พยาธิใบไม้ตับ ภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในอาหาร

พยาธิใบไม้ตับ อีกตัวการทำให้เกิดโรคมะเร็งที่คุณมองไม่เห็น
เผยแพร่ครั้งแรก 4 มิ.ย. 2020 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
พยาธิใบไม้ตับ ภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในอาหาร

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • พยาธิใบไม้ตับ คือ หนอนพยาธิที่มักพบได้ในอาหารที่มีส่วนประกอบเป็นปลาน้ำจืด ปรุงไม่สุก หรือดิบ พบมากในอาหารพื้นถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ก้อยปลา ลาบปลา ปลาปิ้ง
  • วงจรพยาธิใบไม้ตับมักเกี่ยวข้องกับอวัยวะท่อน้ำดี และถุงน้ำดีซึ่งอยู่ในตับ จนทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดี
  • อาการของโรคพยาธิใบไม้ตับจะไม่แสดงออกมาจนกว่าจำนวนพยาธิมาการสะสมมากขึ้น ส่วนวิธีรักษา คือ รับประทานยาฆ่าพยาธิ ซึ่งหากไม่รับรักษา ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดภาวะตับวายจนเสียชีวิตได้
  • โรคมะเร็งท่อน้ำดี เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีดินประสิวประกอบมาก หรือเกิดจากการรับประทานยาฆ่าพยาธิใบไม้ตับอย่างต่อเนื่องมากเกินไป วิธีรักษามักเป็นการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก หรือตัดตับทิ้ง
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจมะเร็งทั่วไป

พยาธิ คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ เป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายต่างๆ แก่มนุษย์และสัตว์ที่มันอาศัยอยู่

พยาธิ มีหลายชนิด สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น ชอนไชเข้าทางผิวหนัง หรือปนเปื้อนอยู่ในอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุกด้วยความร้อน แล้วเมื่อมีผู้รับประทานอาหารนั้นเข้าไป ก็รับเอาพยาธิเข้าไปด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

พยาธิใบไม้ตับ เป็นหนึ่งในชนิดของพยาธิที่พบได้บ่อยในอาหาร และเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วย

พยาธิใบไม้ตับคืออะไร?

พยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini) คือ หนอนพยาธิที่มีรูปร่างแบนคล้ายใบไม้ แต่ส่วนหัวกับท้ายลำตัวเรียว ความยาวประมาณ5-10 มิลลิเมตร กว้างประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีสีส้มแสดคล้ายกับสีเลือดจาง

พยาธิใบไม้ตับมีระบบสืบพันธุ์ทั้งเพศผู้และเพศเมียในตัวเดียว มีอายุขัยประมาณ 20 ปี พบได้มากในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถบตะวันออกเฉียงเหนือ แถบภาคเหนือของไทย และประเทศลาว

วงจรชีวิตของพยาธิใบไม้ตับ

วงจรชีวิตพยาธิใบไม้ตับจะเกี่ยวข้องกับอวัยวะของคนด้วย ซึ่งได้แก่ ท่อน้ำดี และถุงน้ำดีที่อยู่ในตับ โดยพยาธิใบไม้ตับที่โตเต็มที่มักจะอาศัยอยู่ในท่อน้ำดีในตับคน สุนัข หรือแมว

เมื่อพยาธิใบไม้ตับผสมพันธุ์แล้วออกไข่ ไข่ของพยาธิชนิดนี้ก็จะปะปนไปกับน้ำดี แล้วไหลลงไปสู่ลำไส้เล็ก จากนั้นก็จะถูกขับออกจากร่างกายผ่านอุจจาระ

หลังจากไข่พยาธิถูกขับออกจากอุจจาระลงสู่แหล่งน้ำ หอยน้ำจืดขนาดเล็กก็จะกินไข่พยาธิเข้าไป ซึ่งนับเป็นพาหะชั้นที่ 1 ระหว่างนั้นไข่พยาธิก็จะเจริญเติบโตอยู่ในหอยประมาณ 6-8 สัปดาห์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

หลังจากนั้นตัวอ่อนพยาธิก็จะว่ายน้ำออกจากหอยแล้วไชเข้าไปใต้เกล็ดปลาน้ำจืด เช่น ปลาขาว ปลาสร้อย ปลาตะเพียน ปลาซิว ปลาขาวนา ปลาซิว แล้วใช้ระยะเวลาติดต่ออยู่ในเนื้อปลาประมาณ 4 สัปดาห์

เมื่อปลาที่มีพยาธิตัวอ่อนเจริญเติบโตอยู่ถูกจับเพื่อนำไปรับประทาน และไม่ผ่านการปรุงอาหารที่ทำให้สุก ตัวอ่อนพยาธิในระยะติดต่อก็จะเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ สุนัข หรือแมว ผ่านน้ำย่อยในกระเพาะอาหารแล้วเข้าสู่ระบบท่อน้ำดี ไปเจริญเติบโตเป็นพยาธิตัวเต็มวัยในร่างกายมนุษย์ สุนัข หรือแมว ในที่สุด

อาหารที่มักพบพยาธิใบไม้ตับ

อาหารที่พบพยาธิใบไม้ตับได้แก่อาหารที่มีส่วนประกอบของปลาน้ำจืด ซึ่งทำแบบดิบๆ หรือปรุงไม่สุก ทำให้ตัวอ่อนพยาธิยังไม่ตายและยังปนเปื้อนอยู่

มักพบมากในอาหารพื้นถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ก้อยปลา ลาบปลา ปลาร้า แจ่วบอง ปลาปิ้ง ส้มตำใส่ปลาร้า 

ซึ่งนอกเหนือจากพยาธิใบไม้ตับแล้ว อาหารประเภทที่กล่าวไปข้างต้นยังพบสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่ใช้วิธีหมักดองหรือเนื้อสัตว์ผสมดินประสิว เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม แหนม หมูส้ม กุนเชียง ปลาเค็ม

โรคที่มักเกิดจากโรคพยาธิใบไม้ตับ

พยาธิใบไม้ตับมักก่อให้เกิดโรคหลักๆ อยู่ 2 โรค ได้แก่ โรคพยาธิใบไม้ตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดี

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

1. โรคพยาธิใบไม้ตับ (Liver fluke)

เกิดจากพยาธิใบไม้ตับได้เข้าเจริญเติบโตอยู่ในท่อน้ำดีและถุงน้ำดี จนเกิดอาการอุดตันและอักเสบ รวมถึงกัดกินเนื้อเยื่อตับ ทำให้เกิดแผลและมีอาการเลือดออก ปล่อยสารพิษซึ่งขัดขวางการสร้างเม็ดเลือดแดง

ผู้ป่วยโรคพยาธิใบไม้ตับจะไม่มีอาการแสดงใดๆ ออกมาในช่วงแรก แต่เมื่อจำนวนพยาธิที่สะสมอยู่มีมากขึ้นก็จะเกิดอาการดังนี้

  • ท้องอืด
  • ท้องเฟ้อ
  • ท้องเสีย
  • แน่นท้อง
  • เจ็บชายโครงขวา
  • ตัวเหลือง
  • ตาเหลือง
  • มีไข้ต่ำ หรืออาจไข้สูงจนถึงขั้นหนาวสั่น

หลังจากนั้นเมื่อจำนวนพยาธิมากขึ้น และไปอุดตันท่อน้ำดีในตับ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องด้านบน ผอมลง น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อาจมีภาวะตับวายเนื่องมาจากเสียหายหนักมาก และอาจถึงแก่ชีวิตได้

วิธีวินิจฉัยและรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับ

แพทย์จะวินิจฉัยโรคนี้โดยการตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ หรืออาจตรวจทางรังสีวินิจฉัย ตรวจทางวิทยาภูมิคุ้มกันร่วมด้วย

หลังจากพบว่าเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ แพทย์จะรักษาโดยให้รับประทานยาฆ่าพยาธิใบไม้ตับก่อน โดยตัวยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคนี้มากที่สุด คือ ยาพราซิควอนเทล (Praziquantel)

อย่างไรก็ตาม นอกจากการรับประทานยา ผู้ป่วยจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินประกอบด้วย โดยให้งดรับประทานปลาดิบที่เสี่ยงมีพยาธิใบไม้ตับอาศัยอยู่

โรคพยาธิใบไม้ตับสามารถลุกลามทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้ โรคมะเร็งชนิดนี้จึงเป็นโรคมะเร็งอีกชนิดที่มักเกิดขึ้นหากร่างกายของคุณมีพยาธิใบไม้ตับมากเกินไป

2. โรคมะเร็งท่อน้ำดี (Cholangiocarcinoma)

โรคมะเร็งท่อน้ำดี เป็นโรคมะเร็งที่เกิดจากเซลล์บริเวณเยื่อบุทางเดินน้ำดีแบ่งตัวผิดปกติ ทั้งยังสามารถลุกลามไปที่อวัยวะใกล้เคียงได้ เช่น ตับอ่อน ลำไส้เล็ก เส้นเลือดแดงที่เลี้ยงตับ เส้นเลือดดำที่เลี้ยงตับ

โรคมะเร็งท่อน้ำดีถือเป็นโรคมะเร็งอันดับต้นๆ ที่ผู้คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยมักเป็นกัน และยังพบในผู้ป่วยชายมากกว่าผู้หญิง

โรคมะเร็งท่อน้ำดีเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับพยาธิใบไม้ตับทั้งสิ้น

  1. เกิดจากการรับประทานยาฆ่าพยาธิใบไม้ตับอย่างต่อเนื่อง เมื่อพยาธิใบไม้ตับตายในปริมาณมากๆ เซลล์บุท่อน้ำดีก็จะตายไปด้วย ทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานผิดปกติ และพัฒนาเป็นโรคมะเร็ง
  2. เกิดจากสารไนโตรซามีนซึ่งแฝงอยู่ในอาหารประเทศที่ใช้ดินประสิวประกอบด้วย เช่น แหนม กุนเชียง ปลาร้า ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอีกชนิดหนึ่ง

โรคมะเร็งท่อน้ำดีแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่ โรคมะเร็งท่อน้ำดีในตับ โรคมะเร็งท่อน้ำดีนอกตับ

2.1 โรคมะเร็งท่อน้ำดีในตับ (peripheral cholangiocarcinoma)

เป็นประเภทของโรคมะเร็งท่อน้ำดีที่มักถูกเข้าใจผิดว่า เป็นโรคมะเร็งตับ เพราะผู้ป่วยจะมีอาการตับโต เนื่องจากเซลล์มะเร็งไปเจริญเติบโตบริเวณเยื่อบุ่อน้ำดีในตับ แล้วขยายตัวออกไป

นอกจากนี้ ผู้ป่วยจะยังมีอาการไม่สบายท้อง ปวดตัว โดยเฉพาะบริเวณหลังกับไหล่ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด คลื่นไส้อาเจียน

2.2 โรคมะเร็งท่อน้ำในดีนอกตับ (Extrahepatic cholangiocarcinoma)

มักเกิดบริเวณท่อทางเดินน้ำดีใกล้กับตับ (Porta hepatis) ข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจเกิดบริเวณท่อน้ำดีตับร่วม (Common hepatic bile duct)

ผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีนอกตับมักจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง โอกาสรอดชีวิตค่อนข้างน้อย เนื่องจากมักตรวจพบโรคเมื่อโรคมะเร็งลุกลามไปถึงขั้นร้ายแรงแล้ว อีกทั้งความซับซ้อนของโรคมะเร็งท่อน้ำดีนอกตับยังซับซ้อนกว่าประเภทในตับด้วย

วิธีวินิจฉัยโรคมะเร็งท่อน้ำดี

วิธีวินิจฉัยโรคมะเร็งท่อน้ำดีสามารถทำได้หลายวิธี โดยเริ่มจากการซักประวัติสุขภาพผู้ป่วยก่อน อาจมีการตรวจเลือดว่า เป็นดีซ่านหรือไม่ จากนั้นอาจมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เช่น

  • การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง หรืออัลตราซาวด์ (Ultrasound)
  • การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI Scan (Magnetic Resonance Imaging)
  • การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan (Computerised Tomography)
  • การตรวจดูค่าการทำงานของตับ (Liver function test)
  • การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor marker)

ผู้ป่วยโรคพยาธิใบไม้ตับ คือ กลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีมากที่สุด ทางที่ดี หากคุณเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับแล้ว ก็ควรเข้ารับการตรวจโรคมะเร็งท่อน้ำดีไว้ด้วย

ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีในระยะเริ่มต้นแล้ว ก็ควรตรวจอัลตราซาวด์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อดูความคืบหน้าของอาการโรค

วิธีรักษาโรคมะเร็งท่อน้ำดี

วิธีรักษาโรคมะเร็งท่อน้ำดีให้หายขาดได้ คือ การผ่าตัดเอาเนื้องอกออกให้หมด จากนั้นแพทย์จะติดตามผลการรักษาผ่านการอัลตราซาวด์ หรือทำ CT Scan ทุกๆ 3 เดือน

ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถตัดเนื้องอกออกได้ทั้งหมด แพทย์อาจพิจารณาให้ตัดเนื้องอกออกบางส่วน หรือรักษาแบบประคับประคอง การใช้เคมีบำบัดร่วมกับรังสีบำบัด

โรคมะเร็งท่อน้ำดีมีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับการทำงานของตับเป็นอย่างมาก ผู้ป่วยบางรายอาจถูกพิจารณาให้ผ่าตัดเปลี่ยนตับ หรือตัดตับทิ้ง หากมีอาการเหลืองมาก

วิธีป้องกันพยาธิใบไม้ตับ

คุณสามารถป้องกันไม่ให้พยาธิใบไม้ตับเข้าสู่ร่างกายได้ ผ่านการปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • รับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาดเท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง มีสารก่อมะเร็ง ใส่ดินประสิว
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดแบบดิบ หรือปรุงไม่สุก
  • ดูแลสุขอนามัยร่างกายให้สะอาด ขับถ่ายในห้องน้ำที่สะอาดเท่านั้น
  • งดบริโภคแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่

ทางที่ดี เพื่อให้คุณมีความสุขกับการรับประทานอาหารควบคู่ไปกับการมีสุขภาพที่แข็งแรง จึงควรไปตรวจสุขภาพกับแพทย์เป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์ให้มากที่สุด

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจมะเร็งทั่วไป จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชันเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
ศูนย์เภสัชสนเทศ โรงพยาบาลลำพูน, พยาธิใบไม้ตับก่อมะเร็งท่อน้ำดี (http://www.lpnh.go.th/newlp/wp-content/uploads/2013/10/DIS-News-13-2559.pdf), 2 พฤษภาคม 2559.
โยพนา หาญชนะ คณะทำงานบริหารสมัชชาสุขภาพจังหวัดสุรินทร์, โรคพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี (https://kbphpp.nationalhealth.or.th/bitstream/handle/123456789/3157/2015031718-Surin-Cholangiocarcinoma(PowerPoint).pdf?sequence=1).
ผศ.นพ.โกศล รุ่งเรืองชัย, พยาธิใบไม้ตับ...ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี (https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=779), 11 พฤศจิภายน 2553.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ท้องเสียตอนมีประจำเดือน ไข้ทับระดู สาเหตุ อาการ การรักษา และการป้องกัน
ท้องเสียตอนมีประจำเดือน ไข้ทับระดู สาเหตุ อาการ การรักษา และการป้องกัน

รู้จักอาการ และผลกระทบของไข้ทับฤดู พร้อมตอบข้อสงสัยที่คนมักถามต่างๆ

อ่านเพิ่ม
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap Smear
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap Smear

มะเร็งปากมดลูกพบเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย แต่เป็นมะเร็งที่มีวิธีสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 80%

อ่านเพิ่ม
ตรวจมะเร็ง ตรวจคัดกรองมะเร็ง ลดความเสี่ยงโรคร้ายที่มากับความเงียบ
ตรวจมะเร็ง ตรวจคัดกรองมะเร็ง ลดความเสี่ยงโรคร้ายที่มากับความเงียบ

ป้องกันมะเร็งด้วยการปรับพฤติกรรมเป็นเรื่องที่ดี แต่หากได้ตรวจคัดกรองมะเร็ง หรือตรวจมะเร็ง ด้วยจะยิ่งมั่นใจกว่า

อ่านเพิ่ม