คุณอาจคิดว่าการรักษาเชื้อราที่เท้า และเล็บเท้า เป็นอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่จำเป็นต้องพึ่งยาเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในห้องครัวของคุณ เพื่อบรรเทาอาการเชื้อราที่เท้าและเล็บเท้าได้
จะทราบได้อย่างไรว่าเรากำลังเป็นโรคเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้า
เชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้าเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ "Onychomycosis" ซึ่งเกิดจากการอักเสบ โดยเล็บจะมีลักษณะ หรืออาการผิดปกติดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- มีโพรงใต้เล็บ
- มีการหนาตัวของเล็บ
- มีการเปลี่ยนสีของเล็บ โดยมักเป็นสีเหลืองหรือสีขาว
- ผิวเล็บไม่เรียบ
- เล็บมีรูปร่างผิดปกติ บางรายเล็บอาจฝ่อไป อีกลักษณะอาการหนึ่งคือเล็บอาจมีลักษณะบวม
สาเหตุของโรคเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้า
สาเหตุหลักเกิดจากการติดเชื้อราในกลุ่มเดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophyte) ที่บริเวณเล็บ ซึ่งมีปัจจัยที่ทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น ได้แก่
- การสัมผัสเชื้อราโดยตรง
- มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เบาหวาน รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน
- การเป็นโรคผิวหนังบางชนิด เช่น สะเก็ดเงิน
การรักษาโรคเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้า
การรักษาหลักของโรคเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้าคือ การได้รับยาต้านเชื้อรา แต่นอกเหนือจากนั้น เรายังสามารถใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้ เพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้าได้
1. น้ำมันสกัดจากต้นชา (Tea tree oil)
การรักษาเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้าด้วยน้ำมันทีทรีออยล์สามารถปกป้องเชื้อรา และฆ่าเชื้อโรคได้
วิธีการรักษา: เริ่มด้วยการทำความสะอาดบริเวณที่มีเชื้อรา จากนั้นใช้น้ำมันทีทรีออยล์ทาบริเวณที่ทำความสะอาดแล้ว ปล่อยให้เล็บเท้า หรือบริเวณที่เป็นเชื้อราชุ่มน้ำมันทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วค่อยเช็ดน้ำมันออก ทำซ้ำเช่นนี้ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง จนกว่าอาการจะดีขึ้น
2. โซเดียมไบคาร์โบเนต หรือเบกกิ้งโซดา
โซเดียมไบคาร์โบเนต หรือเบกกิ้งโซดา มีคุณสมบัติสามารถขจัดความชื้นส่วนเกินบนผิวหนังซึ่งนำไปสู่การเกิดเชื้อราได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดกลิ่นอับของเท้าได้ด้วย
วิธีการรักษา: ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่า โดยให้เบกกิ้งโซดามีลักษณะเป็นเนื้อครีม แล้วนำไปพอกกับเท้า หรือเล็บเท้าที่เป็นเชื้อรา โดยให้พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก หรืออาจใช้วิธีการแช่เท้าในน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดาก็ได้
3. แป้งข้าวโพด
การรักษาเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้าโดยแป้งข้าวโพดถือเป็นวิธีการที่ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ แม้แป้งข้าวโพดจะมีส่วนประกอบของเชื้อรา แต่เชื้อราดังกล่าวนั้นปลอดภัยกับมนุษย์ และสามารถกำจัดเชื้อราที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ได้
วิธีการรักษา: ผสมแป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง กับน้ำเปล่าประมาณ 2 ลิตร ลงในกะละมังหรืออ่างน้ำ ทิ้งแป้งข้าวโพดให้ละลายกับน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงแช่เท้าไว้อย่างน้อย 30 นาที สูตรการแช่เท้ากับน้ำแป้งข้าวโพดนี้ ยังเป็นการบำรุงเท้าของคุณได้อีกด้วย
4. น้ำส้มสายชูกลั่นขาว หรือน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์
เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด ดังนั้น การรักษาโรคเชื้อราที่เท้าหรือเล็บเท้าด้วยน้ำส้มสายชูจึงเป็นการรักษาสมดุลของค่ากรดด่างในผิว เพราะเชื้อราถือเป็นด่าง นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจาย ทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราด้วย
วิธีการรักษา: ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่ากัน แล้วแช่เท้าไว้ประมาณ 30 นาที หลังจากแช่เท้าเสร็จเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
5. น้ำยาบ้วนปาก
น้ำยาบ้วนปากไม่ใช่แค่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคในปากของคุณได้เท่านั้น แต่กับเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคที่เท้ากับเล็บเท้าของคุณก็ไม่แตกต่างกัน เพราะน้ำยาบ้วนปากมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค และช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราที่เป็นอันตรายได้
วิธีการรักษา: ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำยาบ้วนปากกับน้ำเปล่า ในปริมาณที่เท่ากัน แล้วแช่เท้าไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นขัดบริเวณเท้า หรือเล็บที่เป็นเชื้อราเบาๆ ทำซ้ำแบบนี้ 1-2 ครั้งต่อวัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น
6. น้ำมันดอกลาเวนเดอร์
น้ำมันดอกลาเวนเดอร์มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค และยังช่วยป้องกันการระคายเคืองต่อผิวหนังได้อีกด้วย
วิธีการรักษา: ใช้สำลีชุบน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ แล้วทาลงบนเท้า หรือเล็บที่เป็นเชื้อรา พอกสำลีทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออก คุณสามารถทำซ้ำแบบนี้ได้หลายครั้งต่อวันเท่าที่ต้องการจนกว่าอาการจะดีขึ้น
7. กระเทียม
กระเทียมมีคุณสมบัติที่สามารถต้านเชื้อราได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารประกอบธรรมชาติที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้
วิธีการรักษา: ผสมกระเทียมสับ หรือบด หรือใช้น้ำมันกระเทียมกับน้ำส้มสายชู จากนั้นพอกบริเวณที่เป็นเชื้อราและบริเวณโดยรอบ แล้วพันด้วยผ้าพันแผล หรือผ้าก็อซทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมง ทำซ้ำแบบนี้ทุกวันจนกว่าอาการจะดีขึ้น
8. น้ำมันดอกทานตะวัน
มีการศึกษาพบว่าน้ำมันดอกทานตะวันมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ในห้องทดลอง นอกจากนี้จากการทดลองในคน พบว่าน้ำมันดอกทานตะวันสามารถรักษาโรคเชื้อราที่เท้าได้เทียบเท่ากับยาต้านเชื้อราคีโตโคนาโซล (Ketoconazole)
วิธีการรักษา: ทาน้ำมันดอกทานตะวันบริเวณเล็บที่ติดเชื้อให้ทั่ววันละ 2 ครั้ง นานอย่างน้อย 3 เดือน
โรคเชื้อราที่เท้าและเล็บเท้าอาจรักษาได้ไม่ยากหากได้รับการวินิจฉัยที่ทันเวลาและเชื้อแบคทีเรียยังไม่ลุกลามออกไปมาก แต่เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของเท้าและเล็บเท้า เราจึงควรรักษาความสะอาดบริเวณผิวเท้าอยู่เสมอ และไม่ปล่อยให้เท้าอับชื้นจนเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรก เพียงเท่านี้ โรคเชื้อราที่เท้าและเล็บเท้าก็จะไม่เกิดขึ้นให้คุณต้องรู้สึกระคายเคืองผิวเท้า หรือทำให้วิถีชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างลำบากขึ้นอีก