คุณนอนหลับวันนี้ และคุณก็ต้องนอนหลับเกือบทุกวันในชีวิต ในความเป็นจริงแล้วคุณใช้เวลา 1/3 ของชีวิตคุณไปกับการนอน แต่ทำไมเราถึงต้องนอน ? การนอนหลับช่วยให้ร่างกายกลับไปสู่สภาวะตั้งต้น ? ทำความเข้าใจกับทฤษฎีเกี่ยวกับสมมติฐานและหน้าที่ของการนอนหลับที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจกลับคืนสู่สภาวะปกติ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ของการนอนหลับ
ปัจจุบันยังไม่มีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับจุดประสงค์หรือหน้าที่ของการนอนหลับ
ตรวจการนอน Sleep Test วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,455 บาท ลดสูงสุด 50%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถึงแม้ว่าการนอนหลับนั้นจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ แต่มีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับการนอนที่ยังคงเป็นปริศนา ในช่วงไม่กี่ 10 ปีที่ผ่านมานี้เองที่เราเริ่มค้นพบความลับบางส่วนของการนอนหลับ มีอย่างน้อย 3 ทฤษฎีที่บอกว่าทำไมเราถึงต้องนอน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทฤษฎีใดคือสิ่งที่ถูกต้อง ในความเป็นจริงยังคงต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อค้นหาจุดประสงค์อื่นของการนอน
1. ทฤษฎีการนอนหลับเพื่อพักฟื้น
ทฤษฎีนี้เป็นคำอธิบายที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดเกี่ยวกับเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องนอน โดยทฤษฎีนี้เสนอว่าการนอนหลับจะช่วยทำให้เนื้อเยื่อกลับคืนสู่สภาวะปกติและเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับวันถัดไป ซึ่งอาจจะประกอบไปด้วยการกำจัดสารสื่อประสาทที่สะสมในสมอง รวมถึงการซ่อมแซมเนื้อเยื่อทั้งร่างกาย ระบบน้ำเหลืองจะทำการกำจัดสารเคมีจากสมองออกไปในขณะที่นอนหลับ ซึ่งรวมถึง adenosine ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกง่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ยังตื่น
2. ทฤษฎีการนอนหลับเพื่อปรับตัว
ทฤษฎีนี้เสนอว่าการนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายมีความสามารถในการมีชีวิตรอดเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงเวลากลางคืนนั้นอาจจะอันตราย โดยเฉพาะสัตว์ซึ่งมีความเสี่ยงจากผู้ล่า ดังนั้นจึงต้องหาที่ปลอดภัย และเมื่อสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ก็ทำให้สัตว์นั้น ๆ มีชีวิตที่นานขึ้นและสืบพันธุ์ได้มากขึ้น ดังนั้นการนอนหลับจึงมีประโยชน์ในด้านของการปรับตัว เมื่อเช้าวันใหม่มาถึงก็จะเป็นตัวกระตุ้นอันทรงพลังที่ทำให้เราตื่น และทำให้มีวิวัฒนาการที่ตอบสนองต่อกลางวันและกลางคืน
3. ทฤษฎีการสะสมพลังงาน
ทฤษฎีนี้กล่าวว่าการนอนหลับนั้นเป็นไปเพื่อสะสมพลังงาน เพราะการนอนหลับแสดงว่าร่างกายเราจะใช้เวลาทำงานโดยลดระบบการเผาผลาญลง ดังนั้นความต้องการพลังงานโดยรวมก็จะลดลง หากเราใช้เวลานอนไปกับการตื่น เราก็อาจจะมีอาหารไม่เพียงพอที่จะมีชีวิตรอดได้ การนอนหลับจึงเพิ่มเวลาในการสร้างไกลโคเจนซึ่งเป็นแหล่งสะสมพลังงานสำหรับสมอง แต่พบว่าถึงแม้ในช่วงการนอนแบบ slow-wave นั้นจะมีการเผาผลาญพลังงานที่ช้า แต่สมองกลับตื่นตัวอย่างมากในช่วง rapid eye movement (REM) sleep ดังนั้นทฤษฎีนี้จึงอาจใช้อธิบายเกี่ยวกับการรักษาพลังงานได้ไม่ทั้งหมด
4. ทฤษฎีอื่นๆ
การนอนหลับดูเหมือนจะมีหน้าที่อื่นและอาจมีสิ่งอื่นที่ทำให้เกิดการนอนหลับขึ้น การนอนช่วยให้เราได้เรียนรู้ ปรับแต่งและทำให้ความจำนั้นคงอยู่นานมากขึ้นในช่วง REM นอกจากนั้นการนอนหลับยังเป็นเรื่องจำเป็นต่อการแก้ปัญหา มันอาจทำให้เราสามารถคิดค้นทางออกใหม่ขึ้นมาเมื่อมีการเชื่อมต่อกันเกิดขึ้นภายในสมอง การนอนหลับยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นแข็งแรงขึ้นและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ บางคนอาจมีความเห็นว่าช่วงการนอนแบบ REM นั้นสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมองในทารก
ไม่ว่าการนอนหลับจะมีจุดประสงค์หรือการทำงานอย่างไร (ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายอย่าง) แต่การนอนหลับก็เป็นกิจกรรมหลักอย่างหนึ่งที่เราทำตลอดชีวิต และอาจจะเป็นสิ่งที่เรารู้จักมันน้อยที่สุด นี่จึงเป็นโอกาสในการตั้งสมมติฐานต่าง ๆ ขึ้น ดังนั้นหากคุณพบว่าตัวเองนอนมองเพดานระหว่างรอให้ตัวเองหลับ ลองถามตัวเองว่าทำไมเราถึงต้องนอน