมจมูก ผ่าตัดทำตาสองชั้น

ผลการสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มอายุ 12-17 ปี และ 18-24 ปี เลือกใช้บริการเสริมความงามกลุ่มทำทรีทเมนต์หรือเลเซอร์มากที่สุด ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มอายุ 55-64 ปี จะมีการใช้บริการเสริมความงามทั้งสามกลุ่มมาก เป็นสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยใช้การเสริมความงามแบบใช้เข็มมากที่สุด (44%) รองลงมาใช้การผ่าตัดศัลยกรรม (42%) และอันดับสามใช้การทำทรีทเมนต์หรือเลเซอร์ (40%)

ร้อยละของผู้ตอบคำถาม จำแนกตามกลุ่มอายุ เปรียบเทียบประเภทของการเสริมความงามที่พวกเขาเคยทำ

น่าสังเกตว่าเมื่อดูเฉพาะกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป พวกเขาจะเลือกใช้บริการผ่าตัดศัลยกรรมมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับบริการเสริมความงามวิธีอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะเมื่อผิวหนังเสื่อมสภาพถึงจุดหนึ่ง วิธีการใช้เข็มหรือทรีทเมนต์ไม่สามารถแก้ไขจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือในกลุ่มผู้ที่เสริมความงามด้วยการใช้เข็ม เมื่อทำซ้ำบ่อยเข้าก็จะตอบสนองต่อการเสริมความงามด้วยวิธีนี้น้อยลง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ศัลยกรรมร่างกาย วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 20,500 บาท ลดสูงสุด 57,050 บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

4. ยิ่งอายุมาก...ยิ่งจ่ายเงินเพื่อความงามมากขึ้น

การสำรวจจำนวนเงินเฉลี่ยต่อเดือนที่ผู้ตอบแบบสอบถามจ่ายไปในการเข้าคลินิกเสริมความงาม เปรียบเทียบแต่ละกลุ่มอายุ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มอายุ 12-17 ปี 18-24 ปี และ 25-30 ปี ส่วนใหญ่จะจ่ายเงินเฉลี่ยในการเข้าคลินิกเสริมความงามน้อยกว่า 1,000 บาท ต่อเดือน และจากกราฟจะเห็นได้ว่ายิ่งเป็นกลุ่มที่อายุมากขึ้น ก็จะยิ่งมีการใช้จ่ายเงินเพื่อเข้าคลินิกเสริมความงามสูงขึ้น โดยเห็นได้ชัดเจนที่กลุ่มอายุ 55-64 ปี และกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป ว่ามีการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยในการเข้าคลินิกเสริมความงามต่อเดือนอยู่ที่ 4,001-5,000 บาท และ 5,000 บาทขึ้นไป ตามลำดับ

ร้อยละของผู้ตอบคำถาม จำแนกตามจำนวนเงินเฉลี่ยต่อเดือนที่จ่ายไปต่อการเข้าคลินิกเสริมความงาม เปรียบเทียบแต่ละกลุ่มอายุ

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อาจเพราะคนอายุมากขึ้นมีรายได้และความสามารถในการใช้จ่ายสูงกว่าคนอายุน้อย รวมไปถึงมีความจำเป็นที่ต้องฟื้นฟูความเสื่อมของสภาพร่างกายมากกว่า และบางรายอาจต้องพึ่งคลินิกเสริมความงามเพื่อแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่เป็นปัญหาเกี่ยวโยงต่อสุขภาพ เช่น เมื่ออายุมากขึ้น หนังตาของบางคนจะม้วนเข้าจนเกิดปัญหาขนตาขูดขีดกระจกตา เป็นต้น

5. คลินิกที่ให้­­­บริการผ่าตัดศัลยกรรม มีตั้งแต่ราคาถูกมากไปถึงแพงมาก

ผลการสำรวจประเภทของการเสริมความงามที่ผู้ตอบแบบสอบถามเคยทำ และเปรียบเทียบจำนวนเงินเฉลี่ยนต่อเดือนที่พวกเขาใช้ในการเสริมความงาม พบว่าในกลุ่มที่เคยผ่าตัดศัลยกรรม เช่น ผ่าตัดเสริมจมูก ผ่าตัดทำตาสองชั้น คนที่เสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่า 1,000 บาท มีจำนวนมากเกือบเท่ากับคนที่เสียค่าใช้จ่ายเกิน 5,000 บาท ซึ่งคิดเป็น 26% และ 30% ตามลำดับ

ร้อยละของผู้ตอบคำถาม จำแนกตามประเภทของการเสริมความงามที่พวกเขาเคยทำ เปรียบเทียบจำนวนเงินเฉลี่ยต่อเดือนที่จ่ายไป

ที่เป็นเช่นนี้อาจเพราะคลินิกเสริมความงามที่ให้บริการผ่าตัดศัลยกรรมมีจำนวนมาก จึงมีการแข่งขันสูง ทำให้ระดับราคาหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งคลินิก ความเชี่ยวชาญและความมีชื่อเสียงของแพทย์ รวมถึงเทคโนโลยีที่แต่ละคลินิกมีให้บริการ ดังนั้นข้อควรระวังของผู้ที่จะเข้ารับบริการคลินิกเสริมความงามคือ ก่อนตัดสินใจทำต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก วิธีการที่ใช้ และแพทย์ผู้ดำเนินการให้ถี่ถ้วนก่อนเสมอ โดยเบื้องต้นอาจสังเกตว่าในคลินิกที่น่าเชื่อถือควรมีสิ่งเหล่านี้

  • ชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
  • ใบอนุญาตประกอบกิจการและใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลในที่ตั้งชัดเจนและเปิดเผย
  • หลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมประจำปีของปีปัจจุบัน
  • แพทย์ประจำอยู่ในคลินิกจริง โดยมีการแสดงชื่อ รูปถ่าย และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพ
  • ราคาค่ารักษาติดที่หน้าห้องตรวจ ให้เห็นชัดเจน

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)