คุณสามารถเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อราได้จากการหายใจเอาฝุ่นดินที่ปนเปื้อนเชื้อราบางชนิดเข้าไป
ถึงแม่ว่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสมักจะเป็นสาเหตุของการติดเชื้อและความเจ็บป่วยส่วนใหญ่ แต่เชื้อราก็สามารถทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น เชื้อ Candida albicans ที่มักทำให้เกิดการติดเชื้อ หากการติดเชื้อราเกิดการแพร่กระจายเข้าสู่ระบบสารทส่วนกลาง (ซึ่งประกอบไปด้วยไขสันหลังและสมอง) ผ่านทางเลือด อาจทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อราซึ่งเป็นการอักเสบของเยื่อที่หุ้มรอบระบบส่วนกลางได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ใครบ้างที่จะเป็นโรคนี้
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อราไม่ใช่โรคติดต่อ คือไม่สามารถติดต่อโดยตรงจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนได้ และยังพบได้น้อยมากในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ อ้างอิงจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC)
โดยส่วนมาก โรคนี้จะเกิดกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องจาก
- การผ่าตัด เช่นการเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก
- โรคต่างๆ เช่น HIV/AIDS เบาหวาน และมะเร็ง
- ยาเช่นสเตียรอยด์ ยาเคมีบำบัด และยากลุ่ม anti-TNF ที่ใช้รักษาโรคข้ออักเสบแบบรูห์มาตอยด์
ความชุกทั้งหมดของโรคนี้ไม่สามารถประเมินได้ชัดเจน แต่บางอย่างอาจพบได้บ่อยในกลุ่มประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ตัวอย่างเช่นเชื้อรา Cryptococcus neoformans เป็นเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่พบได้บ่อยที่สุด อ้างอิงจาก Meningitis Research Foundation โดยมีรายงานในวารสาร AIDS ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2009 ที่ระบุว่าโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อดังกล่าวนั้นทำให้เกิดโรคในผู้ป่วยที่เป็น HIV/AIDS ประมาณ 1 ล้านคนต่อปี
สาเหตุของการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา
เชื้อ Cryptococcus neoformans นั้นสามารถพบได้ในอุจจาระของนกป่า คุณสามารถติดเชื้อนี้ได้หากสูดดมฝุ่นดินที่มีการปนเปื้อนอุจจาระเหล่านี้ อย่างไรก็ตามโรคนี้เกิดในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติน้อยมาก เชื้อ C. albicans สามารถทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้เช่นกันในเด็กที่คลอดก่อนกำหนดและมีน้ำหนักตัวน้อยมาก เชื้อรานี้มักได้รับในช่วงที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล เชื้อ Histoplasma เป็นเชื้อราอีกชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ โดยเชื้อนี้อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มักจะเป็นดินซึ่งมีอุจจาระของนกหรือค้างคาวปริมาณมาก ข้อมูลจาก Meningitis Research Foundation พบว่าเชื้อนี้มักไม่ก่อโรคในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ ในสหรัฐอเมริกา เชื้อ Histoplasma นั้นมักพบในแถบกลางและตะวันออก เช่นรัฐโอไฮโอ และ แถบลุ่มแม่น้ำมิสซิปซิปปี้ นอกจากนั้นยังสามารถพบได้ในแถบอเมริกากลางและใต้ แอฟริกา เอเชียและออสเตรเลีย
สาเหตุอื่นของการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา
เชื้อรา Blastomyces และ Coccidiodes เป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ในดินซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายและทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ (แต่พบได้น้อยมาก) หากมีการสูดดมเอาสปอร์ของเชื้อที่มีการกระจายตัวเข้าไปBlastomyces นั้นพบในดินซึ่งเต็มไปด้วยสารอินทรีย์ที่กำลังย่อยสลายในแถบตะวันตกส่วนกลาง ในขณะที่ Coccidiodes พบในพื้นที่เฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วยภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและบางส่วนของอเมริกาตอนกลางและใต้ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Coccidiodes สูงขึ้น (หรือที่เรียกว่า valley fever) ประกอบด้วย
- คนแอฟริกันอเมริกัน
- คนฟิลิปปินส์
- ผู้หญิงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
เชื้อราอื่นๆ ก็สามารถทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้เช่นกัน ในปี 2012 CDC ได้รายงานว่ามีการระบาดของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งมักเกิดจากการได้รับยาฉีดสเตียรอยด์และปนเปื้อนกับเชื้อรา Exserohilum rostratum
การรักษาและการป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา
ผู้ที่เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรานั้นมักจะมีอาการเช่นเดียวกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากสาเหตุอื่น ซึ่งประกอบด้วย
การรักษาโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรานั้นประกอบไปด้วยการกำจัดเชื้อ ซึ่งต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา (ที่จำเพาะต่อเชื้อนั้น) เป็นระยะเวลานาน และมักต้องให้ผ่านเส้นเลือดดำในโรงพยาบาล ไม่มีวัคซีนใดที่สามารถป้องกันการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อราได้ การป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรานั้นทำได้โดยการหลีกเลี่ยงพื้นดินบริเวณที่มีเชื้อราอาศัยอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
คนควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน แล้วอาการสมองบวมน้ำเกิดจากการกินน้ำเยอะไปได้ไมค่ะ